วันเสาร์ ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2568 01:33 น.

ภูมิภาค

ชวนสายมูเที่ยวเทศกาล "วันคเณศจตุรถี" เฉลิมฉลองวันประสูติของพระคเณศ

วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.10 น.

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีนางสาววัชรี ชมภู ผอ.พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี  กล่าวว่า  พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปราจีนบุรี อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ขอเชิญสักการะพระคเณศ 1,400  ปี เนื่องในเทศกาล "วันคเณศจตุรถี" ในกิจกรรม “PRACHINBURI” Night at The Museum ครั้งที่ 3 แสงสีแห่งศรัทธา ราตรีศรีคเณศวรย้อนรอยอดีต “ปราจีนบุรี" จากทวารวดี...สู่รัตนโกสินทร์ ณ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี  ระหว่างวันที่ 22 - 24 สิงหาคม 2568 เวลา 15.00 - 21.00 น.

 เพื่อส่งเสริมให้เกิดการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ประวัติศาสตร์และโบราณคดี ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยการสร้างกิจกรรมยามค่ำคืนสร้างวัฒนธรรมการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ให้เกิดขึ้นในส่งสังคมไทย ให้เป็นส่วนหนึ่งในวิถีชีวิตของประชาชนในทุกช่วงวัย เป็นหมุดหมายใหม่ของการเดินทางท่องเที่ยว พร้อมทั้งเป็นการกระตุ้นการเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอเมืองจังหวัดปราจีนบุรี เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในบริเวณใกล้เคียง สร้างรายได้สู่ชุมชนท้องถิ่นและพื้นที่โดยรอบ

กิจกรรมต่างๆมากมายในงาน ร่วมเปิดประสบการณ์แปลกใหม่ไปกับการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน สักการะพระพิฆเนศ องค์เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย อายุกว่า 1,400 ปี  การแสดงนาฏศิลป์สร้างสรรค์ ทั้ง 4 ชุด ในรูปแบบ Mini Light and Sound “ย้อนรอยอดีตพันปี เมืองปราจีนบุรี จากทวารวดี...สู่รัตนโกสินทร์”  การแสดงดนตรี/การแสดงนักเรียนในจังหวัดปราจีนบุรี สินค้า craft ศิลปะ ของทำมือ และสินค้า D.I.Y  บูธอาหารและเครื่องดื่ม มากกว่า 30 ร้าน

และชมโบราณวัตถุในพิพิธภัณฑ์ฯ ศิลปวัตถุที่พบจากแหล่งโบราณคดีต่าง ๆ ในภาคตะวันออก ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี สระแก้ว ชลบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ตราดและระยอง รวมไปถึงจังหวัดนครนายก นำเสนอเรื่องราวในภูมิภาคตะวันออก เริ่มตั้งแต่การตั้งถิ่นฐานของมนุษย์ในช่วงก่อนประวัติศาสตร์เรื่อยมาจนถึงพุทธศตวรรษที่ 20 

ร่วมพลังจัดงานโดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครนายก ร่วมกับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ปราจีนบุรี สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปราจีนบุรี หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี โดย กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ YEC หอการค้าจังหวัดปราจีนบุรี มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์  กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์  สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปราจีนบุรี  นางสาววัชรีกล่าว

และกล่าวต่อไปว่า  วันคเณศจตุรถี เป็นเทศกาลเฉลิมฉลองวันประสูติของพระคเณศ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นวันที่พระคเณศจะทรงเสด็จลงมายังโลกมนุษย์ เพื่ออวยพรแก่ผู้เลื่อมใสที่ทำพิธีบูชาพระองค์ และ เพื่อเปิดให้สักการะพระคเณศ อายุมากกว่า 1,400 ปี เป็นกรณีพิเศษ จะจัดมีดอกดาวเรืองบริการและรับการ์ดที่ระลึกรูปพระคเณศ ฟรี ใน “เทศกาลคเณศจตุรถี” เป็นเทศกาลประจำปีเพื่อสักการะบูชาพระพิฆเนศที่ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย

