วันเสาร์ ที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 07:33 น.

ภูมิภาค

กราบไหว้ขอพร พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ วัดพระโต (ปากแซง) ริมฝั่งโขง จังหวัดอุบลฯ

วันอังคาร ที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 13.32 น.

วัดพระโต หรือที่ชาวบ้านในท้องถิ่นเรียกกันว่า วัดปากแซง  ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ.2378  โดยมี พระครูวีรวรานุกูล รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เป็นเจ้าอาวาสรูปปัจจุบัน ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ.2516  วัดพระโตตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงที่บ้านปากแซง หมู่ที่ 3 ตำบลพระลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี เป็นที่ประดิษฐานของ " พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ " ที่ประชาชนชาวไทย - ลาว ที่อยู่ริมแม่น้ำโขง ให้ความเคารพ สักการะ บูชา ร่วมกันมานาน เป็นวัดสังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ด้านหน้าพระอุโบสถหันและพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อหันหน้าไปทางทิศตะวันออกซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็น สปป.ลาว  มีอาคารเสนาสนะประกอบด้วยอุโบสถ กว้าง 16 เมตร ยาว 20 เมตร ศาลาการเปรียญ กว้าง 32 เมตร ยาว 40 เมตร กุฏิสงฆ์ จำนวน 5 หลัง เป็นอาคารไม้ วิหาร กว้าง 16 เมตร ยาว 32 เมตร และศาลาอเนกประสงค์ กว้าง 10 เมตร ยาว 30 เมตร  ภายในวัดมีศิลปวัตถุมากมาย มีค่าทางศิลปวัฒนธรรมยิ่งนัก บรรยากาศภายในวัดและรอบๆวัดจะร่มเย็นมาก เพราะติดกับแม่น้ำโขงมีลมพัดเย็นสบายตลอดทั้งวันทั้งคืน และ กลางวันยังมองเห็นบ้านเรือนราษฎรทางฝั่ง สปป.ลาว พร้อมวิวทิวทัศน์อันสวยงามของเทือกเขาฝั่งลาวที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่อยู่เป็นจำนวนมาก  
                   
วัดพระโต  มีความสำคัญที่ชาวจังหวัดอุบลราชธานี มีความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง  เพราะเป็นมรดกล้ำค่าทางด้านศาสนา  ประชาชนทั้งไทยและ สปป.ลาว ต่างเลื่อมใสศรัทธาพากันกราบไหว้บูชา ถือ เป็นศูนย์รวมดวงใจชาวพุทธ  และ  ด้วยพระบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของ  พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ   จึงทำให้ในแต่ละวันมี  พุทศาสนิกชนชาวไทยจากทั่วสารทิศ รวมทั้งจาก สปป.ลาว ต่างพากันมากราบไหว้ขอพรเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะ ในช่วงเดือนสาม หรือเดือน กุมภาพันธ์ ของแต่ละปี  ทางวัดพระโตจะมีการจัดงานบุญเดือนสาม หรือที่เรียกว่างานประเพณีนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ  โดยจัดขึ้นระหว่างวันขึ้น  9  ค่ำ ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปี ซึ่งภายในงานจะมีการออกร้านของภาครัฐและเอกชน  การจำหน่ายสินค้าพื้นเมืองทั้งสินค้าไทยและลาว  มีการละเล่นพื้นเมือง รวมทั้งมีมหรสพและการแสดงต่างๆ ทั้งภาคกลางวันและภาคกลางคืนครบครัน รวมทั้งการแข่งขันกีฬาชกมวยไทย ซึ่งมีทั้งนักมวยไทยและมวยลาว มาร่วมประลองฝีมือกันทุกปี  โดยในแต่ละปีจะมีประชาชนทั้งไทย-ลาว พากันมาเที่ยวงานและนมัสการ พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ เป็นจำนวนมาก
                      

มีเรื่องเล่าขาน สืบเป็นตำนานเกี่ยวกับวัดพระโต ว่า ครั้งหนึ่ง  มีกษัตริย์สมัยขอมพระองค์หนึ่ง ทรงพระนามว่า พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้เสด็จล่องเรือลงมาตามลำแม่น้ำโขงในฤดูฝน พอถึงบ้านปากแซงก็ค่ำลง จึงได้หยุดประทับแรม 1 คืน วันรุ่งขึ้น พระองค์ได้เสด็จขึ้นไปยังหมู่บ้าน และได้พบกับเจ้ากวนของหมู่บ้านในสมัยนั้น พระยาแข้วเจ็ดถัน ได้ตรัสถามถึงประวัติของหมู่บ้าน เจ้ากวนได้เล่าให้ฟังว่า บ้านนี้มีหาดสวยงามกว้างใหญ่ ในฤดูแล้ง หาดทรายจะโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำ และหาดทรายแห่งนี้มีสิ่งอัศจรรย์อยู่คือ ถ้าปีใดหาดทรายโผล่ขึ้นเหนือผิวน้ำระหว่างหมู่บ้าน ประชาชนจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อพระองค์ได้ทราบก็เกิดศรัทธาในใจว่า สักวันหนึ่งจะต้องย้อนกลับมาสร้างหมู่บ้านนี้ให้เป็นเมือง 
                
