นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ เป็นประธานกล่าวให้โอวาทแก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2568 โดยมี นายทวีสิทธิ์ สำรวมจิตร์ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดอำนาจเจริญ นายปุริมปรัชญ์ จันทร์กองกวิน อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการจังหวัดอำนาจเจริญ นายนาวิน แก้วจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ และผู้ผ่านการฝึกอบรมโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว  “ โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง กรมราชทัณฑ์ “ เข้าร่วมพิธี ณ เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ

นายนาวิน แก้วจันทร์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวถึงการดำเนินโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว “ โคกหนองนาแห่งน้ำใจ และความหวัง กรมราชทัณฑ์” รุ่นที่ 7/1 ณ เรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ ว่า ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า โปรดกระหม่อม ให้มีการฝึกโครงการพระราชทานในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว “โคกหนองนาแห่งความหวัง กรมราชทัณฑ์” รุ่นที่ 7/1 ให้แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษ ปี พ.ศ.2568 เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม พ.ศ.2568 จำนวน 92 คน ระหว่างวันที่ 13 – 26 สิงหาคม พ.ศ.2568 เป็นการประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน และสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถดำเนินการปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา ให้พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น โดยการจัดอบรม จำนวน 14 วัน สำหรับครั้งนี้ มีผู้ต้องขังได้รับพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2568 ปล่อยตัว จำนวน 60 คน

ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดอำนาจเจริญ กล่าวให้โอวาท แก่ผู้ต้องขังที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัว ตามพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษ พ.ศ.2568 ครั้งนี้ ว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอภัยโทษ วันเฉลิมพระชนมพรรษา 28 กรกฎาคม พ.ศ.2568 เพื่อให้โอกาสแก่ทุกท่าน ได้กลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่ประเทศชาติสืบไป การได้รับโอกาสครั้งสำคัญนี้ มาพร้อมกับเงื่อนไขอันทรงคุณค่า นั่นคือ การที่ทุกท่านจะต้องผ่านการอบรมเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย ซึ่งโครงการ “ โคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง” นี้ คือ เครื่องมืออันล้ำค่า ที่พระองค์ท่านได้พระราชทานให้ เพื่อเป็นเข็นทิศนำทางชีวิตให้แก่ทุกท่าน ในโอกาสที่ทุกท่านกำลังจะก้าวเดินออกจากที่แห่งนี้ เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ กระผมขอให้โอวาทเพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติตน ดังนี้ ประการแรก จงน้อมนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากการฝึกอบรมโครงการโคกหนองนาแห่งน้ำใจ และความหวัง กรมราชทัณฑ์ ไปปฏิบัติให้เกิดผลจริง ความรู้ในตำราจะไร้ค่าหากไม่ลงมือทำ ขอให้ท่านใช้ความวิริยะอุตสาหะเปลี่ยนความรู้ให้กลายเป็นการกระทำที่สร้างความมั่นคงให้แก่ชีวิต ประการที่สอง จงยึดมั่นในการพึ่งพาตนเอง และดำรงตนเป็นพลเมืองดีของสังคม ขอให้ท่านใช้ชีวิตอย่างมีสติ ประกอบสัมมาอาชีพที่สุจริตและเป็นที่พึ่งให้แก่ครอบครัว เมื่อท่านยืนหยัดได้อย่างมั่นคงแล้ว ท่านจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาชุมชนและประเทศชาติต่อไป และ ประการสุดท้าย จงสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้รับพระราชทานโอกาสในการเริ่มต้นชีวิตใหม่นี้เสมอการตอบแทนที่ดีที่สุด คือ การประพฤติตนเป็นคนดี ไม่หวนกลับกระทำความผิดช้ำอีก และใช้ชีวิตทีเหลืออย่างมีคุณค่า เพื่อ ตนเอง ครอบครัว และแผ่นดินเกิด และสุดท้าย กระผมขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่ทุกท่านเคารพนับถือได้โปรดบันดาลประทานพรให้ผู้ผ่านการอบรมทุกท่าน พร้อมด้วยครอบครัว ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีกำลังกายกำลังใจที่เข้มแข็ง มีสติปัญญาที่สว่างไสวในการดำเนินชีวิต และประสบความสำเร็จในเส้นทางชีวิตใหม่ทุกประการ

ซึ่งบรรยากาศที่หน้าเรือนจำจังหวัดอำนาจเจริญ คึกคักไปด้วยญาติผู้ต้องขังที่ต่างมารอรับทันที่ ที่ผู้ต้องขังได้รับการปล่อยตัวออกมา ต่างโผกอดญาติและร่ำไห้ด้วยความปลาบปลื้ม ทั้งญาติและผู้ต้องขังต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้