อำเภอบ้านด่าน / ตำรวจรวบหนุ่มวัย 35 ปีมีอาการเพี้ยน อ้างเป็น กอ.รมน.บุกเข้าบ้านเรือนชาวบ้านอ้างตามหาเมียที่หนีไปกับชายคาดอยู่บ้านหลังนี้ เค้นสอบพบว่าเมียหนีกับผู้ชายชื่อตั้มไปเมื่อต้นเดือน ตรวจฉี่พบสีม่วง เจ้าตัวสารภาพที่เสพเพราะเครียดที่ตามหาเมียไม่เจอ ตำรวจตั้ง 2 ข้อหาเสพและขับเสพ

วันที่ 12 ธ.ค.67 พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ สมกิจศิริ ผกก สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งจากผู้ใหญ่บ้าน บ้านสำโรง หมู่ที่ 5  ต.โนนขวาง ว่ามีบุคคลแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน) เข้าขอตรวจค้นบ้านเรือนชาวบ้าน

จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.กรกช จงนิมิตรสถาพร รอง ผกก.ป และ พ.ต.ต. วรากร ดิษฐเเนตร สวป.สภ.บ้านด่าน พร้อมกำลังเข้าตรวจสอบ พบชายทราบชื่อต่อมานายปุณณภพ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี (เบลอหน้า) ชาว อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ ขี่รถจักรยานยนต์ บิ๊กไบค์ สีแดง หมายเลขทะเบียน 1 ขล 9483 กรุงเทพมหานคร กำลังหลบหนีไป ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ สภ.บ้านด่าน

โดยระหว่างการสอบสวนนายนิวมีอาการคล้ายคนเมา ให้การไปร้องไห้ไป ได้ใจความว่านายนิว ออกจากบ้านมาตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค.เพื่อตามหาภรรยาของตัวเองที่หนีไปกับผู้ชายชื่อตั้ม ส่วนสาเหตุที่เข้าไปบ้านของชาวบ้าน เพราะทราบว่ามีผู้ชายในบ้านหลังนี้ชื่อตั้ม และคิดว่าภรรยาน่าจะหนีมากับผู้ชายคนนี้แน่นอน ไม่คิดจะทำร้ายใครแค่อยากจะตามหาภรรยาเท่านั้น

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจปัสสาวะ พบเป็นสีม่วง โดยนายนิว รับสารภาพว่าเสพยามาด้วย สาเหตุเพราะเครียดที่ตามหาภรรยาไม่เจอ

สอบถามนางสาว วรรณภา ชะดารัมย์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59 หมู่ที่ 5 บ้านสำโรง ต.โนนขวาง อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ เจ้าของบ้านที่นายนิว เข้าไปในบ้านเล่าว่า ตอนนั้นตนกำลังทำกับข้าวอยู่ห้องครัว

ได้มีลูกชายวิ่งมาบอกว่ามีคนมาหาพ่อ จึงบอกไปว่าสามีไม่อยู่จากนั้นนายนิว ได้เดินเข้ามาในบ้านเอาหน้าโผล่ไปที่ห้องครัว จึงถามกลับไปว่ามาหาใคร นายนิว ตอบว่ามาหาตั้ม ตอนแรกคิดว่ารู้จักกับสามีเพราะสามีชื่อตั้ม จึงบอกไปว่าไปตัดอ้อย

นายนิว บอกว่าตนเป็นทหาร คนชื่อตั้ม พาภรรยาผมหนีมาตอนนี้เริ่มเอะใจจึงโทรศัพท์วีดีโอคอลไปหาสามีให้ดูหน้า นายนิว ตอบว่าไม่ใช่แต่ยังไม่หนีไปไหนพยายามจะไปบ้านอีกหลังหนึ่งซึ่งเป็นบ้านพ่อของตน รู้สึกว่าจะไม่ปลอดภัยจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบดังกล่าว

หลังสอบสวนตำรวจแจ้งข้อหา เสพยาเสพติดประเภท1 (ยาบ้า) และเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะ (ขับเสพ) ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป