วันที่ 1 ส.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก น.ส.ยุภาพร ดอนสมพงษ์ หรือ “โอ๋” อายุ 50 ปี ไรเดอร์ของบริษัทส่งอาหารในอ.หนองหาน แจ้งว่าถูกชายไรเดอร์ส่งอาหารรายหนึ่ง ชื่อ “เติ้ล” ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณทางแยกหนองหานรีสอร์ท บ้านหัวเชียง ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 เวลา 12.50 น.ที่ผ่านมา โดยนำคลิปภาพวงจรปิดที่เจ้าตัวกำลังจอดรถส่งอาหารให้กับลูกค้า จู่ๆ ก็มีชายไรเดอร์อีกบริษัทขับรถจยย.มาประกบ จากนั้นก็เดินเข้าไปทั้งเตะทั้งต่อยและสับศอกใส่น.ส.โอ๋จนล้มทั้งยืน ปรากฏว่าถูกต่อยจนดั้งหัก ทั้งๆ ที่ใส่หมวกกันน็อคเต็มใบ และโชว์บาดแผลบริเวณหางคิ้วที่ถูกต่อยและสับศอกจนต้องเย็บ 3 เข็มและดั้งหัก หลังเกิดเหตุ เจ้าตัวได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.หนองหานเรียบร้อยแล้ว แต่ยังรู้สึกกังวลว่าคดีอาจไม่ได้รับความเป็นธรรม เนื่องจากผู้ก่อเหตุยังคงใช้ชีวิตตามปกติ ไม่มีท่าทีสำนึกผิดหรือแสดงความรับผิดชอบใด ๆ

น.ส.โอ๋ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้รับออเดอร์จากลูกค้าให้ไปส่งอาหารที่บ้าน ขณะกำลังจะยื่นอาหารให้ลูกค้า ก็มีไรเดอร์ชายจากอีกค่าย ขี่รถจักรยานยนต์ตามมาประกบและจอดรถ จากนั้นใช้ถ้อยคำหยาบคายหาเรื่องและลงมือทำร้ายร่างกายทันที โดยกล่าวหาว่าตนไปด่าเขา ทั้งที่ยืนยันว่าไม่เคยมีปัญหาหรือความขัดแย้งกับใคร และไม่รู้จักกับชายคนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว

เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า ถูกสับศอกเข้าที่หน้าจนคิ้วแตก จมูกแตกดั้งหัก หลังจากนั้นจึงไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนเข้าแจ้งความไว้ที่สภ.หนองหาน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจรับปากว่าจะดำเนินคดี และได้นัดทั้งสองฝ่ายมาเจรจาในวันอาทิตย์ที่ 3 ส.ค.68 นี้ ภายหลังเกิดเหตุ หัวหน้าทีมไรเดอร์ของคู่กรณีได้ติดต่อมาเพื่อขอเยี่ยมย แต่ไรเดอร์คนก่อเหตุเองกลับไม่เคยติดต่อหรือกล่าวคำขอโทษแม้แต่ครั้งเดียว

ไรเดอร์ถูกสับศอกจนดั้งหัก บอกอีก่า  ตนทำธุรกิจรับส่งอาหารในพื้นที่อำเภอหนองหานมานานกว่า 5 ปี เดิมเคยทำร่วมกับแฟนสาว แต่ภายหลังแยกทางกัน แฟนเป็นผู้ดูแลธุรกิจเดิม ส่วนตนมาเปิดแฟรนไชส์ส่งอาหารอีกแห่ง จึงไม่คิดว่าจะมีใครมาหาเรื่องหรือก่อเหตุในลักษณะนี้ ส่วนสาเหตุน่าจะมีมาเรื่องวิ่งทับเส้นทางส่งไรเดอร์แน่นอน ไม่มีเรื่องอื่น อย่างไรก็ตามน.ส.โอ๋แสดงความกังวลว่าเรื่องอาจเงียบหาย จึงตัดสินใจร้องเรียนผ่านสื่อมวลชน เพื่อเรียกร้องให้คู่กรณีออกมารับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และชดเชยค่าเสียโอกาสจากรายได้ที่หายไปในช่วงรักษาตัว พร้อมทั้งเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสอบสวนอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่ลำเอียง และยืนยันว่าจะเดินหน้าทวงความยุติธรรมให้ถึงที่สุด

 ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดต่อไปยังหัวหน้าทีมไรเดอร์ของค่ายดังกล่าวเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ได้รับคำตอบว่าไม่รู้จักคนชื่อ “เติ้ล” และขอไม่ให้รายละเอียด โดยระบุว่าจะโทรกลับภายหลัง แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อกลับมาแต่อย่างใด