ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีอุบัติเหตุหมู่ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถยนต์เก๋งไถลไปอัดก็อปปี้เสยท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ติดอยู่ภายในซากรถ บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วง หลักกิโลเมตรที่ 23+500 ขาออก มุ่งหน้าบ้านฉาง จ.ชลบุรี ก่อนถึงด่านลาดกระบัง ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ โดย ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวจังหวัดอุดรธานี รวม 8 ราย บาดเจ็บอีก 2 ราย และทราบว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวบ้านที่บ้านเหล่าศรีจารย์ หมู่ 10 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี กำลังขนญาติพี่น้องจะเดินทางไปเยี่ยมญาติที่จังหวัดระยอง โดยคันดังกล่าวเป็นรถที่เจ้าของรถออกมาได้เพียง 6 วันเท่านั้น

โดยมีภาพวงจรปิดบ้านที่บ้านเหล่าศรีจารย์ หมู่ 10 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 24 เม.ย.68 ตั้งแต่เวลา 08.02 -08.30 น. จับภาพผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บทั้ง 7 คนกำลังเก็บเสื้อผ้าและกระเป๋าเตรียมตัวขึ้นรถยนต์สีขาวแค๊ปติวาคันเกิดเหตุ จากนั้นเวลา 08.34 น. นายอภิวัฒน์ ก็ค่อยๆ ขับรถออกไปจากบ้าน โดยมีนางอริญญานั่งข้างคนขับ นางหมุนและลูกๆของทั้งสองคนนั่งเบาะด้่นหลังและขับรถออกจากบ้านไปเพื่อไปรับครอบครัวของนางบีที่อ.ประทาย จ.นครราชสีมา โดยมีนางหมุนขึ้นรถเป็นคนสุดท้ายก่อนปิดประตูรั้วและออกจากบ้านไป สุดท้ายมีข่าวร้ายเสียชีวิตยกครัว 8 ศพ

ขณะเดียวกัน นายทองเลื่อนได้ดูภาพสุดท้ายที่ภรรยา ลูกสาว ลูกเขย ลูกสะใภ้และหลานๆ รวม 8 ชีวิตที่เสียชีวิตถูกรถบรรทุกพ่วงชนอัดจนเสียชีวิต นายทองเลื่อนเห็นแล้วถึงกับกลั้นน้ำตาไม่อยู่ มือปาดใบหน้า และร้องไห้โฮออกมา จนผู้สื่อข่าวต้องถือมือถือที่โชว์ออกมาห่างตัวทันที

ความคืบหน้าบ่ายวันที่ 25 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านของนายทองเลื่อน อ่อนตาผา อีกครั้ง และเป็นบ้านพักที่ผู้เสียชีวิต รวม 5 รายที่บ้านเลขที่ 106 หมู่ 10 บ้านเหล่าศรีจารย์ หมู่ 10 ต.นาข่า อ.เมือง จ.อุดรธานี โดยบรรยากาศยังเป็นไปด้วยความโศกเศร้า วันนี้ตลอดทั้งวันมีชาวบ้านและหน่วยงานราชการเดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจจำนวนมาก โดยผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกันน.ส.เอ อายุ 43 ปี ญาติคนหนึ่งกำลังตักดินทรายใสถัง 5 ถัง เตรียมไว้ใช้เป็นที่ปักธูปตอนศพมาถึง โดยคุณเอฯ บอกว่า ตนในฐานะญาติห่างๆคนหนึ่งก็รู้สึกเสียใจสะเทือนใจกับอุบัติเหตุครั้งนี้ ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้กับคนที่รู้จัก เสียดายชีวิตทุกคน โดยเฉพาะชีวิตของเด็กๆกำลังโตเป็นสาว ส่วนตัวแล้วสนิทกับน้องหมวยเพราะว่าน้องหมวยนั้นจะชอบมาเล่นกับหลานอยู่ที่บ้านตนประจำและจะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรในเทอมหน้าเร็วๆ นี้ ส่วนแม่เขาก็เห็นกันมาตั้งแต่ตอนเป็นสาว ขับรถผ่านการเจอหน้ากันก็พูดคุยกันประจำ

