วันเสาร์ ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 15:01 น.

ภูมิภาค

อวสานแก๊ง 4 โฟร์ “โด้ มอส หม่ำ เติ้ล” ตชด.ซ้อนแผนจับพร้อมยาบ้า 2 แสนเม็ด

วันพฤหัสบดี ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 19.39 น.

วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 ที่หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ร้อย ตชด.237) พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 (ผกก.ตชด.23) ค่ายศรีสกุลวงศ์ รับผิดชอบพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร มหาสารคาม ร้อยเอ็ด และกาฬสินธุ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.เรวัฒ จำปาน ผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ผบ.ร้อย ตชด.237) และหน่วยงานฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ จ.นครพนม แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) จำนวนประมาณ 200,000 เม็ด รถยนต์เก๋งนิสสัน รุ่นอัลเมล่า สีเทา ทะเบียน กษ 8832 นครสวรรค์ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว ทะเบียน 3 ขห 1421 กรุงเทพมหานคร และ รถจักรยานยนต์ฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1กถ 8607 นครพนม โดยจับกุมได้ในพื้นที่ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เวลาประมาณสามทุ่มของวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

 


 

โดยในช่วงเย็นของวันที่ 14 พค. ร.ต.อ.จรณ์ แก้วคำแสน หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว (หน.ชปข.ร้อย ตชด.237) ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่พื้นที่ชั้นในของประเทศ จึงพร้อมด้วยชุดปราบปรามยาเสพติด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 (ชปส.ตชด.237) ประสานหน่วยงานด้านความมั่นคง ลาดตระเวนเฝ้าระวังตามจุดล่อแหลม ทั้งริมแม่น้ำโขง และถนนสายหลัก สายรอง กระทั่งพลบค่ำพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยยี่ห้อฮอนด้า รุ่น PCX สีขาว ทะเบียน 3 ขห 1421 กรุงเทพมหานคร ขับซ้อนท้ายมากัน 2 คน โดยแล่นมาจากถนนสายรองริมแม่โขง โผล่ออกถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายท่าอุเทน-บ้านแพง พื้นที่ ต.พนอม อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
 

จากนั้นก็ขับมุ่งหน้าไปยังทิศเหนือเขตรอยต่อ ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม แต่คนขับได้มุดเข้าไปบริเวณจุดกลับรถใต้สะพานลำห้วยด่านชุม ห่างจากแหล่งท่องเที่ยวรอยเท้าไดโนเสาร์บ้านพนอมเหนือ หมู่ 5 ต.พนอม ประมาณ 300 เมตร ซึ่งบริเวณนั้นมีเจ้าหน้าที่ ตชด.237 แฝงตัวเป็นเกษตรกรสวนยางอยู่ตรงนั้นพอดี โดยชายคนขับได้จอดรถใต้สะพาน พร้อมวางวัตถุต้องสงสัย เป็นกระสอบปุ๋ยสีฟ้า 1 ใบไว้ที่ตอม่อ เจ้าหน้าที่จึงได้ตะครุบตัวทันที ทราบชื่อต่อมาว่านายจิรสิน หรือมอส อายุ 21 ปี และ นายวิศนุรักษ์ หรือเติ้ล อายุ 20 ปี ทั้งคู่เป็นชาวบ้านเสียวสงคราม หมู่ 10 ต.หาดแพง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เมื่อตรวจสอบพบว่าในกระสอบดังกล่าวเป็นยาบ้าจำนวนหนึ่ง

 


สอบสวนเบื้องต้นทั้งนายมอสและนายเติ้ลให้การตรงกันว่า ได้รับว่าจ้างมาจากท้าวก้องเป็นชาวลาว ให้ไปเอายาบ้าที่ริมแม่น้ำโขงพื้นที่บ้านนากะเสริม ต.พนอม และให้นำมาวางไว้ที่ตอม่อใต้สะพานลำห้วยด่านชุม จากนั้นก็จะมีคนมารับต่ออีกทอด โดยทำลักษณะนี้สำเร็จมาแล้วหลายครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 3 หมื่นบาท จึงเกิดความย่ามใจ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสอง มาที่ศาลาพักคอยผู้โดยสารใกล้สะพาน ระหว่างนั้นเองได้มีนายราตรี หม่ำ อายุ 39 ปี ชาว บ้านพะทาย หมู่ 5 ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดง-ดำ ทะเบียน 1กถ 8607 นครพนม บีบแตรเสียงดังมาแต่ไกล พร้อมจอดรถตรงที่ศาลาพักคอยผู้โดยสาร ด้วยอาการมึนเมาสุรา โดยไม่รู้ว่าในกลุ่มนั้นมีตำรวจอยู่ด้วย พร้อมตะโกนถามว่า “เอายาไปไว้ให้เขาหรือยัง” นายมอสจึงตอบว่าเรียบร้อยแล้ว นายหม่ำก็จะขับรถออกตำรวจจึงแสดงตัวจับกุม โดยยอมรับว่าท้าวก้องโทรศัพท์มาหา จ้าง 500 บาทให้ขับรถมาดูนายมอสกับนายเติ้ลทำงานสำเร็จหรือไม่ โดยไม่รู้ว่าในศาลามีตำรวจ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวทั้ง 3 คนไว้


