วันที่ 11 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีนายอนุชา หรือนายนุ อายุ 44 ปี เกิดหลอนยาอย่างบ้าคลั่งเผาร้านค้าชาวบ้านแต่ดับได้ทัน แล้วยังไปก่อเหตุเผาบ้านของนางเครือวัลย์ ใจหาญ อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นพยาบาลเพิ่งย้ายมาประจำที่ สำนักงาน สสจ.อุดรธานีได้ไม่ถึงเดือน เหตุเกิดที่บ้านไม่มีเลขที่อยู่ท้ายหมู่บ้าน บ้านเชียงพัง ต.นากว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี จนบ้านวอด ซึ่งเป็นหลังเกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียว ถูกนายนุที่หลอนยาทุบกระจกบุกเข้าไปเผาบ้านจนวอด นอกจากนี้ยังเผารถเก๋งโตโยต้าอัลติส สีแดง ของนางเครือวัลย์วอดไปด้วย หลังก่อเหตุตร.และชาวบ้านได้ติดตามจับกุมนายนุได้ ตร.แจ้งข้อหา “วางเพลิงเผาทรัพย์”

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านหลังเกิดเหตุอีกครั้ง พบกับนางเครือวัลย์ พยาบาลสาวพร้อมญาติๆ ได้ช่วยกันเก็บกวาดสิ่งของที่ถูกไฟไหม้ มีนายยุทธนา กองศิลา นายก อบต.นากว้าง ได้ให้เจ้าหน้าที่ฯ นำเต็นท์มากลางหน้าบ้าน เพื่อไว้ต้อนรับชาวบ้านที่เดินทางมาให้กำลังใจ

นางเครือวัลย์มีสีหน้าเครียดจัด บอกนักข่าวว่า ตอนนี้ไม่รู้จะเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้ก่อเหตุได้หรือไม่ หนักใจมาก ความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 2 ล้านบาททั้งบ้านและรถยนต์  รู้อยู่ว่าเขามีสภาพครอบครัวแบบนี้ ตนเองได้โทรไปหาแม่ของนายนุ แม่ก็บอกไม่ขอรับผิดชอบ ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่รู้จะเรียกร้องได้อย่างไร ตนเองคิดหนักจนเครียด สติตอนนี้อยู่ไม่ครบแล้ว ก็พยายามข่มใจตัวเอง และให้กำลังใจตัวเอง ต้องทำให้ตัวเองอยู่ในโลกใบนี้ให้ได้ แรงใจของตัวเอง ของลูกและญาติๆ ให้กำลังใจ หนูเจอแบบนี้แล้วหนูต้องแข็งแรงให้มากยิ่งขึ้น หนูคิดเสมอว่าหนูต้องอยู่ให้ได้ บ้านหลังนี้หนูค่อยเก็บหอมรอมริบมาสร้างบ้านกว่าจะเสร็จ ส่วนรถคันนี้ใช้มาเป็นสิบๆ ปี รักมันมาก กว่าจะผ่อนหมด ปกติป้าและหลานชายจะนอนที่บ้านสวนแห่งนี้หากวันนั้นป้าและหลานนอนอยู่ในบ้านคงถูกฆ่าแล้วเผาไปด้วยแน่  เจ้าตัวพูดไปก็น้ำตาคลอไป

พยาบาลสาว บอกอีกว่า อยากจะเรียนถึงพี่ๆ นักข่าวทุกท่าน ที่มีข่าวออกไปว่า หนูไปด่าเขา ไปขู่ฆ่าเขาไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด หนูไม่เคยรู้จักเขาหรือไม่เคยพูดคุยกับเขาแม้แต่ครั้งเดียว แต่ที่เขาว่าหาว่าหนูไปด่าเขา ไม่จริง หนูทำงานอยู่สสจ.หนองคาย เพิ่งย้ายมาอุดรได้ไม่ถึง 1 เดือนเลย วันเกิดเหตุหนูไม่อยู่ด้วยไปประชุมที่กรุงเทพฯ แทบช็อคเมื่อรู้ข่าวว่าบ้านไฟเผาและรถยนต์ก็วอดไปทั้งคัน ขอความเห็นใจกับนักข่าวด้วย หนูไม่เคยไปพูดกับเขาหรือรู้จักเขาเลย ส่วนที่เขาให้สัมภาษณ์ว่าหนูไปด่าเขา ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด คิดว่าเขาหลอนจะมีคนตามฆ่าเขา แต่เขาก็คิดว่าเราทำตามฆ่า ขอเห็นใจหนูด้วย

ต่อมา พ.ต.ท.จิระพงษ์ สิงห์หะสุริยะ รองผกก.หน.สภ.ย่อยนาข่า ได้เดินทางมาพบกับนางเครือวัลย์พร้อมให้กำลังใจ โดยแจ้งว่า ทางพ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมือง ทราบเรื่องแล้วกรณีผุ้เสียหายขอเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวน โดยจะได้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนให้ใหม่ และจะนำตัวผุ้ก่อเหตุมาทำแผนประกอบทุษกรรมที่เผาบ้านและขู่ฆ่าตามคำรับสารภาพอีกครั้ง เพราะกลัวผู้ต้องหาจะพลิกลิ้นปฏิเสธในชั้นศาล หลังจากผู้เสียหายร้องเรียนว่าพนักงานสอบสวนพูดจาบั่นทอนจิตใจ และกล่าวหาว่าผู้เสียหายสัพเพร่าไม่ดูแลทรัพย์สินตัวเองให้ดี ทำให้ไม่สบายใจอย่างมาก พร้อมกันนี้จะได้ร้องเรียนเรื่องวินัยตำรวจของพนักงานสอบสวนนายนี้ด้วย