ภูมิภาค
"สนธยา พาเข้าวัด" นมัสการพระธาตุพนม ศูนย์รวมใจไทย–ลาวริมโขง
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

วันที่ 2 ก.พ. 68 สนธยา พาเข้าวัด ได้มีโอกาสเดินทางไปกราบนมัสการ พระธาตุพนม ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิต การงานเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆขึ้น โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีแรก ห้ามจุดธูป เทียน บูชา ให้มีการเวียนเทียนด้วยดอกไม้ และบูชาด้วยดอกไม้ เพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก( PM 2.5)
ซึ่งทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ชาวอำเภอธาตุพนม จ.นครพนม ทุกภาคส่วน ร่วมกัน จัดงาน ประเพณี นมัสการ พระธาตุพนม ขึ้น และปีนี้(ปี 68) กำหนดจัดงานนมัสการพระธาตุพนม ระหว่างวันที่ 5 - 13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่วัดธาตุพนมวรมหาวิหาร ในงานจะมีการทำบุญตักบาตร มีสินค้าจากโรงงาน ผลิตภัณฑ์ดีเด่น ระดับ 5 ดาว ให้ช้อปให้ชิมอย่างจุใจ ที่สำคัญในวันที่ 12 ก.พ. 2568 คือ วันมาฆะบูชา จัดให้มีการเวียนเทียน รอบองค์พระธาตุพนม เพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นมงคลชีวิตอีกด้วย
สำหรับ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ติดกับประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว( สปป.ลาว) เป็นวัดสังกัดมหานิกาย มีพระภิกษุสงฆ์ และสามเณร หลายรูป มรรคนายก จำนวนหนึ่ง บนเนื้อที่กว่า 50 ไร่ เป็นที่ตั้ง กุฏิสงฆ์ สามเณร อุโบสถและศาลาการเปรียญ และที่สำคัญและโดดเด่นมากที่สุด คือ พระธาตุพนม ถือว่า เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวทางใจ ซึ่งพุทธศาสนิกชนชาวไทยและ สปป.ลาว ให้ความเคารพ นับถือ ศรัทธา มาเป็นเวลาช้านาน
สำหรับ คำว่า “ธาตุ” เป็นชื่อเรียกพระเจดีย์ เป็นภาษาไทยเหนือและไทยทางภาคใต้ทั่วไป องค์พระธาตุพนมเป็นเจดีย์สี่เหลี่ยม วัดโดยรอบ 44.20 เมตร เดิมสูงจากพื้นดินถึงยอด 43.00 เมตร กรมศิลปากรเสริมขึ้นอีก 10.00 เมตร พ.ศ.2483 จึงเป็น 43.05 เมตร รวมทั้งฉัตรอีก 4.00 เมตร ปัจจุบัน ความสูงจากพื้นดินจนถึงยอดฉัตร อยู่ที่ 47.05 เมตร
ทั้งนี้ องค์พระธาตุพนมสูงแบ่งเป็น 4 ตอน ได้แก่ ตอนที่ 1,2 เป็นรูปปรางค์ มีซุ้มประตูแบบโบราณอยู่ทั้ง 4 ด้าน ประดับด้วยลวดลายสลักอิฐวิจิตรงดงาม เป็นรูปลายก้านขดและรูปกษัตริย์โบราณ (ท้าวพญาทั้ง 5 ) ที่มาสร้างพระธาตุพนม ทั้ง 2 ตอนนี้ ถือว่า เป็นของโบราณแท้ เก่าแก่มิได้สร้างเสริม ส่วนที่เห็นอิฐแดงทั่วไปนั้นโบราณแท้ ส่วนใดที่โบกปูนฉาบปูนไว้นั้น เป็นการซ่อมแซมในยุคต่อมา ต่อจากนั้นขึ้นไปเป็นบัวคว่ำและบัวปากระฆังหรือขวดแก้ว ตอนที่ 3. เป็นตัวระฆัง หรือ ขวดแก้วเรียว รัดขึ้นโดยลำดับ ตามลักษณะขวดแก้วสี่เหลี่ยม ตอนที่ 4. เป็นยอดขึ้นไปจนถึงฉัตร