ในเวลาต่อมา นายราชันย์ ซุ้นหั้ว  ผวจ.อุดรธานีพร้อมนายอำเภอและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิ ปภ.จังหวัด คปภ.จังหวัด พม.จังหวัด ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจนายทองเลื่อนและญาติๆ โดยผู้ว่าได้นั่งพูดคุยให้กำลังใจนายทองเลื่อน อ่อนตาผา อายุ 67 ปี พ่อและตาของผู้เสียชีวิต  ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัด บอกกับคุณตาทองเลื่อนว่า ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง อุบัติเหตุครั้งที่เกิดขึ้นครั้งนี้คุณตาไม่ต้องเป็นห่วงไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ทางส่วนราชการจะดูแลเต็มที่ โดยจะให้ทางคปภ.มาดูแลเรื่องประกันภัยต่างๆ โอกาสนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้มอบเงินส่วนตัวให้จำนวนหนึ่งพร้อมทำการผูกข้อมือและมอบถุงยังชีพเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจกับนายทองเลื่อนฯ  โดยช่วงขณะผูกข้อต่อแขน ผวจ.อุดรธานีถึงกับเศร้าพูดให้กำลังใจแบบสั่นเครือ

นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ตั้งแต่ทราบข่าวก็ได้มอบหมายให้ทางนายอำเภอกับผู้นำชุมชนลงพื้นที่ให้กำลังใจกับญาติผู้สูญเสียก่อน จากนั้นวันนี้ช่วงบ่ายตนก็ได้รีบเดินทางมาให้กำลังใจอีกครั้งหนึ่ง เบื้องต้นทางนี้ได้สั่งการให้ คปภ.ตรวจสอบรถประกันภัยทั้งหมดว่าจะสามารถช่วยเหลือเยียวยาครอบครัวนี้ได้อย่างไร และสั่งให้ พมจ.ช่วยเหลือดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของคุณตาว่าจะสามารถเติมเต็มให้ชีวิตคุณตาไปในทางแนวไหนได้บ้าง เพราะตอนนี้ในครอบครัวเหลือคุณตาเพียงคนเดียว โดยขณะที่ผู้ว่าฯ ให้สัมภาษณ์นักข่าว ผู้ว่าฯพูดไปก็เสียงสั่นเครือมีบางจังหวะที่กลั้นน้ำตาไม่อยู่ถึงขนาดเช็ดเหงื่ออยู่บนใบหน้า

ผู้ว่าฯ บอกอีกว่า นอกจากนี้ยังสั่งการให้ท้องที่ได้เตรียมการรับร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คนแล้ว ตอนนี้ร่างทั้ง 5 คนคาดว่าจะมาถึงในช่วงเช้าวันนี้เวลาประมาณี 04.00 (26 เม.ย.68) โดยญาติๆ ขอตั้งสวดบำเพ็ญกุศล 2 คืน และจะนำร่างเก็บเข้าเบ้าโบกปูนทั้ง 5 ร่าง เป็นเวลา  3 ปี ก่อนจะนำเอาออกมาเผา หลักๆการช่วยเหลือเยียวยาน่าจะได้เงินมาจากประกันภัย ซึ่งทางคปภ.จังหวัด ได้รายงานให้ทราบแล้ว ในส่วนของรถยนต์ผู้เสียชีวิตเองก็มีประกัน รถบรรทุกเองก็มีประกัน ทั้งตัวพ่วงและหัวลาก

