ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน  อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก เร่งตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวขนาด 7.7 ที่ความลึก 10 กิโลเมตร เมื่อเวลา 13.20 น. ของวันที่ 28 มี.ค. 68 โดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ซึ่งมีผลต่อประเทศไทย นั้น 

จากการตรวจวัดค่าอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว) ที่วัดได้ที่เขื่อนของกรมชลประทาน พบว่ามีค่าที่ตรวจวัดได้อยู่ระหว่าง 0.00505 - 0.01647g ซึ่งค่าที่ตรวจวัดได้ดังกล่าวไม่เกินค่าตามมาตราฐานการออกแบบของกรมชลประทาน และ ตามหลักการขององค์กรเขื่อนใหญ่ระหว่างชาติ (ICOLD) กำหนดไว้เพื่อรองรับอัตราเร่ง (ค่าวัดแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหว) คือไม่เกิน 0.2 g ดังนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว   จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และอาคารประกอบ 

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบต่อเนื่อง เฝ้าระวัง และเตรียมเครื่องจักร เครื่องมือ ที่พร้อมรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา

ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน กล่าวว่า โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน  อำเภอวัดโบสถ์ จังหวัดพิษณุโลก ดำเนินการตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว ได้ดำเนินการตรวจสอบสภาพแรงกระทำตัวเขื่อนและอาคารประกอบ จากผลของแผ่นดินไหว ต่อเนื่องด้วยเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อน และตรวจสอบสภาพทั่วไปด้วยสายตา (CI) วันที่ 29 มีนาคม 2568 เวลา 08.00 น. ตัวเขื่อนและอาคารประกอบ พบว่ายังอยู่ในสภาวะปกติ และยังไม่พบความผิดปกติแต่อย่างใด ไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงแข็งแรงของตัวเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และอาคารประกอบ

อย่างไรก็ตาม โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาแควน้อยบำรุงแดน ได้ให้เจ้าหน้าที่ติดตาม ตรวจสอบต่อเนื่อง เฝ้าระวัง และติดตามรายงานสถานการณ์ จึงขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่พื้นที่ ติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด