ภูมิภาค
ญาติช็อค! หนุ่มแรงงานไทยผูกคอดับคาแคมป์คนงานในอิสราเอล ภรรยาไม่เชื่อสามีคิดสั้น ชี้ต้องมีเงื่อนงำ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีผู้ใชฟเฟสบุ๊กชื่อ “Sasikan Seesukhu” โพสต์รูปภาพและระบุข้อความเมื่อวันที่ 4 มิ.ย.68 ว่า รอดมาเบิ้ดตั้งแต่สงคราม กระดูกซีกโครงหัก รถล้ม ตาเกือบบอด กะรอดมาเบิ้ดไสว่าอ้ายเก่งกะด้อบ่ตายหนีจากง่ายดอก ไสว่าจะกลับมาหาไสว่าจะกลับมายุนำไสว่าจะลงทุนไห้ขายของอยุ่บ้านถ้า ไสว่าคิดฮอดลูกชาย แล้วหนึ่งกับบักหล่าจะอยุ่จั่งใด เป็นหยังคือถิ่มกันไปง่ายคักแท้อาม บ่อยากไห้กลับมาหาแบบนี้ โอ้ยน้ออาร์มเอ๋ยใจสิขาดแล้ว สั่นไปหมด ซึ่งโพสต์นี้ผู้โพสต์เป็นภรรยาของผู้เสียชีวิตจะสื่อสารถึงความคิดถึงเสียใจ บอกว่าสามีชาวอุดรธานีที่ทำงานที่ประเทศอิสราเอลเสียชีวิตโดยการผูกคอตาย ซึ่งไปขายแรงงานเพื่อเลี้ยงครอบครัว นอกจากนี้ผู้โพสต์ยังมีการแชร์คลิปต่างของเพื่อนสามีเพื่อไว้อาลัย ขณะที่ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ “หัวใจ ส่อหล่อ” เพื่อนร่วมงาน ได้โพสต์รูปภาพพิธีส่งวิญญาณอาร์ม โดยในภาพมีเพื่อนร่วมงานนิมนต์พระสงฆ์วัดไทยที่อิสราเอล 1 รูป มาประกอบพิธีตามความเชื่อ ทราบชื่อผู้เสียชีวิตคือ นายอธิน สีเหลือง หรืออาร์ม อายุ 27 ปี ชาว อ.หนองหาน จ.อุดรธานี ขณะที่เฟสบุ๊กชื่อ “บ่าวต้น โคราชพาลุย” ได้โพสต์คลิปวีดีโอสุดท้ายที่อาร์มทำอาหารกินกันกับเพื่อนๆ ก่อนจะมีเหตุผูกคอตายใต้ต้นไม้ในแคมป์คนงานที่ประเทศอิสราเอล
ต่อมาผู้สื่อข่าวพร้อมเจ้าหน้าที่จัดหางานจังหวัดและเจ้าหน้าที่ประกันสังคมจังหวัดร่วมกันลงพื้นที่ โดยเดินทางไปยังภูลำเนาของผู้เสียชีวิตที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 12 บ้านทุ่งสว่าง ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและหาทางช่วยเหลือเยียวยาเรื่องสิทธิประโยชน์ตามระเบียบทางราชการ โดยพบกับนางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าของนายอาร์ม และญาติๆ รวมทั้งภรรยาและพ่อตายังมีอาการโศกเศร้าเสียใจอยู่ภายในบ้าน ซึ่งจากข้อมูลทางราชการ พบว่า นายอธิน สีเหลือง อายุ 27 ปี ชาวอ.หนองหาน จ.อุดรธานีเดินทางไปทำงานในรัฐอิสราเอล ในตำแหน่งคนงานเกษตร สัญญาจ้าง 2 ปี กับนายจ้าง GENESIS PRIEMIUM ที่อยู่ SDAI TRUMUT NORTHERN (HAZAFON) SDEI TRUMOT STATE OF ISRAEL STATE OF ISRAEL เดินทางเมื่อวันที่ 16 พ.ค.66 หรือเมื่อ 2 ปี ที่แล้วถือบัตรสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เลขที่ E10/00187/10052566 สถานะอยู่ในความคุ้มครอง โดยวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ฯ ได้เดินทางมาให้กำลังญาติๆ พร้อมแจ้งสิทธิในการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาตามสิทธิที่ควรจะได้