ปัจจุบัน พระธาตุพนม ประดิษฐาน ณ.วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ตำบลและอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ในเขตภาค 4 อยู่ฝั่งขวา(ตะวันตก)ของแม่น้ำโขง อันเป็นเส้นกั้นเขตแดนระหว่างประเทศไทยและประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว) สมัยโบราณ สถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุพนม เรียกว่า “ ภูกำพร้า “ หรือ “ ดอยกำพร้า” ภาษาบาลี ว่า “ กปณบรรพต “ หรือ “ กปณคีรี “ ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำขลุนที เป็นเขตแขวงนครศรีโคตรบูรโบราณ นครนี้ ตำนานบอกว่า อยู่ใต้ปากเซบั้งไฟ ซึ่งเป็นแม่น้ำแควสายหนึ่ง ไหลจากภูเขาแดนญวน ตกแม่น้ำโขงตรงธาตุพนม เข้าใจว่าเป็นเมืองร้างแห่งหนึ่ง อยู่ริมแม่น้ำเซบั้งไฟทางใต้ ลึกจากฝั่งโขงเข้าไปในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวประมาณ 5 -6 กิโลเมตร ชาวบ้านเรียกว่า เมืองขามแท้
ซึ่งตามตำนานที่บอกเล่าสืบต่อกันมาว่า สมัยหนึ่งเป็นปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธองค์ มีพระอานนท์เป็นปัจฉาสมณะ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก มาที่ตอนกอนเนานั้นก่อน แล้วเสด็จไปหนองคันแทเสื้อน้ำ(เวียงจันทร์) ทำนายว่า จะเกิดบ้านเมืองใหญ่ ที่ตั้งพุทธศาสนาแล้วลงมาโดยลำดับ ประทานรอยพระบาทที่โพนฉัน โปรดสุขหัตถีนาถ(พระบาทโพนฉัน) อยู่ตรงข้าม อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย แล้วมาพระบาทเวินปลา(เหนือเมืองนครพนม) ทำนาที่ตั้งเมืองมรุกขนคร มาพักแรมที่ภูกำพร้า 1 ราตรี วิสสุกรรมเทวบุตรลงมาอุปัฏฐาก รุ่งเช้า เสด็จข้ามไปบิณฑบาต ที่เมืองศรีโคตรบูร พักอยู่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุองฮัง เมืองสุวรรณเขตลาว) แล้วกลับมาทำภัตกิจที่ภูกำพร้า
ขณะนั้น พญาอินทร์เสด็จมาเฝ้าและทูลถามเหตุที่ประทับภูกำพร้า เพื่อเหตุอะไร พุทธองค์ทรงพยากรณ์ว่า เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ในภัททกิลป์นี้คือ กกุสันธะ, โกนาคมนุ, กัสสปะ ที่นิพพานไปแล้ว สาวกทั้งหลายย่อมนำเอาพระบรมธาตุบรรจุไว้ ณ. ภูกำพร้า เมื่อเรานิพพานไปแล้ว กัสสปะผู้เป็นสาวกก็จะนำเอาพระธาตุมาบรรจุเช่นเดียวกันดังนี้ ตรัสปรารภเมืองศรีโคตรบูรและมรุกขนคร แล้วเสด็จไปหนองหานหลวงเทศนาโปรดพญาสุวรรณภิงคารและพระนางเทวี ประทานรอยพระบาทไว้ แล้วกลับสู่พระเชตวันและนิพพานที่กุสินารานคร
