อำเภอสตึก/เจ้าของร้านค้าวัย 35 ปีโอด ขายของได้แต่เงินในลิ้นชักน้อยลงทุกวัน เปิดวงจรปิดชัด หนุ่มอายุประมาณ 30 ปี อุ้มลูกน้อยทำเป็นมาซื้อของ ได้จังหวะเปิดลิ้นชักเอาเงินสดไปทุกวัน ไม่รวมกับสแกนจ่ายเงินแล้วไม่ยืนยันอีกทุกวันเช่นเดียวกัน โดยฉวยโอกาสมาตอนเช้าที่พ่อวัย 69 มาเฝ้าร้าน

วันที่ 1 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากเจ้าของร้านค้าแห่งหนึ่งที่ ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่าอยากจะแจ้งเตือนร้านค้าทั่วไปให้ระวังคนร้ายที่มาหลากหลายรูปแบบ หลังจากถูกขโมยเอาเงินสดไปทุกวันแต่เพิ่งมารู้ในภายหลัง

สอบถามนางสาวทิพวรรณ เหิมดี อายุ 34 ปี บ้านเลขที่ 61 ม.7 บ้านกระทุ่ม ต.หนองใหญ่ อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เจ้าของร้านขายของชำในหมู่บ้าน และเป็นผู้ร้องเรียนเล่าว่า ปกติร้านจะเปิดตอนเช้ามืด โดยช่วงเช้าจะให้พ่ออายุ 69 ปีมาเฝ้าร้านก่อน ตนจะเข้าร้านตอนสายๆ

ในระยะหลังรู้สึกว่าเงินจากการขายของได้น้อยลงทั้งที่ขายของได้ตามปกติ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร พอมาถึงวันที่ 28 ก.ย.ที่ผ่านมาคราวนี้เงินในลิ้นชักหายเกลี้ยง จึงไปเปิดกล้องวงจรปิดดูถึงกับตกใจ

เพราะมีหนุ่มคนในหมู่บ้านอายุประมาณ 30 ปี อุ้มลูกน้อยวัย 2 ขวบทำทีมาซื้อของในร้าน ได้จังหวะก็จะมาเปิดลิ้นชักเอาเงินสดไปทุกวัน คาดว่าไม่น้อยกว่า 10 วัน นอกจากนั้นยังพบว่าการมีการสแกนจ่ายค่าสินค้าแต่ไม่ยืนยันอีก เท่ากับได้ทั้งเงินสดและสินค้าฟรี

น.ส.ทิพวรรณ เล่าด้วยว่าพฤติการณ์ของคนร้ายซึ่งเป็นคนบ้านเดียวกัน จะมาในตอนที่ร้านเปิดใหม่ตอนเช้าประมาณ 06.00 น.แล้วมาเลือกซื้อของ หลังจากนั้นจะถามหาสินค้าที่ลูกค้าไปเอาเองไม่ได้ เพื่อให้พ่อเดินไปหยิบให้ โดยจะใช้เวลาช่วงนั้นซึ่งยังไม่ค่อยมีลูกค้าและไม่มีคนอยู่หน้าลิ้นชักเก็บเงิน ใช้มือเปิดแล้วหยิบเอาเงินสดไป

ตอนนี้ยังไม่สามารถคำนวณค่าเสียหายได้ ว่าเอาเงินสดไปมากน้อยแค่ไหน ไม่สแกนแล้วไม่ยืนยันอีกเท่าไหร่ ซึ่งได้เอาหลักฐานทั้งหมดไปแจ้งความที่ สภ.ชุมแสง อ.สตึก แล้วแต่ตำรวจบอกว่าจะต้องมีการออกหมายเรียกก่อนตามกระบวนการ หากไม่มาก็ออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และหากยังไม่มาพบเจ้าหน้าที่อีกก็จะออกหมายจับ ส่วนตัวมองว่า”ช้าไป”เพราะมีหลักฐานครบถ้วน