ในราว พ.ศ. 1154 พระองค์ ก็ได้เสด็จมาอีกครั้ง พร้อมด้วยข้าทาสบริวารเป็นจำนวนมาก เมื่อเสด็จมาถึง พระองค์จึงได้มอบให้เจ้าแสง (คงจะเป็นนายชั้นผู้ใหญ่) เป็นคนควบคุมการก่อสร้างพร้อมกันนี้ก็ได้สร้างพระพุทธรูปขึ้นองค์หนึ่ง ซึ่งสร้างแล้วเสร็จเมื่อประมาณ พ.ศ. 1180 และขนานนามว่า พระอินทร์ใส่โฉม (ต่อมาเรียก พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ) เมื่อเจ้าแสงก็ถึงกรรมลง ชาวเมืองได้สร้างหอหลักเมืองขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ และขนานนามว่า หอแสง ต่อมาวัดแห่งนี้ก็ขาดคนบูรณะ และกลายเป็นวัดร้าง จนกระทั่งเวลาผ่านไปหลายร้อยปี ควาญช้างในหมู่บ้านนี้ ได้ไปพบพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว และได้บอกบุญชาวบ้านร่วมกันบูรณะวัดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งและต่อมาจึงเปลี่ยนชื่อวัดเป็น “วัดพระโต”
                  

พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ  เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์และ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย มีอายุเก่าแก่ มากและไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดว่าสร้างในสมัยใด ซึ่งสร้างด้วยอิฐผสมปูนขาว ขนาดหน้าตักกว้าง 2.90 เมตร สูง 4.36  เมตร ประดิษฐานในวิหารของวัด เป็นพระพุทธรูป องค์ใหญ่มาก ดูคล้ายกับศิลปะไทยผสมลาวแบบโบราณ จนผู้คนเรียกว่า "พระโต" แต่ชาวลาวมักเรียกขานไว้เป็นภาษาพื้นเมืองแต่ในอดีตว่า "พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ" พระเจ้าใหญ่ก็หมายถึงพระใหญ่หรือพระโต ส่วนคำว่าองค์ตื้อ หมายถึง ไม่พูดไม่จา หรือหมายความว่า เป็นพระปูน จึงไม่สามารถพูดจาได้
                   
พระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ  เดิมเรียกชื่อว่าพระเจ้าอินทร์ใส่โสม  เป็นพระพุทธรูปที่เก่าแก่และมีความศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เคารพบูชาของชาวไทย และ ลาว  เลื่อมใสศรัทธากราบไหว้บูชาตลอดมา ในแต่ละวันพบว่า มีประชาชน มาสักการะอยู่มิได้ขาด ถ้าเป็นวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา คนจะมาทำบุญและกราบไหว้ขอพรพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อกันอย่างเนืองแน่น  ทางพี่น้องฝั่งลาวก็จะพากันนั่งเรือมาร่วมกราบไหว้และทำบุญกันเป็นจำนวนมากกว่าวันธรรมดา  และในช่วงเทศกาลวันสงกรานต์ จะมีการจัดงานวันสงกรานต์เป็นประจำทุกปี  มีพี่น้องชาวไทย-ลาว ร่วมทำบุญและเล่นสาดน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน
                    

พระครูวีรวรานุกูล รองเจ้าคณะจังหวัดอุบลราชธานี เจ้าอาวาสวัดพระโตบ้านปากแซง ตำบลพะลาน อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี รูปปัจจุบันได้เล่าว่า   พสกนิกรชาวบ้านปากแซงและจังหวัดอุบลราชธานี มีความปลาบปลื้มปิติยินดีเป็นอย่างยิ่ง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ  พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าอุบลรัตน์ราชกัญญา  สิริวัฒนาพรรณวดี  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ  สยามมกุฏราชกุมาร  สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ  สยามบรมราชกุมารี  สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์  อัครราชกุมารี  ได้เสด็จเยี่ยมราษฎรที่บ้านปากแซง อ.นาตาล จ.อุบลราชธานี  เมื่อวันที่  23 พฤศจิกายน 2520  นอกจากนี้ ยังมีบุคคลสำคัญและผู้นำประเทศได้เดินทางมานมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อหลายท่าน เช่น  ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ปราโมช  อดีตนายกรัฐมนตรี  พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  อดีตนายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีรวมทั้งรัฐมนตรีช่วยอีกหลายๆท่าน หลายๆกระทรวง ต่างก็เคยมานมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ 
                   
จากอดีตถึงปัจจุบัน วัดพระโต และพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ ยังคงเป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์  เป็นศูนย์รวมดวงใจของพี่น้องชาวไทย – ลาว สองฝั่งโขง ซึ่งทางวัดพระโต บ้านปากแซง ได้ร่วมกับคณะกรรมการวัดและพุทธศาสนิกชน ผู้ใจบุญทั้งหลาย ร่วมกันพัฒนาวัดจนเจริญรุ่งเรืองขึ้นเป็นอย่างมาก หากท่านใดไม่เคยไปขอแนะนำให้หาโอกาสไปกราบนมัสการพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อสักครั้ง เพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองให้แก่ชีวิต แล้วต่อด้วยท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์อันสวยงามเลียบแนวแม่น้ำโขง หรือ จะล่องเรือชมภูมิทัศน์อันสวยงาม ตระการตา ของสองฝั่งแม่น้ำโขงไทย-ลาวไปตามลำน้ำโขง ก็ได้เช่นเดียวกัน  
                

คำกล่าวบูชาพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อ  นะโม   ตัสสะ   ภะคะวะโต   อะระหะโต   สัมมาสัมพุทธัสสะฯ  (กล่าว  3  จบ)  วันทามิ   ภันเต   มหาพุทธรูปังมหานทิยัง   ฐิตัง   สักการัง  วะจะสามะนะสา   สิระสา   นะมามิ   สาธุ   สาธุ   อุนุโมทามิฯ  (ตั้งจิตอธิฐาน)
                
สำหรับผู้ที่ไม่สามารถ เดินทางมากราบไหว้ขอพรหลวงพ่อพระเจ้าใหญ่องค์ตื้อที่วัดพระโต บ้านปากแซงได้  ก็กล่าวคำบูชาขอพรอยู่ที่บ้านได้เช่นเดียวกัน

หน้าแรก » ภูมิภาค