นางสุวรรณี สีเหลือง อายุ 76 ปี ย่าอาร์ม เปิดเผยว่า เป็นยายของอาร์ม ตั้งแต่พ่อแม่เขาแยกทางกัน ก็เลี้ยงดูอาร์มมาตั้งแต่อายุ 2 ขวบ พ่อเขาเป็นลูกชาย ส่วนแม่เป็นคนลาวหนีเข้าไปตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้พ่อนั้นทำงานที่ระยอง จนหลานเรียกทั้งย่าและแม่ ตอนอาร์มทำงานที่ไทยอาร์เขาเป็นคนขยัน และเขาก็ไปทำงานที่อิสราเอลได้ประมาณ 2 ปีกว่า ทำงานเกี่ยวกับเกษตร ผู้สื่อข่าวถามว่า ก่อนจะไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล หลานได้บอกอะไรย่าบ้างไหม นางสุวรรณีก็บอกว่า ก่อนไปหลานก็บอกว่า เดี๋ยวผมจะกลับมา ย่าอย่าตายก่อนผมนะ” พอคำพูดตรงนี้ ผู้เป็นย่า สะอื้นไห้ร้องไห้แทบขาดใจ ต้องเอามือปาดน้ำตา ทำไมหลานมาตายก่อนย่า ไหนบอกว่า จะกลับมาย่าอย่าตายก่อนผมนะ แต่สุดท้ายหลานก็มาตายก่อน
นางสุวรรณี บอกอีกว่า หลานชายไปทำงานที่อิสราเอลเขาไม่เคยขาดการติดต่อเลยจะโทรศัพท์มาหาอยู่ประจำ และส่งเงินกลับมาให้ย่าดูแลครอบครัวใช้หนี้ใช้สินที่ตัวเองกู้ยืมไปทำงาน บอกว่าจะซ่อมบ้านตรงนี้ตรงนั้นให้ตลอด ล่าสุดวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลานชายก็โทรศัพท์กลับมาหาบอกว่าปีหน้าจะกลับมาแล้วนะย่า มาพักผ่อน และวันที่ 5 มิ.ย. จะส่งเงินมาให้ยายซื้อรถจักรยานปั่นไปวัด แต่ก็ช็อคเมื่อรู้ว่าหลานชายผูกคอตายเสียชีวิตแล้ว การเสียชีวิตของอาร์มตนรู้แล้วว่าหลานผูกคอตาย ส่วนตัวแล้วตนไม่เชื่อว่าหลานจะคิดสั้นเพราะว่าตนเลี้ยงหลานคนนี้มาตั้งแต่เล็กจนโต หลานไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อยที่จะต้องน้อยใจคิดสั้นแบบนั้น ปัญหาทางบ้านทางครอบครัวก็ไม่มีไม่เคยกดดัน ส่วนสาเหตุที่หลานผูกคอตายนั้นตนก็พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ตอนนี้ศพของหลานตอนนี้อยู่ระหว่างการตรวจพิสูจน์ให้แน่ชัดว่าสาเหตุการเสียชีวิตนั้นเกิดจากอะไร ทั้งนี้หากศพหลานกลับมาบ้าน “ตนจะเอาบอนทาปากเพราะตามความเชื่อคนอีสานหากเอาใบบอนทาปากศพดวงวิญญาณมาบอกทุกอย่างและหากมีคนกระทำให้เขาตายเขาก็จะสารภาพเอง
น.ส.ศศิกานต์ ศรีสุขา อายุ 22 ปี หรือหนึ่ง ภรรยานายอาร์ม บอกว่า ตนกับอาร์มเป็นผัวเมียกันแต่ไม่จดทะเบียนสมรสมาแล้ว 13 ปี มีลูกผู้ชาย 1 คน อายุ 5 ขวบ ก่อนอาร์มไปทำงานอิสราเอลเขาก็ทำงานรับจ้างทั่วไปที่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเขาอยากเห็นครอบครัวมีกิน มีใช้ มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี จึงเดินทางไปทำงานที่อิสราเอล และอยากให้ครอบครัวของเราเป็นเหมือนครอบครัวของคนอื่น เพราะอาร์มโตมาเป็นจากครอบครัวเด็กกำพร้า อาร์มอยากให้ลูกมีทุกอย่างที่ตัวเองเคยไม่มี อาร์มเป็นอารมณ์ดีร่าเริงยิ่งอยู่กับเพื่อนยิ่งสนุกสนาน
ก่อนที่จะรู้ข่าวว่าสามีผูกคอตายนั้น 1 วันก่อนหน้าเวลาประมาณ 16:00 น ตามเวลาประเทศไทย ตนโทรไปหาบอกว่าทำไมวันนี้ไม่เห็นโทรมา ปกติจะเห็นโทรมาตอนเที่ยง แต่อาร์มก็ตอบกลับมาว่าวันนี้เหนื่อยนอนหลับจึงไม่ได้โทรกลับ หลังจากพูดคุยกันเสร็จก็ไม่ได้ติดต่อกันเลยกันอีกโทรไปก็ไม่รับ โทรไปถามเพื่อนร่วมงานให้ช่วยบอกอาร์มช่วยรับโทรศัพท์ด้วย แต่เพื่อนร่วมงานก็บอกว่าออกมาทำงาน อาร์มนอนหลับอยู่ที่ห้อง จนเวลา 22.00 