เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 26 ธ.ค. 67 นายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ พร้อมด้วยฝ่ายปกครอง ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่หมู่ที่ 3, 4, 5 และ 6 ได้เดินทางมาพบผู้สื่อข่าวและขอชี้แจงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น โดยนายธนกฤต พรมเสน กำนันตำบลสันผีเสื้อ กล่าวว่า จากกรณีเหตุทำร้ายร่างกายเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เหตุการณ์เกิดในช่วงผลบค่ำ ซึ่งตนได้รับแจ้งว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกันเกิดขึ้นที่บ้านร้องอ้อ ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ตนจึงได้ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านในเขตปกครองนั้น เพื่อให้ไปดูเหตุการณ์ เพราะอยู่ใกล้ที่สุด แต่ทางผู้ใหญ่บ้านติดธุระจึงได้ให้ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านเดินทางไปตรวจสอบแทน จากนั้นตนก็ประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ที่อยู่ใกล้เคียง เพื่อไปสมทบ และตนได้เดินทางตามไปพร้อมกับสารวัตรกำนัน เดินประมาณ 15 นาที ตามไปตรวจสอบร่วมด้วย แต่พอไปถึงก็ไม่พบผู้บาดเจ็บแล้ว และทราบว่าได้ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อไปทำการรักษา

จากการสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งมีประธานสภาเทศบาลตำบล ที่เป็นคู่กรณีของผู้บาดเจ็บ ก็ให้ข้อมูลว่า ได้มาพบกันและถูกคนเจ็บพูดกวนโทสะกัน ด้วยความโมโหก็ด้วยอารมณ์พลั้งพลาดจึงได้เท้าเตะไป 1 ครั้ง ซึ่งขณะนั้นไม่รู้ว่าบาดเจ็บแค่ไหน แต่ทั้งสองฝ่ายรู้จักกันอยู่แล้ว ต่อมาตนจึงได้แนะนำให้ประธานสภาฯ ที่เป็นคู่กรณี ติดตามไปยังโรงพยาบาล เพื่อตรวจเยี่ยมอาการและให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลังเกิดเหตุ ให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพราะทั้งคู่ก็รู้จักกันมานานและทำงานร่วมกันมา ในวันนั้นทางประธานสภาฯ ก็ยังได้เอากระเช้า พร้อมกับเงินจำนวน 5,000 บาท ไปเยี่ยมด้วย

หลังเกิดเหตุทางผู้บาดเจ็บก็ได้ติดต่อมาและขอปรึกษากับทางตนตลอด ว่าควรจะทำอย่างไรบ้าง ไปพบเจอกันดีหรือไม่ กระทั่งทั้งสองฝ่ายได้ตกลงมาพบเจอเพื่อเจรจากันที่บ้านของผู้บาดเจ็บ โดยขอให้ทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ของผู้บาดเจ็บไปเป็นสักขีพยาน และผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้เคียงไปร่วมด้วย แต่ไปถึงก็เพียงแค่นั่งฟังทั้งสองฝ่ายเจรจาตกลงกัน และไม่ได้ให้คำแนะนำอะไร เพื่อให้ทั้งสองคนเจรจากันเอง จากตอนแรกได้มีการเรียกร้องค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวนถึง 100,000 บาท แต่หลังจากเจรจา และด้วยความเห็นใจกัน และทั้งคู่ก็รู้จักกันมานาน จึงเหลือเพียง 30,000 บาท เป็นการช่วยเหลือ เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเหตุทะเลาะวิวาทของคนเพียงแค่สองคน ไม่ได้เกี่ยวกับทางฝ่ายปกครอง เหมือนกับที่เป็นข่าวออกไปว่า ฝ่ายปกครองลำเอียงไปเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง                      

หลังจากมีข่าวออกไปก็ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองได้รับผลกระทบไปด้วย เพราะชาวบ้านที่ไม่ทราบข้อเท็จจริงก็มาต่อว่าทางฝ่ายปกครองจนเกิดความเสียหาย แล้วได้รับการดูถูก เหยียดหยามจากผู้ที่ไม่เข้าใจ และคิดว่าฝ่ายปกครองไม่เอาไหน ทั้งที่ทางฝ่าปกครองของเทศบาลตำบลสันผีเสื้อทำงานอย่างหนักและไม่เคยเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง และวางตัวเป็นกลางมาโดยตลอด และวันที่เกิดเหตุก็ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ช่วงเกิดเหตุ เพียงแต่ไปตรวจสอบเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังได้รับแจ้งเท่านั้น สำหรับฝ่ายผู้บาดเจ็บที่ไปแจ้งความและจะดำเนินการกับฝ่ายผู้ก่อเหตุนั้น ก็เป็นสิทธิส่วนตัวของเขา ทางฝ่ายปกครองไม่ได้แนะนำหรือให้ดำเนินการอย่างไร ขึ้นอยู่กับทางผู้บาดเจ็บกับคู่กรณี

"สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและถูกโยงไปถึงบ้านของ สจ.รายหนึ่ง ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นเพียงสำนักงานขอลูกชาย สจ.รายดังกล่าวเท่านี้น ช่วงเกิดเหตุทั้งตัว สจ. และลูกชายไม่ได้อยู่ด้วย เพียงแต่เป็นสำนักงาน และบุคคลทั้งสองคนก็ทำงานร่วมกับลูกชายท่าน สจ.มาตลอด ซึ่งเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด หลังเกิดเหตุก็ได้มีการสอบถามข้อเท็จจริงและช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และทราข้อเท็จจริง ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องทะเลาะวิวาทของคนสองคนไม่เกี่ยวกับฝ่ายปกครองในพื้นที่และสจ.เชียงใหม่คนหนึ่งแต่อย่างไร และทางฝ่ายปกครองกำนันผู้ใหญ่บ้านพร้อมให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายเชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงลงเอยด้วยดี" กำนันตำบลผีเสื้อ กล่าวในที่สุด