วันที่ 26 ธ.ค. 67 ที่ศาลาอเนกประสงค์วัดคลองตามั่น ม.8 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี นาวาอากาศตรีสุธรรม ระหงษ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้นำท้องถิ่น ประชาชน และจิตอาสาเฝ้าระวังช้างป่า ตำบลเขาไม้แก้วและตำบลวังท่าช้าง ซึ่งที่ผ่านมา 2 ตำบลนี้มีฝูงช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน เข้ามาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านนานกว่า 2 เดือน ทำให้นาข้าว มันสำปะหลัง อ้อยของชาวบ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก และได้ทำร้ายชาวบ้านเสียชีวิตเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา สร้างความหวาดผวาให้กับชาวบ้านอย่างมาก ทั้งนี้เจ้าหน้าที่อนุรักษ์พร้อมกับผู้นำท้องถิ่นและจิตอาสาฯ ทั้งสองตำบล ร่วมกับจิตอาสา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ร่วมผลักดันช้างป่าอีกด้วย แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่ฯ จะสนธิกำลังผลักดันช้างป่าให้ออกจากพื้นที่การเกษตร แต่ก็ยังมีฝูงช้างป่าเข้ามาหากินอยู่ในพื้นที่เกือบทุกวัน

โดยมีชาวบ้านให้ข้อเสนอแนะผ่านเลขานุการฯ ไปยังรัฐมนตรี และรัฐบาล โดยให้เร่งแก้ไขปัญหาช้างป่าไม่ให้ออกมาหากินในพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านอย่างเด็ดขาด เช่น การทำคูกั้นช้างให้ลึกและรอบ รวมถึงการทำรั้วกั้นช้าง และให้เพิ่มกำลังจิตอาสาฯ อีกเพราะกำลังคนมีไม่เพียงพอ เกษตรกรได้เร่งเก็บเกี่ยวอ้อยหนีช้างป่า แต่ก็ต้องรอเวลาให้อ้อยอายุครบ 120 วันจึงจะตัดได้ ขณะนี้อ้อยยังไม่ครบอายุที่จะตัดส่งโรงงาน คาดว่าหลังปีใหม่เกษตรกรจะตัดอ้อยส่งโรงงานน้ำตาล จากนั้นเลขานุการและคณะได้เดินทางไปดูฝูงช้างที่ยังเหลืออยู่ 20 กว่าตัวที่อาศัยอยู่ข้างป่าสะเดา ซึ่งเป็นแหล่งที่พักพิงของฝูงช้างป่า เลขานุการรัฐมนตรีฯ รับปากจะนำข้อเสนอแนะและความคิดเห็นของชาวบ้านให้กับรัฐมนตรี รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาช้างของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชเขาอ่างฤาไน โดยทุกคนอยากให้เขตรักษาพันธุ์ฯ สำรวจประชากรช้างใหม่ ซึ่งสำรวจครั้งที่แล้วเมื่อหลายปีก่อนมีประชากรช้างคร่าวๆ 750 ตัว คาดว่าที่ช้างออกมาหากินนอกเขตรักษาพันธุ์ฯ อาจเป็นส่วนหนึ่งของช้างที่มีประชากรเพิ่มขึ้น ทำให้แหล่งอาหารไม่เพียงพอจึงพากันมาหากินในพื้นที่ตำบลวังท่าช้างและเขาไม้แก้ว ซึ่งทั้งสองตำบลนี้ปลูกอ้อย 60,000 ไร่ และรองลงมาเป็นมันสำปะหลังและนาข้าว ซึ่งเป็นแหล่งอาหารอย่างดีของช้างป่า