น โทรไปใหม่ เพื่อนเขาก็บอกว่าอาร์มยังไม่เลิกงาน ต่อมา 23.00 น. เพื่อนร่วมงานก็โทรกลับมาบอกว่า อาร์มเสียชีวิตแล้วตอนนั้นตกใจทำอะไรไม่ถูก ตนกับอาร์มไม่เคยมีปัญหาอะไรกันเรื่องทะเลาะรุนแรงเลยเราแค่ทะเลาะเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่ก็กลับมาคุยกันเหมือนเดิม ข่าวลือที่บอกว่าตนเป็นทะเลาะกับอาร์มและทำให้อาร์มคิดสั้นยืนยันได้ไม่จริง ส่วนตัวก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไมอาร์มถึงคิดสั้นแบบนั้น “อนาคตเราสองคนวางแผนไว้ว่าปีหน้าเราจะมีพิธีแต่งงานกัน แต่งงานเสร็จก็จะกลับไปทำงานที่ต่างประเทศอีกสัก 2 ปี เก็บเงินให้ได้สักก้อน แล้วกลับมาใช้ชีวิตอย่างครอบครัวแบบมีความสุขด้วยกัน” หากดวงวิญญาณของสามีรับรู้อยากจะบอกว่ามีอะไรในใจทำไมไม่พูดไม่บอกให้ฟัง
ทางด้านนายสุริยา ศรีสุขา อายุ 55 ปี พ่อตา เล่าว่า ตอนรู้ข่าวกำลังนอนหลับได้ยินเสียงมีคนมาเรียกที่หู เสียงคุ้นๆคล้ายกับเสียงอาร์มร้องเรียกบอกว่าพ่อ พ่อ ตนก็สะดุ้งตื่น ไม่นานลูกสาวเขาก็วิ่งมาบอกว่าอาร์มผูกคอตายแล้ว ส่วนตัวพ่อคิดว่าสาเหตุอาจจะมีความขัดแย้งในที่ทำงาน และตนไม่คิดว่าลูกเขยจะคิดสั้นเอง แบบนี้ ไม่เชื่อว่าลูกเขยจะผูกคอตายเอง ไม่มีเหตุจูงใจอะไรจากทางบ้าน ผู้สื่อข่าวถามว่าสาเหตุที่อาร์มผูกคอเสียชีวิตนั้นเนื่องจากทะเลาะกับภรรยาแล้วน้อยใจจึงใช้เชือกผูกคอพ่อคิดว่าไง นายสุริยาฯ บอกว่า ตนในฐานะพ่อไม่เชื่อแน่นอนเพราะว่าลูกสาวคนนี้อยู่กับตนตลอด สำหรับลูกเขยตคนนี้วาดฝันอนาคตไว้ว่าหากกลับมาจากต่างประเทศก็จะเปิดร้านขายของชำออกรถสักคัน ล่าสุดลูกเขยก็เพิ่งถูกหวยไทยได้รางวัล 2 หมื่นบาท หากได้เงิน 2 หมื่นบาทแล้วลูกเขยมาเสียชีวิต ขอไม่ถูกหวยดีกว่า พ่อตายกล่าวตอนท้ายด้วยความเศร้าใจ
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » ภูมิภาค
Top 5 ข่าวภูมิภาค
![]()
- ฝนถล่มแม่ฮ่องสอนน้ำป่าไหลหลากท่วมแหล่งท่องเที่ยวดัง จนท.เร่งช่วยเหลือ 12 มิ.ย. 2568
- มหาดไทยทำงานแล้วนะ! สั่งกวาดล้างยาเสพติดในชุมชน 12 มิ.ย. 2568
- พลังมวลชนในพื้นที่ ขอนแก่น ส่งมอบสิ่งของเป็นกำลังใจให้ทหารชายแดนไทย-กัมพูชา 12 มิ.ย. 2568
- พบแล้ว! ร่าง จนท.ทหารอากาศจมลำน้ำโขงเสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ 12 มิ.ย. 2568
- “บลูพอร์ต” เอาใจคอกาแฟ จัดงาน “Imjai Coffee Fest” ยกระดับกาแฟชุมชนสู่ตลาดสากล 12 มิ.ย. 2568
ข่าวในหมวดภูมิภาค
![]()
ชายแดนช่องสะงำ เขมรซื้อของบางตา หวั่นไทยปิดด่านกะทันหัน 21:39 น.
- แพร่ชาร์มมิ่งบุกโคราช! ดัน Soft Power เชื่อมเศรษฐกิจ 2 จังหวัด 21:24 น.
- รองผู้ว่าประจวบฯ ร่วมพิธีสถาปนานายกและคณะกรรมการสโมสรโรตารีรอยัลหัวหิน และสโมสรโรทาแรคท์ 21:00 น.
- คาราวานป่อเต็กตึ๊งครั้งที่ 6 รวมพลังศิลปิน-แพทย์อาสา มอบสุขให้ชาวสมุทรสาคร 19:02 น.
- ททท. จับมือภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จัดงาน “Expat Travel Fair 2025 @ Phuket” กระตุ้นท่องเที่ยวภาคใต้ 18:55 น.