เมื่อพระบรมศาสดานิพพานแล้ว กัลป์ลกษัตริย์ทั้งหลายถวายพระเพลิงไม่สำเร็จจนมหากัสสปะมาถึง พระเถระเจ้ามาถึงแล้ว นำพระสงฆ์กระทำเวียนวัฏฏ์ ประทักษิณ 3 รอบ แล้วอธิษฐานว่า พระธาตุองค์ใดที่จะให้ข้าพระบาทนำไปประดิษฐ์ไว้ที่ภูกำพร้า ขอพระธาตุองค์นั้นเสด็จออกมาอยู่บนฝ่ามือบัดนี้ จากนั้น พระบรมอุรังคธาตุก็เสด็จออกมาบนฝ่ามือขวาของท่าน ขณะนั้น ไฟธาตุก็ลุกโชติช่วงเผาพระบรมสรีระเองน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก พระเถระเจ้าห่อพระบรมอุรงคธาตุไว้ด้วยผ้ากัมพลอัคคีด้วยความเคารพ
ครั้นถวายพระเพลิงและแจกพระธาตุเรียบร้อยแล้ว พระเถระเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ ก็นำพระอุรังคธาตุมา ที่ดินแท่น(ภูเพ็ก อ.พรรณานิคม เมืองสกลนคร)ไปบิณฑบาตที่เมืองหนองหานหลวง เพื่อบอกกล่าวแก่พญาสุวรรณภิงคาร ฝ่ายชาวเมืองหนองหานหลวง มีพญาสุวรรณภิงคารและนางพญา ทราบข่าว พระพุทธองค์นิพพาน ต่างก็หวังว่า คงได้รับส่วนแบ่งพระบรมสารีริกธาตุ จึงเกณฑ์กันให้สร้างพระเจดีย์ไว้ 3 ลูก ให้ผู้ชายสร้างไว้ที่ภูเพ็ก ผู้หญิงมีพระนางนารายณ์เจงเวงเป็นหัวหน้าสร้างไว้ที่สวนพุทยาน(ธาตุนางเวง)ห่างเมืองสกลนคร 6 กม. สัญญาว่า ฝ่ายใดสร้างเสร็จก่อนจะให้พระบรมธาตุได้บรรจุในเจดีย์ของฝ่ายนั้น ในที่สุดฝ่ายผู้หญิงสำเร็จก่อน ฝ่ายชายหลงอิตถีมายา พากันทิ้งงานไปช่วยผู้หญิงเสียหมด พระเจดีย์ภูเพ็กจึงไม่สำเร็จ
เมื่อพระมหากัสสปะมาบิณฑบาต พญาสุวรรณภิงคารทราบว่า พระเถระอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาด้วย ท้าวเธอจึงได้ขอแบ่ง พระเถระเจ้าถวายพระพรว่า ที่นี่มิใช่ภูกำพร้า ผิดพุทธประสงค์ ถ้าให้ไว้ก็จะไม่เป็นมงคลแก่พระองค์และบ้านเมือง จึงให้พระอรหันต์คืนไป เอาพระอังคารธาตุ(ถ่านเพลิง) จากที่ถวายพระเพลิงบรรจุไว้ที่ธาตุนางเวง เพื่อบำรุงพระราชศรัทธามิให้เสีย ท้าวพญาเมืองต่างๆ เมื่อทราบว่า พระอรหันต์ทั้งหลายจะอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุที่ภูกำพร้า ก็มีความโสมนัสยินดี ได้ยกกำลังโยธามาต้อนรับอยู่ ณ.ภูกำพร้า คือ พญานินทเสน เมืองศรีโคตรบูร พร้อมไพล่พล สกัดหินมุกหินทรายไว้คอยท่า
ส่วนพญาคำแดง เมืองหนองหานน้อย ผู้เป็นพระอนุชาพญาสุวรรณภิงคารได้ทราบ ก็ยกโยธามาสมทบกับเมืองหนองหานหลวง พญาสุวรรณภิงคารให้พราหมณ์ห่มขาว 8 คน เป็นผู้อัญเชิญพระอุรังคธาตุ แห่ด้วยยศบริวารสู่ภูกำพร้า พร้อมด้วยพระอรหันต์ 500 องค์ มีพระมหากัสสปะเป็นประธาน
เมื่อพญาทั้ง 5 มาถึงภูกำพร้า พร้อมทัพพล ประชุมกัน และตกลงว่า ให้ปั้นดินก่อนตามคำเถระ แบบพิมม์ดินกว้างยาวเอาฝ่ามือพระมหากัสสปะเป็นแบบ ครั้นปั้นดินเสร็จแล้ว ก็พากันขุดหลุมกว้าง 2 วา ลึก 2 ศอก เท่ากัน 4 ด้าน พญาสุวรรณภิงคารขุดก่อนเป็นปฐมฤกษ์ เวียนทักษิณจากด้านตะวันออกไป และพญาทั้งหลายก็ขุดตามดำดับจนเรียบร้อย และเมื่อก่อขึ้นเป็นรูปเตา 4 เหลี่ยม สูง 1 วา ก่อขึ้นรวบยอดเป็นรูปฝาปารมีสูงอีก 1 วา แล้วทำประตูเผาไฟทั้ง 4 ด้าน เอาไม้จวง จันทน์ กฤษณา กระลำพัก ไม้คันธรส ชมพู นิโครธและไม้รังมาเป็นฟืน เผา 3 วัน 3 คืน สุกดีแล้ว จึงเอาหินหมากคอมกลางโคกมาถมหลุม
