วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 03:49 น.

ภูมิภาค

มาเป็นกองโจรอ้างเป็น ปปส. บุกสับกุญแจมือค้นบ้านเอาทรัพย์เผ่น

วันอังคาร ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2567, 16.03 น.

อำเภอลำปลายมาศ / มาอีกหนึ่งรูปแบบ กลุ่มชายฉกรรจ์ 5 คน ขับกระบะมาจอดหลังบ้านเข้าไปล็อคเจ้าของบ้านใส่กุญแจมือขังในห้อง 3 คน อ้างเป็นตำรวจ ปปส.ยึดโทรศัพท์ 5 เครื่อง แล้วทำการค้นบ้านหาทรัพย์สิน โชคดีน้องชายอยู่นอกบ้านเห็นกล้องวงจรปิดโทรแจ้งตำรวจก่อนคนร้ายจะรีบวิ่งขึ้นรถหนีไป


วันที่ 17 ธ.ค.67 พ.ต.อ.สยาม เกียรติบรรจง ผกก.สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบหาข้อมูลที่บ้านเลขที่ 71 หมู่ 3 บ้านบุผู้หญิง ต.บุโพธิ์ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์


หลังจากเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 16 ธ.ค.ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 5 คน อ้างเป็นตำรวจ ปปส.บุกเข้าไปใส่กุญแจมือเจ้าของบ้านแล้วค้นบ้านเอาทรัพย์สินไป ได้โทรศัพท์มือถือจำนวน 5 เครื่อง ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นกลุ่มคนทั้งหมดไม่น่าจะใช่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ


สอบถามนายนิพนธ์  (สงวนนามสกุล) (เบลอหน้า) อายุ 33 ปี เจ้าของบ้านเล่าว่า ตนมีอาชีพขายเนื้อหมูสด เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น.ตอนนั้นตนนอนเล่นอยู่ในบ้าน ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์จำนวน 4 คนบุกเข้ามาทางหลังบ้านแล้วเข้ามาประชิดตัว แต่ละคนแขวนบัตรคล้องคอมา เห็นเป็นตราของตำรวจ มาถามหานายนิธิ หรือ โด้ ปะโคทั้ง อายุ30 ปี น้องชายของตนเอง จึงแจ้งไปว่าน้องไม่ได้อยู่


หนึ่งในนั้นได้เอากุญแจมือมาล็อคตนเอาไว้ แล้วควบคุมตัวตน เพื่อนน้องชายที่นั่งอยู่หน้าบ้านและแม่ของตนมารวมกันไว้ในห้องไม่ให้ออกไปไหน กลุ่มชายทั้งหมดไม่พูดอะไร อ้างเพียงว่าเป็นตำรวจ ปปส.มาจากจังหวัดนครราชสีมา จะมาค้นหายาเสพติด กลุ่มชายทั้งหมดจะใช้เสียงน้อยมากส่วนใหญ่จะกระซิบเพื่อสื่อสารกันเท่านั้น


โดยได้ยึดเอาโทรศัพท์ของตนที่อยู่ในบ้าน ของเพื่อนน้องชายและแม่รวม 5 เครื่องเอาไว้เพื่อไม่ให้ติดต่อใครได้ จากนั้นได้ลงมือรื้อค้นภายในบ้านประมาณ 10 นาที จนกระทั่งมีเสียงโทรศัพท์ของน้องชายดังเข้ามา ประมาณ 20 นาทีได้มีรถตำรวจของ สภ.ทะเมนชัย เปิดไฟวาบๆมาจอดหน้าบ้าน ทำให้กลุ่มคนร้ายตกใจรีบคว้าเอาโทรศัพท์จำนวน 5 เครื่อง พร้อมกับถอดซิมในกล้องวงจรปิดออกไปด้วย ก่อนวิ่งหนีออกไปหลังบ้านขึ้นรถกระบะที่จอดรอด้านหลังหลบหนีไป


นายนิพนธ์ เล่าด้วยว่าสาเหตุที่ตำรวจมาได้ทันเวลา เพราะน้องชายซึ่งไม่ได้อยู่บ้านแต่เห็นตนกับแม่ถูกล็อคกุญแจมือกักไว้ในห้องในกล้องวงจรปิดที่ดูผ่านมือถือ น้องชายจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจดังกล่าว


ขณะที่นางสุภาพ (สงวนนามสกุล) อายุ 67 ปี แม่ของนายนิพนธ์ บอกว่าตกใจมากที่มีกลุ่มคนกรูเข้ามาแบบนั้น ยอมรับว่างงถ้าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะแจ้งก่อน แต่ไม่ยอมแจ้งและเข้ามาทางด้านหลังบ้าน ตอนนั้นตนปวดปัสสาวะจะเข้าห้องน้ำบ้านน้องสาวที่อยู่ติดกัน กลุ่มชายฉกรรจ์ก็ไม่ยอมให้ไป จริงแล้วถ้าเป็นเจ้าหน้าที่จริงน่าจะเข้าหน้าบ้านแล้วแสดงตัวอยากให้ตำรวจติดตามหาคนกลุ่มนี้มาสอบสวนให้เร็วที่สุด

 

 

 

 

 

หน้าแรก » ภูมิภาค