วันที่ 11 ตุลาคม 2568 ร.ต.อ.วัฒนา อาจสาลี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พลับพลาชัย อำเภอพลับพลาชัย จังหวัดบุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุคนหายไปกับสายน้ำ บริเวณฝายน้ำล้นคลองระกา หมู่ที่ 2 ตำบลสำโรง อำเภอพลับพลาชัย จึงรุดตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมจุดอำเภอประโคนชัย และจุดอำเภอปราสาท

เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบชาวบ้านจำนวนมากยืนมุงดูและช่วยกันค้นหาผู้สูญหาย ทราบชื่อคือนายวิชัย อายุ 66 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งคาดว่าจมหายไปกับสายน้ำของฝายน้ำล้นดังกล่าว หลังจากเพื่อนที่มาหาปลาด้วยกันยืนยันว่า เห็นผู้ตายอยู่บริเวณริมฝายน้ำ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย นักประดาน้ำของหน่วยกู้ภัยจึงลงค้นหาในจุดเกิดเหตุ ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงพบร่างนายวิชัย เสียชีวิตอยู่ใต้น้ำ
นายเคลื่อน อายุ 63 ปี พี่เขยของผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนมาหาปลาตั้งแต่ช่วงเช้า ต่อมาช่วงบ่ายนายวิชัยปั่นจักรยานตามมาที่ฝายน้ำ เห็นนั่งก้มๆ เงยๆ อยู่บริเวณริมฝั่ง เพื่อดูปลาที่ดักไว้ ห่างจากจุดที่ตนอยู่ประมาณ 30 เมตร ผ่านไปประมาณ 20 นาที หันกลับมามองอีกครั้งไม่เห็นตัว เหลือเพียงจักรยานและรองเท้าวางอยู่ จึงตะโกนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบ ก่อนโทรศัพท์แจ้งภรรยาของนายวิชัยให้ประสานเจ้าหน้าที่มาช่วยค้นหา

ด้านนางสำรวม อายุ 48 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า สามีจะออกหาปลาทุกวัน เพราะเป็นช่วงฤดูน้ำหลาก โดยเฉพาะต้นฤดูหนาว ปลามักว่ายตามกระแสน้ำ ต่างจากต้นฤดูฝนที่ปลาว่ายทวนน้ำ คาดว่าสามีอาจเกิดอาการวูบกะทันหัน เนื่องจากมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว จึงพลัดตกลงไปในน้ำโดยไม่มีใครเห็น

จากข้อมูลของจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าในช่วงฤดูฝนของทุกปี มักมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่จมน้ำเสียชีวิตบริเวณฝายน้ำล้นหรือแหล่งน้ำธรรมชาติ เฉลี่ยเดือนละ 2–5 ราย สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากการหาปลา เล่นน้ำ หรือประมาทขณะอยู่ใกล้บริเวณน้ำไหลเชี่ยว