เมื่อพญาทั้ง 5 บริจาคสิ่งของบูชาเสร็จแล้ว พระมหากัสสปะเป็นประธาน ได้อัญเชิญพรุรุงคธาตุเข้าบรรจุไว้ภายในที่อันสมควรแล้วให้ปิดประตูทั้ง 4 ด้าน ขณะนั้น พระบรมธาตุก็คลี่คลายผ้ากัมพลที่ห่อหุ้มเสด็จออกมาประดิษฐานอยู่บนฝ่ามือ และระลึกถึงคำสั่งพระพุทธเจ้าให้นำพระอุรังคธาตุ มาบรรจุไว้ ณ.ภูกำพร้า แต่มิได้สั่งให้ฐาปนา หรือจะเล็งเห็นพระญาณว่า ต่อไปภายหน้าจะมีผู้เป็นเชื้อหน่ออรหันต์มาสถาปนาให้บริบูรณ์
ต่อมา ในราว พ.ศ.500 มีการบูรณะ โดยพระอรหันต์ 5 องค์ และพญาสุมิตธรรมวงศาแห่งเมืองมรุกขนคร ด้วยการใช้อิฐสุกก่อให้สูงขึ้น สร้างประตูปิดและสร้างกำแพงรอบองค์พระธาตุ แล้วทำพิธีบรรจุพระอุรังคธาตุใหม่ สูงจากระดับพื้นประมาณ 24 เมตร จากนั้น มีการบูรณะปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง มีความสูง 47 เมตร จนกระทั่ง ปี พ.ศ.2518 องค์พระธาตุพนมได้พังทลายลงไปทางทิศตะวันออกทั้งองค์ ทับวัตถุก่อสร้างซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเสียหายยับเยิน ในศกนี้ ได้พบพระอุรังคธาตุบรรจุอยู่ในผอบแก้ว มีฐานคล้ายรูปหัวใจ จำนวน 8 องค์ ต่อมา พ.ศ.2519 ได้สร้างพระธาตุพนมองค์ใหม่ โดยสร้างรอบฐานองค์เดิม รูปทรงคล้ายองค์เดิม แต่เล็กกว่าองค์เดิมเล็กน้อย ใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี จึงแล้วเสร็จ วันที่ 21 – 23 มีนาคม 2522 รัฐบาลได้จัดพิธีบรรจุพระอุรังคธาตุและยกฉัตร อย่างที่เห็นในปัจจุบัน...
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- ดังเปรี้ยงชั่วข้ามคืน เพลง "นายพลมนต์แคน" ชื่นชมให้กำลังใจแม่ทัพภาคที่ 2 25 มิ.ย. 2568
- แตกตื่นแหลมพรหมเทพ! อีโอดีปิดจุดชมวิวหลังพบวัตถุต้องสงสัย 25 มิ.ย. 2568
- ทูลกระหม่อมฯ พระราชทานถ้วยรางวัล วันต่อต้านยาเสพติดโคราช 25 มิ.ย. 2568
- เทศบาลเมืองสวรรคโลก เปิดกิจกรรมโครงการมหาดไทยสีขาวสร้างพื้นที่ปลอดภัย หยุดยั้งยาเสพติด (Safe Zone No Drugs) 25 มิ.ย. 2568
- ตำรวจท่องเที่ยวจับชาวเกาหลี แอบขายไก่ทอดสูตรต้นตำรับผ่าน Food Truck กลางเมืองเชียงใหม่ 25 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
หนุ่มงมหาหอยผวา! พบลูกระเบิด RPG ในสระน้ำสาธารณะ 18:50 น.
- 2 ส.ส.ปชป.เมืองคอน เดินหน้าวิพากษ์ "อุ๊งอิ้ง" ขาดวุฒิภาวะผู้นำ ชี้ไม่เหมาะนำประเทศ 18:43 น.
- คึกคัก! พระถัง-ภูตผี ก่อนเดินทางไปชมพูทวีป แวะมารับนาคก่อนอุปสมบท 10 รูป 18:09 น.
- "กลุ่มปราจีนเข้มแข็ง" คัดค้านสร้างโรงงานจีน ติดบ้านเรือนประชาชนในรัศมี 300 เมตร หวั่นมีมลพิษ-กระทบสิ่งแวดล้อม 18:03 น.
- ยุติธรรมลุยแก้ปัญหาหนี้พื้นที่กาฬสินธุ์ ภายใต้ "มหกรรมแก้หนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม" ปีที่ 2 17:47 น.