สำหรับพระคเณศแห่งเมืองศรีมโหสถนี้ พบที่โบราณสถานหมายเลข 22 กลางเมืองศรีโหสถ อายุกว่า 1,400  ปี พระคเณศ เป็นเทพเจ้าซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมนับถือมากในศาสนาฮินดูในฐานะเทพแห่งอุปสรรค ที่ชาวฮินดูเมื่อจะประกอบพิธีทางศาสนา จะต้องบูชาพระคเณศก่อน พระคเณศ จึงกลายเป็นเทพแห่งความรู้และความเฉลียวฉลาด เทพอักษรศาสตร์และวรรณคดี และเทพแห่งศิลปวิทยา

พระคเณศศิลาองค์นี้ เป็นประติมากรรมหินขนาดใหญ่ที่สุดชิ้นหนึ่งในประเทศไทย พบจากการขุดค้นเมืองโบราณศรีมโหสถ เมื่อพ.ศ. 2515 ซึ่งในอดีตบริเวณนี้เป็นที่รู้จักกันในชื่อ เมืองพระรถ ดงศรีมหาโพธิ์ สูง 1.70 เมตร พบ ณ เทวาลัยกลางเมืองพระรถ ดงศรีมหาโพธิ์ จังหวัดปราจีนบุรี

เมืองนี้มีชื่อว่าอวัธยปุระในต้นพุทธศตวรรษที่ 18 ตามจารึกภาษาขอมสั้นๆ ที่สลักบนฐานคันฉ่องสัมฤทธิ์ ค้นพบที่ซากโบราณสถานหมายเลข 11 ซึ่งอยู่นอกเมืองพระรถทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ภายในและนอกเมืองนี้ได้เคยค้นพบประติมากรรมสมัยทวารวดี (พุทธศตวรรษที่ 12-16) และลพบุรี (พุทธศตวรรษที่ 16-18) รวมทั้งเทวรูปรุ่นเก่า (พุทธศตวรรษที่ 12-13) เมืองพระรถเป็นเมืองรูปไข่ กว้าง1 กิโลเมตร ยาว 2 กิโลเมตร มีคูกว้าง 16 เมตรล้อมรอบ ใกล้คูทางทิศใต้ ตะวันออก และตะวันตกยังคงมีร่องรอยของกำแพงศิลาแลงสูง 6 เมตร กำแพงนี้คงเป็นกำแพงล้อมรอบเมืองมาก่อน

เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรได้ค้นพบประติมากรรมรูปพระคเณศองค์นี้หน้าเทวาลัยหลังสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ใหญ่ที่สุดซึ่งอยู่ตรงกลางของหมู่ และมีบ่อน้ำอยู่เบื้องหลัง ได้ค้นพบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เป็นเทวรูปซึ่งไม่ทรงเครื่องอาภรณ์ประทับนั่งอยู่เหนือฐานศิลาใหญ่ซึ่งมีร่องสำหรับให้น้ำมนต์ไหลอยู่เบื้องหน้า (โยนี) เส้นนูนซึ่งอาจเป็นสายรัดองค์หรือขอบผ้าทรงยังคมมีเหลืออยู่บนบั้นพระองค์ด้านหลัง

จากด้านหลังของพระเศียรลงมามีรอยสลักเว้าเข้าไปทางตอนกลางของพระองค์ พระคเณศทรงมีแต่เพียง 2 พระหัตถ์ และหัตถ์ทั้งสองก็หักไปหมดสิ้น ด้านหน้าของพระพักตร์ก็แตกหักไปเช่นเดียวกัน แต่ยังคงมองเห็นงาด้านขวาและสีพระพักตร์ซึ่งแสดงถึงความมีอำนาจได้ มีลายก้านขดเล็กๆ และเส้นข้างใต้อีกเส้นหนึ่งเหนือต้นงวงทางด้านขวา พระกรรณและด้านบนของพระเศียรสลักตามแบบศรีษะช้างอย่างแท้จริง

เป็นประติมากรรมพระพิฆเนศที่เก่าแก่ที่สุดที่พบในประเทศไทย ในเมืองศรีมโหสถ ซึ่งเป็นเมืองโบราณยุคทวารวดี   สร้างขึ้นเพื่อเป็นเทวาลัยบูชาพระศิวะในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ลัทธิไศวนิกาย   ยังมีรูปลักษณ์เหมือนช้างตามธรรมชาติ ประทับนั่งขัดสมาธิบนฐานโยนี พระหัตถ์ข้างหนึ่งถืองาที่หัก อีกข้างถือถ้วยขนมโมทกะ  นางสาววัชรีกล่าว

หน้าแรก » ภูมิภาค