วันที่ 26 มิ.ย. 2568 ชาวบ้านบ้านทุ่งมะพร้าว ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดและเจ้าคณะจังหวัดระนอง หลังพบพฤติกรรมไม่โปร่งใสของ พระครูภัทรสรคุณ เจ้าอาวาสวัดเวฬุวัน นำเงินจากงานทอดกฐินสามัคคีที่ประชาชนร่วมบริจาคเพื่อสร้างอุโบสถ ไปใช้ชำระหนี้วัดโดยไม่มีความคืบหน้าทางงานก่อสร้างมานานกว่า 5 ปีสถานการณ์ร้อนแรงขึ้นเมื่อพระครูภัทรสรคุณ เข้าแจ้งความดำเนินคดีอาญากับเจ้าภาพทอดกฐิน ฐานยักยอกเงิน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยทำหนังสือยินยอมให้เปิดบัญชีรับเงินทำบุญโดยตรง สร้างความไม่พอใจอย่างรุนแรงในชุมชน ซึ่งมองว่าเป็นการละเมิดเจตนารมณ์ของผู้บริจาคและทำลายศรัทธาชาวบ้าน

ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2568 มีการประชุมตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย พระครูอุปนันทโสภณ รองเจ้าคณะจังหวัดระนอง เป็นประธาน พบว่า วัดเวฬุวันมีความบกพร่องด้านการบริหารจัดการเงินมายาวนาน พร้อมชี้ว่าการแจ้งความดำเนินคดีเจ้าภาพทอดกฐินไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง และสร้างความเสียหายต่อคณะสงฆ์จังหวัดระนอง

ที่ประชุมมีมติให้เจ้าอาวาสจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายวัดย้อนหลังทั้งหมดส่งให้ตรวจสอบภายใน 30 วัน พร้อมมอบหมายให้เจ้าคณะอำเภอกระบุรีและผู้นำชุมชนร่วมพิจารณาคุณสมบัติของเจ้าอาวาส เพื่อเสนอความเห็นต่อเจ้าคณะจังหวัด ล่าสุด ที่ประชุมชุมชนมีมติร่วมกันว่า สมควรให้พระครูภัทรสรคุณ พ้นจากตำแหน่งเจ้าอาวาส โดยจะเสนอเรื่องเข้าสู่ขั้นตอนของคณะสงฆ์จังหวัดเพื่อพิจารณาโทษทางวินัยต่อไป

นายสุวิทย์ จันทร์แจ้ง ตัวแทนชาวบ้าน เผยว่า “เราผิดหวังและเสียใจ เพราะศรัทธาที่ตั้งใจถวายเพื่อสร้างอุโบสถกลับถูกใช้ผิดวัตถุประสงค์ ไม่มีการชี้แจงใด ๆ เราจะติดตามเรื่องนี้จนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม”