วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 03:30 น.

ภูมิภาค

“สนธยา” พาเข้าวัด นมัสการ “พระพลังแผ่นดิน” เพื่อความร่มเย็นเป็นสุข ที่ จ.อำนาจเจริญ

วันอาทิตย์ ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 14.44 น.

“สนธยา” พาเข้าวัด ทำบุญ ทำทาน สร้างกุศลเพื่อความเป็นสิริมงคล ที่วัดดอยสวรรค์ ตั้งอยู่บนยอดเขาเตี้ย ๆ ในพื้นที่ ต.ห้วยไร่ อ.เมืองอำนาจเจริญ จ.อำนาจเจริญ แม้จะเป็นวัดขนาดเล็ก แต่มีความร่มรื่นด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ บรรยากาศเงียบสงบตามธรรมชาติแบบวัดชนบท และเนื่องจากอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ถึง 10 กิโลเมตร จึงมีพุทธศาสนิกชนเดินทางไปทำบุญ สนทนาธรรม และปฏิบัติธรรมกับเจ้าอาวาสเป็นประจำ โดยเฉพาะในวันสำคัญทางศาสนา ที่หน่วยงานราชการในพื้นที่มักจัดกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนา ณ สถานที่แห่งนี้

 

จากธุดงค์สู่ “ดอยสวรรค์”

 

เมื่อครั้งอดีต เจ้าอาวาสวัดดอยสวรรค์ ได้เดินธุดงค์ไปทั่วประเทศ และยังเคยข้ามแม่น้ำโขงไปจำพรรษาที่ถ้ำแกลบ ภูเขาควาย สปป.ลาว ร่วม 10 ปี จากนั้นจึงกลับสู่ประเทศไทย และเมื่อเดินทางมาถึงยอดเขาเตี้ย ๆ ใกล้ตัวเมืองอำนาจเจริญ ได้ปักกลดและปฏิบัติธรรม จนเกิดนิมิตเห็นเจ้าป่าเจ้าเขาและรุกขเทวดาประสงค์ให้ท่านอยู่ที่นี่เพื่อสร้างสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้าน จึงเป็นที่มาของการก่อสร้าง “วัดดอยสวรรค์”

ด้วยแรงศรัทธา หน่วยพัฒนาเคลื่อนที่ 51 จ.อำนาจเจริญ ร่วมกับชาวบ้าน ได้ร่วมกันสร้างพระพุทธรูปองค์ใหญ่ “พระพลังแผ่นดิน” ขนาดสูง 25 เมตร ฐานกว้าง 20 เมตร สีเหลืองอร่าม สร้างอยู่ที่หน้าผาบนยอดดอยสวรรค์ ปัจจุบันมีพุทธศาสนิกชนเดินทางมากราบไหว้ นั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมไม่ขาดสาย

 

วัดดอยสวรรค์: ศูนย์กลางธรรมยุตในอำนาจเจริญ

 

วัดดอยสวรรค์ สังกัดคณะธรรมยุต ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา จะมีพระภิกษุและสามเณรเข้ามาจำพรรษาปีละ 6–10 รูป และเมื่อถึงวันออกพรรษา ต่างแยกย้ายออกเดินธุดงค์ไปตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเผยแผ่ธรรม บางรูปธุดงค์หลายปีจึงกลับมา

 

เจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้เคยบวชที่วัดผาน้ำทิพย์ จ.ร้อยเอ็ด เดินธุดงค์ไปหลายพื้นที่ รวมถึงประเทศลาว และจำพรรษาหลายปีที่ถ้ำแกลบ ภูเขาควาย ก่อนกลับมาปักกลดบนเนินเขาแห่งนี้ เมื่อเห็นว่าเหมาะสมแก่การจำพรรษา จึงอยู่พรรษาหนึ่ง กระทั่งก่อนวันออกพรรษา เกิดนิมิตว่าเจ้าป่าเทวดาต้องการให้ท่านอยู่ต่อ บวกกับชาวบ้านที่มาถวายภัตตาหารประจำต่างมีศรัทธาอยากให้ท่านจำพรรษาที่นี่ จึงเริ่มสร้างเพิงพัก ศาลา และกุฏิขึ้นอย่างเรียบง่าย จนกลายเป็นวัดดอยสวรรค์ในปัจจุบัน

 

ธรรมะจากเจ้าอาวาส: “ผู้รู้” กับการละกิเลส

 

เจ้าอาวาสวัดดอยสวรรค์ได้เทศนาธรรมไว้ตอนหนึ่งว่า:

“ธรรมะมีอยู่ที่ตัวเราและจิตเรา กายคือรูปธรรม จิตคือนามธรรม การปฏิบัติธรรมคือการมี ‘สติ’ สติเป็นหัวใจของธรรมะ ถ้าเรามีสติ เราจะรู้ทันความคิด ความนึก รู้ตัวเอง รู้ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกายและใจ เมื่อใดที่สติอ่อน ศีลธรรมก็ลดลง แต่ถ้ามีสติ ธรรมะก็เกิดขึ้นมากตามไปด้วย”

“สติเปรียบเสมือนผู้รู้ตลอดเวลา รู้ความโกรธ ความโลภ ความหลง เมื่อสิ่งเหล่านี้เกิด เราก็รู้ทันและละทิ้งได้ทันที การละกิเลส ต้องละตอนที่กิเลสเกิด ไม่เช่นนั้นเราจะไม่รู้ว่ามันคืออะไร การ ‘ฆ่า’ กิเลส ก็คือการปล่อยวาง”

“ธรรมทั้งหลายมีเกิดและมีดับ ร่างกายก็เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง ความเกิด แก่ เจ็บ ตาย ก็เป็นธรรมดา ถ้าใครเห็นสิ่งเหล่านี้ตามความเป็นจริง คือเห็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ก็ย่อมเข้าใจธรรมะโดยแท้”

“จิตที่ตั้งมั่นอยู่ในสมาธิ จะทำให้เกิดปัญญา เมื่อมีปัญญา ก็เห็นธรรมชัดเจน สมาธิจึงไม่ใช่แค่การสงบนิ่ง แต่คือการ ‘เห็น’ รูปธรรม นามธรรม และการดับทุกข์ด้วยปัญญา”

“ทุกอย่างเกิดขึ้นจากจิต ถ้าจิตปล่อยวาง โลภะ โทสะ โมหะ ก็จะดับ นั่นคือ นิโรธ หรือการดับทุกข์”

หน้าแรก » ภูมิภาค