อำเภอลำปลายมาศ / DSI ลงตรวจสอบที่ดินเขากระโดงวันที่ 3 คราวนี้ชี้มีหลักฐานเด็ด ทั้งสร้างสิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะ ทั้งทำนิติกรรมอำพราง และมีที่ดินเกินกว่า 4,400 ไร่ ไม่ใช่ 5,083 ไร่ มีสิทธิ์เข้าคดีพิเศษ

วันที่ 21 ส.ค.68 ชุดสืบสวนสอบสวน คดีที่ดินเขากระโดงหรือที่ดินรถไฟ ยังลงพื้นที่อย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 หลังจากก่อนหน้านี้เข้าตรวจสอบหลายหน่วยงาน โดยวันนี้เข้าไปตรวจสอบแขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบที่ดินรถไฟในโซนนี้ จากการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ถึงกับตลึง เพราะพบมีหลักฐานสำคัญหลายอย่างที่บ่งบอกได้ถึงที่มาของที่ดินชัดเจนขึ้น

พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้อำนวยการกองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ 97/2568 กล่าวว่าเราได้ประสานขอข้อมูลจากสำนักงานที่ดินบุรีรัมย์, ศูนย์ดำรงธรรม, ธนารักษ์ และแขวงการทางรถไฟลำปลายมาศ อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งรับผิดชอบที่ดินรถไฟในโซนนี้

ประเด็นแรกเราพบประเด็นแรกคือแผนที่ของรถไฟที่มีการทำแผนที่ระหว่างรถไฟร่วมกับสำนักงานที่ดินบุรีรัมย์ ตามคำสั่งศาลปกครองจากเดิมที่มีการพูดถึง 5,083 ไร่ มีการวัดกันประมาณ 1 เดือน เมื่อเดือนมกราคม 2567 พื้นที่ที่เราพบคือ 4,414 ไร่ ซึ่งเป็นการวัดในระบบใหม่ 

ในระวางของแผนที่ยังพบว่ามีการปลูกสิ่งปลูกสร้างทับทางสาธารณจำนวนหนึ่ง กำลังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่ามีการขออนุญาตใช้หรือไม่ หรือมีการดำเนินการอย่างไรเราจะได้ดำเนินการต่อไป 

นอกจากนี้เรายังพบว่าในสารบบที่ดินยังมีการทำนิติกรรมอำพรางในโฉนดหลายแปลง รวมถึงหน่วยงานของรัฐ 12 หน่วยงานที่เข้ามาอยู่ในพื้นที่ของการรถไฟ 

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวด้วยว่าจากการตรวจสอบยังพบอีกว่าแผนที่ที่ลำปลายมาศยังพบว่ามีแผนที่ดั้งเดิมที่ทำไว้เมื่อปี 2562 ทำเมื่อปี 2531 เราพบว่าแผนที่นี้มีเส้นทางรถไฟ มีพื้นที่ขุดหินที่ใช้ในการรถไฟอยู่ อีกส่วนหนึ่งยังจะต้องตรวจสอบว่าพื้นที่ของการรถไฟมีการออกโฉนดที่มีเจ้าหน้าที่ของการรถไฟรับรองแนวเขตไว้ด้วย จำนวน 513 ไร่ที่ตรวจพบ แต่ในการดูแผนที่ก็ยังพบว่าอยู่ในเขตของรถไฟ ซึ่งเราจะต้องตรวจสอบ  

สำหรับการสร้างสิ่งปลูกสร้างทับที่สาธารณะนั้น จะเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองท้องที่ไม่ว่าจะเป็นอำเภอ หรือเทศบาลซึ่งจะต้องมีหน้าที่ในการกล่าวโทษผู้กระทำความผิด ตามที่กฎหมายระบุไว้

อย่างไรก็ตามจากที่เราได้สารบบจากสำนักงานที่ดินเราพบตั้งแต่ปี 2513-2539 มีทั้งการรับรองของการรถไฟและไม่รับรอง ซึ่งจะต้องเอาข้อมูลไปวิเคราะห์เพื่อตรวจสอบต่อไป หลักฐานทั้งหมดที่ได้ลงมาตรวจสอบรวม 3 วัน จะนำเสนอตามลำดับขั้นตอน และมีความเป็นไปได้ที่อาจจะเข้าเป็นคดีพิเศษได้