วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 12:50 น.

ภูมิภาค

เจาะสนามเลือกตั้งนายกเล็กเมืองท่าข้าม เมื่อ 2 อดีตนายกเล็กลงชิงชัย วัดกึ๋นกันที่ผลงานใครจะเด่นกว่ากัน

วันศุกร์ ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2568, 16.59 น.

สนามเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เป็นอีกหนึ่งสนามการเลือกตั้ง ที่น่าจับตามองอีกแห่งหนึ่งและมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดก็ย่อมได้ เมื่อผู้อาสาลงชิงชัย 2 ทีม ล้วนแล้วแต่เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองท่าข้ามทั้งคู่ โดยหัวหน้าทีมคนแรกคือนายทศพล งานไพโรจน์ หรืออดีต นายก ทศ  ลงแข่งขันในนามของทีม “ท่าข้ามก้าวหน้า”  ห้ำหั่นกับทีม“ท่าข้ามเมืองน่าอยู่”นำโดย นางสาว วสุ ประดิษฐพร  หรือนายก แพร ภรรยานายสมชาติ ประดิษฐพร อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เขต 4

โดยนายก ทศ มีผลงานเด่น ๆ ที่ผ่านมาเป็นที่ประจักษ์ในหลาย ๆ เรื่อง ทั้งการฟื้นฟูเมืองประวัติศาสตร์ของท่าข้าม ที่อยู่ริมแม่น้ำตาปี แม่น้ำสายหลักของภาคใต้ และสายหลักของจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นทั้งเมืองท่า เมืองท่องเที่ยว ที่ทุกคนไม่ควรจะมองข้าม ทั้งประเพณีการแข่งขันเรือยาวกลางแม่น้ำตาปี ที่นอกจากจะได้ทั้งประเพณีวัฒนธรรมแล้ว ยังสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีอีกด้วย

นายทศพล งานไพโรจน์ หรือ นายก ทศ กล่าวว่า ตนเองมีความตั้งใจสมัครนายกเทศมนตรีเมืองท่าข้ามเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ตั้งแต่สมัยทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง และทำงานด้านการเมืองมาเรื่อยๆ โดยเมืองท่าข้าม บ้านตัวเอง มีอะไรมากมายอยู่แล้ว ตนจึงต้องการทำบ้านให้มีความสุข ให้ทุกคนมีความสุขในบ้านของเรา จึงได้ลงสมัครรับเลือกตั้งมาตลอดทั้งแต่สมาชิกสภาเทศบาลได้รับการเลือกตั้งและได้รับความไว้วางใจให้เป็นประธานสภาเทศบาล เป็นรองนายกเทศมนตรีและนายกเทศมนตรีและได้ว่างเว้นอยู่ช่วงเวลา 2 สมัย ได้เห็นสิ่งต่างๆที่เกิดขึ้น และเห็นว่าเรื่องเหล่านี้จะต้องเดินต่อ “เมืองท่าข้ามไม่ใช่เมืองแค่ทางผ่าน” อยากให้เมืองท่าข้าม เป็นเมืองที่คนอยากมาอยู่ มาท่องเที่ยว เป็นเมืองที่ให้โอกาสในการสร้างสรรค์ในหลาย ๆ เรื่อง

เมืองท่าข้ามเป็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์ มีทรัพยากร มีแม่น้ำ มีวิถีวัฒนธรรม เป็นเมืองอู่ข้าว อู่น้ำ อยู่แล้วสบาย โดยนโยบายหลักๆคือฟื้นเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่งไม่ได้มองแค่โครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเรื่องโครงสร้างพื้นฐานอย่างเดียวตนมองว่าใครๆก็สามารถดำเนินการได้ โดยตนเองและทีมงานมีนโยบายว่าต้องทำให้เมืองท่าข้ามไม่ต้องเป็นเมืองข้ามดังชื่อ แต่จะต้องมีคนมาพัก มาท่องเที่ยว มากิน โดยเรามีสายน้ำ มีอาหาร มีวิถีชีวิต สามารถไปต่อยอดให้เป็นเมืองที่เติบโตทางด้านเศรษฐกิจได้ ซึ่งนโยบายคือจะเอาสิ่งเหล่านี้มามิกซ์กันกับเวทีการเปิดโอกาสของคน เช่นเวทีแห่งศิลปะ เวทีแห่งดนตรี เวทีแห่งกีฬาแล้วมาผสมผสานกัน ทำให้ท่าข้ามเป็นเมืองที่ไม่ต้องข้ามต่อไป

โดยสมัยที่ตนเองดำรงตำแหน่งเป็นนายกเทศมนตรี ได้เน้นเรื่องการท่องเที่ยวเชื่อมโยงวัฒนธรรมสองเมือง หรือแม่น้ำสองสี นำมาสู่เศรษฐกิจ การล่องแพแม่น้ำตาปี หรือการจัดเค้าดาวน์บนสะพานจุลจอมเกล้าที่ระบบแสงสีไม่กระทบการเดินรถ และแน่นอนว่าหากได้รับการเลือกตั้งจะฟื้นฟูโครงการดังกล่าว มีทั้งการส่งเสริมด้านสุขภาพ ด้านการเกษตร ส่งเสริมให้ชุมชนปลูกผักเพื่อสุขภาพ ส่งต่อเรื่องรายได้ในชุมชนและส่งต่อด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งแหล่งอาคารประวัติศาสตร์ อาคารพิพิธเมืองคนดี ที่ได้ทิ้งร้างไปจะต้องเอากลับมา

จากที่ได้ลงพื้นที่ มีเสียงตอบรับจากประชาชนดีมาก ตั้งแต่ยังไม่สมัครรับเลือกตั้ง มีเสียงประชาชนกระตุ้นให้ลงแข่งขันจนกระทั่งนำทีมลงสมัครรับเลือกตั้ง และยืนยันว่าตนเองจะเป็นนายก 24 ชั่วโมงคือประชาชนเรียกใช้ได้ตลอด 24 ชม.

อย่างไรก็ตามสนามเลือกตั้งชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองท่าข้าม มีผู้สมัคร 2 คน คือ ทีมท่าข้ามก้าวหน้านำโดยนายทศพล งานไพโรจน์ หรือนายก ทศ กับ ทีมท่าข้ามเมืองน่าอยู่ นำโดย นางสาว วสุ ประดิษฐพร หรือ นายก แพร ทั้ง 2 คน หรือ ทั้ง 2 ทีม ล้วนแล้วแต่ผ่านประสบการณ์การทำงานมาแล้วทั้งคู่ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับประชาชนเทศบาลเมืองท่าข้ามที่จะพิจารณาว่าผลงานใครเป็นที่ประจักษ์มากกว่ากัน  ต้องรอดูผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 11 พ.ค.68 นี้ ที่จะชี้ชะตาอนาคตคนท่าข้าม.

หน้าแรก » ภูมิภาค