วันพฤหัสบดี ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 10:49 น.

ภูมิภาค

ลูกสาวสุดเศร้า! พ่อดับกลางทาง หลังแท็กซี่ไม่หลบรถฉุกเฉิน

วันอังคาร ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2568, 13.43 น.

จากกรณีที่เกิดเหตุแท็กซี่สาธารณะขับกีดขวางรถพยาบาลของโรงพยาบาลป่าตอง จนส่งผลให้ผู้ป่วยเสียชีวิตภายในรถฉุกเฉิน เหตุการณ์สลดนี้เกิดขึ้นบริเวณถนนกมลาขป่าตอง ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ตตามข้อมูล ผู้เสียชีวิตเป็นเพศชาย มีประวัติเป็นโรคหัวใจ ได้เกิดอาการหน้ามืดในสวนทุเรียนชุมชนกมลา ญาติประสานโรงพยาบาลป่าตองให้ส่งทีมฉุกเฉินมารับตัวตั้งแต่เวลา 08.15 น. เมื่อรถพยาบาลถึงที่เกิดเหตุแล้วรีบนำผู้ป่วยขึ้นรถ และออกวิ่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองภูเก็ต เพื่อส่งรักษาต่อแต่ระหว่างทาง ปรากฏว่าแท็กซี่ป้ายเขียวคันหนึ่งฝ่าฝืนไม่หลีกทาง ขับอยู่ชิดซ้ายสุดและลดความเร็ว ทำให้รถฉุกเฉินไม่สามารถเร่งความเร็วเพื่อปั๊มหัวใจผู้ป่วยได้ทันท่วงที เบื้องต้นทีมแพทย์ฉุกเฉินพยายามปั๊มหัวใจแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้
 

ความคืบหน้าเหตุแท็กซี่ป้ายเขียวขวางทางรถพยาบาลโรงพยาบาลป่าตอง จนผู้ป่วยฉุกเฉินเสียชีวิต ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านหมู่ที่ 2 ตำบลกมลา อำเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต พบ น.ส.เมย์ (นามสมมุติ) ลูกสาวผู้เสียชีวิต เปิดใจว่า


น.ส.เมย์ เล่าว่าเมื่อวันที่ 26 เมษายน เวลาเช้าคุณพ่ออายุ 77 ปี ได้ไปตัดัดูคนงานชาวเมียนมาร์ ไปเก็บผลสตอที่อยู่ในสวนทุเรียนใกล้บ้าน ก่อนเกิดอาการหน้ามืดเป็นลม ญาติที่อยู่ด้วยกันจึงรีบแจ้งไปยัง 1669 เพื่อขอรถฉุกเฉินมารับตัว และได้รับการประสานงานจาก อบต.กมลา นำผู้ป่วยส่งต่อไปยังจุดรับเปลี่ยนรถที่ถนนกมลาป่าตอง ฯ เป็นรถฉุกเฉิน ของทางโรงพยาบาลป่าตอง นำส่งต่ออีกที“คุณพ่อยังพอมีชีพจรตอนขึ้นรถ ของโรงพยาบาลป่าตอง แต่เมื่อรถโรงพยาบาลป่าตองมาถึงและเปิดไซเรน บนถนนกลับมีแท็กซี่ป้ายเขียวไม่หลบซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นทางคับแคบ รถพยาบาลจึงต้องลดความเร็ว จากนั้นแท็กซี่หักเข้ามาชนข้างรถฉุกเฉิน จังหวะนั้นคุณพ่อยังมีชีพจร แต่หลังปั๊มหัวใจไม่ทัน อาการทรุดลงและเสียชีวิตภายในรถฉุกเฉิน”


ลูกสาวยังเผยว่า ไม่มีใครจากฝั่งคนขับแท็กซี่ติดต่อขอโทษหรือชี้แจงใดๆ แม้แต่ครั้งเดียว ทำให้ญาติรู้สึกเสียใจและคาใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ดี ครอบครัวไม่ได้ต้องการเอาผิดรุนแรง เพียงต้องการให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์แก่ผู้ใช้ถนนทุกคน“เพียงแค่หลบข้างทางเมื่อได้ยินไซเรน เหตุการณ์อาจไม่บานปลาย เหมือนไม่กี่วินาทีที่หลบนั้น อาจช่วยชีวิตคุณพ่อได้”


ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง อยู่ระหว่างตรวจสอบกล้องจากรถเอสบีเอสของ อบต.กมลา ตลอดจนกล้องวงจรปิดริมทาง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเรียกคนขับแท็กซี่มาสอบปากคำ ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และจะเดินหน้ารณรงค์ให้ประชาชนในพื้นที่เคร่งครัดกฎจราจร คำนึงถึงความสำคัญของรถฉุกเฉินเป็นลำดับแรก เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมซ้ำรอยในอนาคต

หน้าแรก » ภูมิภาค