ต่อมาชุดจับกุมได้ซ้อนแผน ให้นายมอสโทรศัพท์หานายอิทธิวัฒน์ หรือโด้ อายุ 42 ปี ชาวบ้านนาตากลาง ต.บะฮี อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร ว่ามารับของได้แล้ววางอยู่ที่เดิม ไม่ถึง 10 นาทีก็มีรถยนต์เก๋งนิสสัน รุ่นอัลเมล่า สีเทา ทะเบียน กษ 8832 นครสวรรค์ ขับมาจอดที่จุดวางกระสอบยาบ้า จากนั้นนายโด้ได้ลงมาจากรถยกเอากระสอบของกลาง ขึ้นไปไว้ในเบาะด้านหลังคนขับ แล้วรีบขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว

 


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้วางกำลังซุ่มเฝ้า ตามจุดล่อแหลมต่างๆไว้หมด นอกจากขับไล่ตามแล้ว ยังมีการตั้งจุดสกัดไว้อีกด้วย นายโด้เริ่มรู้ตัวว่าถูกไล่ล่าจึงเหยียบมิดคันเร่ง แต่รถเสียหลักพุ่งตกถนนจึงยอมให้จับกุมแต่โดยดี จึงนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่ร้อย ตชด.237 ต.ไชยบุรี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม นายโด้สารภาพว่าได้รับว่าจ้างจากท้าวเป้นายทุนชาวลาว ให้มารับยาบ้าเพื่อนำไปกระจายต่อในพื้นที่ จ.กาฬสินธ์ มหาสารคาม และ ขอนแก่น โดยได้ค่าจ้าง 120,000 บาท ท้าวเป้ได้โอนเงินค่าน้ำมันรถให้ก่อน 2,500 บาท จบงานจะโอนส่วนที่เหลือให้


ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าแก๊ง 4 โฟร์นี้ทำงานร่วมกันมาหลายครั้ง โดยเฉพาะหัวโจกนายอิทธิวัฒน์ หรือโด้ เคยต้องโทษคดียาเสพติด ติดคุกนานถึง 12 ปี พ้นโทษออกมาเมื่อปี 2564 ล่าสุดยังพบว่านายโด้มีหมายจับในพื้นที่ สภ.ห้วยผึ้ง จ.กาฬสินธุ์ เมื่อเดือนธันวาคม 2567 ในคดียาเสพติดอีกด้วย

 


เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า“ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่าย อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า โดยมีอาวุธ และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชนและทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัยของประชาชนโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
 

ด้าน พ.ต.อ.วุทธยา สิงห์กิ้ง ผกก.ตชด. 23 กล่าวว่า ตามที่รัฐบาลได้เปิดปฏิบัติการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ชายแดน Seal Stop Safe และนโยบายเน้นหนักด้านปราบปรามยาเสพติดของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.นิตินัย หลังยาหน่าย ผบช.ตชด. พลโทบุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ทางกองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 จึงได้เปิดปฏิบัติการพิทักษ์ริมน้ำโขง ป้องกันปราบปรามยาเสพติดจากแนวชายแดนริมฝั่งแม่น้ำโขง ซึ่งดำเดินการใน 3 ด้าน คือ ด้านการข่าว การลาดตระเวนเฝ้าตรวจชายแดน และการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในจุดเสี่ยงต่างๆ ในครั้งนี้ต้องชื่นชมทางเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ที่มีการสืบสวนหาข่าว ติดตามผู้ค้ายาเสพติดและมีผลการจับกุมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ได้ร่วมบูรณาการจากหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อสกัดกั้นและป้องกันไม่ให้มีการนำเข้ายาเสพติด สู่พื้นที่ตอนในประเทศต่อไป

หน้าแรก » ภูมิภาค