วันพุธ ที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2568 02:43 น.

ภูมิภาค

Vietnam Town แลนด์มาร์กใหม่ รวมสุดยอดอาหารเวียดนาม พร้อมอุโมงค์น้ำยาวสุดในไทยรับสงกรานต์!

วันเสาร์ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2568, 21.30 น.

วันที่ 22 มีนาคม 2568 เวลา 07.30 น. ณ ถนนอาหาร พหุวัฒนธรรมไทย-เวียดนาม (Vietnam Town) ซึ่งตั้งสองฟากฝั่งของถนนธำรงประสิทธิ์ เขตเทศบาลเมืองนครพนม และอยู่ไม่ห่างจากพญาศรีสัตตนาคราช แลนด์มาร์กศักดิ์สิทธิ์ริมแม่น้ำโขง นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม และ  Mr.Dinh Hoang Linh กงสุลใหญ่ประเทศสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ประจำจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย นางธนวัน อุ่นเพชรวรากร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม หัวหน้าส่วนราชการ รวมทั้งสมาคมไทย-เวียดนาม ชมรมนักธุรกิจไทย-เวียดนาม ผู้ประกอบการร้านค้า และชาวไทยเชื้อสายเวียดนาม ร่วมเปิดถนนสายอาหารไทย-เวียดนาม โดยมีอาหารตำรับเวียดนามขนานแท้ อาทิ ข้าวต้มเส้น หรือก๋วยจั๊บญวน หมูยอ ข้าวเกรียบ ขนมป่าน หมูอบเครื่องเทศ กาแฟ ข้าวต้มมัด ผักกาดดอง ขนมอบแห้ง หมวกกุบ ขนมปังยัดไส้ หรือข้าวจี่ และ เสื้อผ้าอ๋าวใหญ่ เป็นต้น

 


นายสุวิบูลย์ พงศ์จิรวัฒนา นายกสมาคมไทย-เวียดนาม จังหวัดนครพนม กล่าวว่าในนามของคณะผู้จัดทำโครงการถนนอาหาร ไทย-เวียดนาม หรือ Vietnam Town เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทุนวัฒนธรรมท้องถิ่นในเขตเทศบาล อาทิเช่น อาหารเวียดนามสูตรดั้งเดิม ที่บรรพบุรุษนำมาเผยแพร่ บ่งบอกถึงสัญลักษณ์ อัตลักษณ์ของย่านถนนธำรงค์ประสิทธิ์ ที่มีประวัติศาสตร์ด้านพหุวัฒนธรรม ความเป็นมา รวมถึงความสัมพันธ์ที่ดี เพื่อให้เป็นแลนด์มาร์กอีกแห่ง ที่ดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่สำคัญเพื่อพัฒนาเมืองนครพนมสู่หมุดหมายเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) เช่นเป็นเมืองเกษตรอัจฉริยะ และเมืองท่องเที่ยวอัจฉริยะ เป็นต้น

 


ด้าน นายปราชญา อุ่นเพชรวรากร ผวจ.นครพนม กล่าวว่าถือเป็นโอกาสดีที่นครพนม จะมีอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ ประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม เพื่อดึงดูดและสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นำไปสู่การพัฒนาเมืองนครพนมเป็นเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) เพื่อยกระดับเป็นนครการท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคในอนาคตอันใกล้ต่อไป


นอกจากนี้ ผวจ.นครพนม ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 13-15 เมษายนที่จะถึงนี้ เทศบาลเมืองนครพนมได้ขยายอุโมงค์น้ำจากเดิมมีประมาณ 150 เมตร เพิ่มเป็น 500 เมตร หรือครึ่งกิโลเมตร ถือว่าเป็นอุโมงค์น้ำที่ยาวที่สุดในประเทศไทย เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจากหลายภูมิภาค มาเที่ยวเล่นสาดน้ำสงกรานต์ ตลอดสายถนนสุนทรวิจิตร เลียบริมแม่น้ำโขง พร้อมชม ชิม ช็อป ที่มีความหลากหลายทั้งทางวัฒนธรรม 9 ชนเผ่า 2 เชื้อชาติ ตลอดจนอาหารถิ่นทั้งไทย จีน เวียดนาม และอีสาน

 


ทั้งนี้ ประวัติความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและเวียดนาม โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครพนม ที่มีมากว่า 100 ปี นับตั้งแต่ พ.ศ.2466 ที่ประธานโฮจิมินห์ ผู้นำชาวเวียดนามได้มาพำนัก และเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศไทยและประเทศเวียดนามให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น อาทิเช่น โครงการหมู่บ้านมิตรภาพไทย - เวียดนาม ณ พื้นที่บ้านนาจอก และปี พ.ศ.2503 ได้มีการก่อสร้างหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ ซึ่งใช้เวลาก่อสร้างเพียง 3 เดือนด้วยเงินบริจาคของชมรมชาวเวียดนาม ที่อาศัยในประเทศไทยในขณะนั้น เพื่อรำลึกถึงบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย รัฐบาลไทยและพี่น้องชาวไทยที่ได้ช่วยเหลือชาวเวียดนามอพยพ ซึ่งในปัจจุบันหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัด

 


สำหรับโครงการก่อสร้างซุ้มประตูถนนวัฒนธรรม ไทย - เวียดนาม (Vietnam Town) ใช้งบประมาณเทศบาลเมืองนครพนม ตามเทศบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ.2567 ของเทศบาลเมืองนครพนม แผนงานสร้างความเข้มแข็งของชุมชน จำนวนเงินงบประมาณทั้งสิ้น 490,000 บาท มีขนาดความกว้าง 11.80 เมตร ความสูงใต้คานซุ้มประตู 5.50 เมตร ความสูงถึงหลังคา 11.45 เมตร โดยมีพิธีวางศิลาฤกษ์ในวันที่ 11 ธันวาคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นหนึ่งแลนด์มาร์กที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ที่ดี ระหว่างประเทศไทยและสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม และเกิดการขับเลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของย่านธำรงประสิทธิ์ (ชุมชนวัดโอกาส) และ ชุมชนใกล้เคียง ตลอดจนเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนในเขตเทศบาลเมืองนครพนม นำไปสู่การพัฒนาเมืองนครพนมสู่หมุดหมายเมืองเศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) ต่อไป

หน้าแรก » ภูมิภาค