ในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ.2568 คณะกรรมการการเลือกตั้ง ประจำเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ กำหนดให้มีการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ แทนที่ว่าง 1 ตำแหน่ง และ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ แบ่งเขตเลือกตั้งออกเป็น 3 เขต เลือกตั้งได้เขตละ 6 คน รวม 18 คน

โดยมี ผู้สนใจสมัครนายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ 2 คน คือ นายณัฐพงศ์ ตั้งสกุลกุลพัฒน์ หรือ นายกโต้ง ได้หมายเลข 1 อดีตนายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ แชมป์เก่า กลุ่มก้าวใหม่เมืองอำนาจเจริญ พร้อมลูกทีม สท. ได้หมายเลข 1  - 6  ครบทั้ง 3 เขต ชูนโยบายหาเสียงที่ว่า “ เราจะทำเมืองอำนาจเจริญ เป็นบ้านที่มีความสุข ของทุกคน ร่วมคิด ร่ามสร้าง ร่วมพัฒนา “

ส่วนผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ อีกคน ได้หมายเลข 2 คือ นายถวัลย์ นิยมพานิชย์พัฒนา หรือ ดร.โอ๊ค อดีตรองนายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ ผู้ท้าชิง กลุ่มภูมิใจไทเมืองอำนาจเจริญ พร้อมทีมผู้สมัคร สท. หมายเลข 7 – 12 ครบทุกเขตเช่นกัน โดยมีวิสัยทัศน์  “ สร้างเมืองอำนาจเจริญให้น่าอยู่ สู่มหานครแห่งความสุข” ในการหาเสียง

และเมื่อเร็วๆนี้ ที่สภากาแฟเมืองอำนาจเจริญ บรรดาคอการเมือง  ได้มีการเสวนา นำประเด็นการเมืองท้องถิ่น ซึ่งจะมีการเลือกตั้ง นายกเทศมนตรีหลายจังหวัดพร้อมกันทั่วประเทศ โดยเฉพาะ การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองอำนาจเจริญ(สท.)จะมีการเลือกตั้งเช่นกัน

นายสุชาติ สูงเรือง อดีต สื่อมวลชน สมาชิกสภากาแฟตัวเมืองอำนาจเจริญ กล่าวว่า จะมีการเลือกตั้งสภาเทศบาล นายกเทศมนตรีเมืองและนายกเทศมนตรีตำบลหลายจังหวัดทั่วประเทศ และมีบางพื้นที่ บางคนนำสติกเกอร์ ไปติดตามบ้านเรือนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ลักษณะเป็นสัญลักษณ์อย่างใด อย่างหนึ่ง เช่น บ้านหลังนี้ ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง 1 คน จะติดสติกเกอร์ 1 แผ่น ถ้าบ้านนี้มี 3 คน จะติดสติกเกอร์ 3 แผ่น เป็นต้น  ซึ่งไม่ได้กล่าวหาใคร ไม่ได้ระบุใคร และยังกล่าวถึง การเลือกตั้งสนามเล็ก ซึ่งผู้สมัคร สท.แต่ละคนจะต้องสังกัดกลุ่ม ก้อน ไม่ควรจะเป็นแบบนั้น เพราะจะตรวจสอบฝ่ายบริหารยาก ซึ่งที่ผ่านมา ถ้านายกหัวหน้ากลุ่ม ได้รับเลือกตั้ง  ลูกทีม สท.จะได้รับเลือกตั้งด้วย บางสมัยได้ยกทีม ไม่มีฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงาน คือ ไม่ถ่วงดุลฝ่ายบริหาร

นายวรจิต พิศชวนชม อดีตพนักงานธนาคาร  กล่าวแย้งว่า ยุคสมัยเปลี่ยนไป การลงสมัครเลือกตั้งทุกระดับ จะต้องใช้เงิน เช่น ค่าสมัคร ค่าโฆษณาหาเสียง ค่าจ้างแรงงาน ฯลฯ จะต้องใช้จ่ายเงินทุกวัน จึงต้องมีนายทุนหนุนหลัง และต้องเข้ากลุ่ม เพื่อจะได้เฉลี่ยค่าใช้จ่ายให้น้อยลง บางคนลงสมัครในนามกลุ่มอิสระ คุณสมบัติดี มีความตั้งใจจะเข้าไปทำงานเพื่อบ้านเกิดเมืองนอน ประวัติดีเพียบพร้อมทุกอย่าง แต่ว่า ทุนน้อย แถมไม่มีนายทุนกระเป๋าหนักหนุน ก็ไปไม่ถึงฝั่ง เพราะความดี กินไม่ได้ ประมาณนั้น

นายโสนิ สุวรรณี ทนายความ และอดีตหัวหน้าพรรคหนึ่ง ซึ่งเป็นพรรคแรกของประเทศที่ตั้งในจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวว่า เป็นคนแรกที่ตั้งพรรคการเมืองในจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นเวลาหลายปี การเมืองอำนาจเจริญ ไม่ได้พัฒนาในกรอบที่จะเป็นประชาธิปไตย แต่เป็นการพัฒนาการเมืองใช้เงินในการเลือกตั้ง กำหนดความคิดในการเลือกตั้ง วิธีการนี้ ไม่ถูกต้อง เพราะใช้เงินเป็นหลัก จึงต้องรณรงค์เรียกร้อง ความรับผิดชอบของนักการเมือง อยากเห็นผู้สมัครประกาศความโปร่งใส และ ประชาชนได้ประโยชน์อะไร โดยเฉพาะการใช้งบประมาณจะต้องโปร่งใส ที่สำคัญผู้สมัครจะต้องมีจิตรสาธารณะเป็นสำคัญอีกด้วย