ทางด้าน นายรัชโยธิน มีพันลม ผอ.สนง.คปภ.จังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า อุบัติเหตุครั้งนี้ตรวจสอบแล้วรถทั้ง 3 คันมีพรบ.และประกันทั้งภาคบังคับและสมัครใจ เราไม่ต้องดูผลคดีเพราะว่ารถทั้ง 3 คันมีพรบ.บริษัทประกันภัยก็จะมีการจ่ายตามเงื่อนไขของพรบ. ส่วนของผู้โดยสาร จะได้เงิน 500,000 บาทต่อราย ส่วนของคนขับนั้น จะมีค่าปลงศพเพิ่มอีก 35,000 บาท อย่างไรก็ดีสินไหมทดแทนที่ผู้สูญเสียจะได้รับต้องรอสำนวนคดีจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาประกอบ ซึ่งขั้นตอนนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐาน และสอบปากคำผู้ขับขี่ก่อน แต่ตอนนี้ผู้ขับขี่ยังอยู่ที่โรงพยาบาลเนื่องจากบาดเจ็บสาหัสยังไม่สามารถให้การได้ ทั้งนี้จากการตรวจสอบเพิ่มเติมเบื้องต้นทราบอีกว่าเด็กมีประกันภัยหมู่ของทางโรงเรียน ซึ่งญาติๆ ก็จะได้รับการช่วยเหลืออีกรายละ 100,000 บาท นอกจากนี้ผู้เสียชีวิตซึ่งเป็นคนขับรถรถยนต์เก๋งยังมีประกันสินเชื่ออีก 2 กรมธรรม์จำนวนเงินต้องรอตรวจสอบอีกครั้ง

ทางด้านนายหัสดี หนูราช หรือพ่อไหม อายุ 70 ปี คุณตาผู้เสียชีวิตที่มาปรึกษาเรื่องซื้อรถ เล่าว่า ผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นเป็นหลาน ย้อนกับไปก่อนหลานจะเสียชีวิต จำได้วันนั้น 13 ค่ำ เดือน 5 ตอนก่อนที่จะซื้อรถหลานก็มาปรึกษา แต่ตนบอกว่าถ้าจะออกรถเดือน 5 ไม่ดี เดือน 5 เป็นเดือนร้อนโบราณถือ แต่ร้านบอกว่ามีวันนั้นวันเดียวที่จะสะดวกและว่างไปเอา ตนได้ยินแบบนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมากบอกแต่เพียงว่าไม่ดี รถคันที่หลานซื้อเป็นรถมือสองซื้อต่อมือมาจากเจ้าของเดิมไม่ได้ซื้อผ่านเต็นท์แต่อย่างใด

ส่วนตัวแล้วตนมีความรู้ทางโหราศาสตร์เชื่อว่าหากออกรถ ช่วงเดือน 5 จะไม่ดี ซึ่งหากใครไม่เชื่อหรือฝ่าฝืนก็จะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุหรือได้มาก็จะไม่ค้ำไม่คูณ ซึ่งเรื่องนี้ตนเองมีความเชื่อเป็นอย่างมาก เรื่องศาสตร์การซื้อรถนั้นอาจจะพูดก็ยาวแต่จะบอกสั้นๆว่า ตนก็จะเอาวันเกิด อายุ และรถคันนี้จะเป็นชื่อใครเอามาคำนวณตามสูตรโหราศาสตร์ที่ตนมีความรู้มา นอกจากนี้สีของรถก็จะเป็นองค์ประกอบด้วย จากนั้นก็จะกำหนดวันที่จะซื้อให้ สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้งหมดนั้นถือว่าเป็นการตายโหง ตามประเพณีแล้วหากมาถึงบ้านก็จะต้องเผาเลยหรือไม่งั้นก็เอาเข้าเบ้าเก็บศพไว้ก่อนแล้วกำหนดวันเผาอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ “หากดวงวิญญาณของหลานทั้งหมดรับรู้ก็อยากบอกว่าตาคนนี้เสียใจคิดถึงและสงสาร” นายหัสดีฯ กล่าวตอนท้ายด้วยความเสียใจ