“เขาดินสอ” เป็นยอดเขาที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ตำบลบางสน  อ.ปะทิว จ.ชุมพร ซึ่งเป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศา สามารถมองเห็นทะเลและภูเขาได้หลายมุม รวมถึงอ่าวต่าง ๆ ในพื้นที่ ได้แก่ อ่าวบ่อเมา อ่าวทุ่งวัวแหล่น และอ่าวสะพลี  ยอดเขาดินสออยู่สูงประมาณ 736 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล 
         
เป็นแหล่งดูนกเหยี่ยวอพยพที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ และนานาชาติ ติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลกจุดชมเหยี่ยวที่ดีที่สุด  โดยในฤดูอพยพ ประมาณเดือนกันยายนถึงพฤศจิกายน จะมีฝูงเหยี่ยวบินผ่านเป็นจำนวนมาก หลายหมื่นถึงแสนตัว  มีนกเหยี่ยวหลายสายพันธุ์ เช่น เหยี่ยวนกเขาจีน  เหยี่ยวนกเขาญี่ปุ่น  เหยี่ยวหน้าเทา  เหยี่ยวผึ้ง  เหยี่ยวกิ้งก่าดำ ฯลฯ  อีกทั้งมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น ประมาณ 1 กม. บนเขาให้สำรวจธรรมชาติรอบ ๆ ระหว่างทางไปยังจุดชมวิว มีนักดูเหยี่ยวทั้งชาวไทยแต่ชาวต่างชาติจากหลายประเทศทั้งยุโรป อเมริกา และเอเชีย เดินทางเข้ามาดูนกเหยี่ยวปีละหลายพันคนสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจเข้าสู่จังหวัดชุมพรไม่น้อยในแต่ละปี  
         
เดินทางจากตัวเมืองชุมพร ใช้ทางหลวงหมายเลข 3201 (สาย ปะทิว–ชุมพร) ประมาณ 20 กิโลเมตร  ก่อนถึงกม. 27 ตามเส้นทางดังกล่าว จะมีป้ายบอกทางเข้าเขาดินสอทางซ้ายมือ  เส้นทางขึ้นเขามีถนนลาดยางในส่วนหนึ่ง สามารถใช้รถยนต์ขึ้นได้ มีช่วงชันและโค้งบ้าง เปิดให้บริการตั้งแต่ 06.00-18.00 น.
         
แต่ปัจจุบันพบว่าสถานที่ดังกล่าวถูกปล่อยปะละเลยไม่ได้รับการดูแลเท่าที่ควรสิ่งปลูกสร้างผุพังทรุดโทรม ทำให้นักท่องเที่ยวชมวิวทิวทัศน์ และนักส่องดูนกเหยี่ยวจากนานาชาติไม่ได้รับความสะดวก จากการสำรวจตรวจสอบจากผู้สื่อข่าวพบว่า บริเวณประตูทางขึ้นเขาดินสอ อยู่ริมถนนสายปะทิว-ชุมพร หน่วยงานติดตั้งป้ายไวนิลขนาดใหญ่ ระบุข้อความ เทศกาลดูเหยี่ยวอพยพช่วงเดือนกันยายน-พฤศจิกายน 2568 ณ จุดชมวิวเขาดินสอ 
         
แต่ใกล้กันพบว่าป้ายเขียนชื่อภาษาไทยและอังกฤษ จุดชมวิวเขาดินสอที่ตั้งอยู่ด้านหน้าทางขึ้นเป็นแผ่นไม้สภาพผุปลวกแทะกินจนเป็นรูโบ๋ขนาดใหญ่ ก็ไม่ได้ซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ยังตั้งโชว์นักท่องเที่ยวอยู่อย่างนั้น  ส่วนทางขึ้นเป็นถนนคอนกรีตของข้างทางหลายจุดและบันใดเดินเท้ามีหญ้าขึ้นรกร้าง  ป้ายไวนิลข้างทางดูเก่าสีจืดจาง และป้ายยินดีต้อนรับสู่เขาดินสออักษรบางตัวขาดหาย ไม่มีการเปลี่ยนใหม่มาทดแทน
        
บริเวณอาคารจุดนิทรรศการให้ความรู้เรื่องนกเหยี่ยว ห้องน้ำไว้บริการ  ลานจอดมีรถยนต์ส่วนบุคคลและจักรยานยนต์นักท่องเที่ยวรวมประมาณ 10 คันแวะชมวิว โดยบริเวณนี้จะเป็นจุดเช็คอินให้นักท่องเที่ยวถ่ายภาพกับรูปปั้นนกเหยี่ยว และเก็บภาพบรรยากาศความสูงซึ่งสามารถมองเห็นเกาะแก่งสวยงามได้หลายเกาะในอ่าวอำเภอปะทิว แต่สภาพแวดล้อมไม่มีการปรับภูมิทัศน์ ภายในและรอบๆมีหญ้าขึ้นตลอดแนวรั้วกั้น ต้นไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งเพื่อความสวยงาม ส่วนใหญ่ปล่อยเหี่ยวเฉาตาย
        
สิ่งที่เห็นได้ชัดถึงความเก่าไร้การดูแลขาดการซ่อมแซมปรับปรุงคือ กรอบภาพคาดว่าเป็นภาพนกเหยี่ยวแต่ละชนิดที่จัดวางเรียงตามแนวหิน ตากแดดตากฝนจนเลอะเลือนมองไม่ออกว่าเป็นอะไร  ระยะทางขึ้นยอดเขาดูเหยี่ยวมีหญ้าขึ้นรกร้าง ตลอดเส้นทางช่วงแรกมีป้ายบอก ระวังอันตรายจากพื้นลื่น หรือแนวเขามาความลาดชั้นระวังอันตราย 
       
พบอีกว่าระหว่างทางเดินขึ้นเขา ศาลาที่พักขนาดเล็กทรุดพังเสียหายใช้การไม่ได้เป็นซากกองอยู่กับพื้น บางศาลาหลังคากระเบื้องแตกเป็นรูโบ๋ไม่สามารถกันแดดกันฝนได้ แต่มีผ้าใบสีเขียวมามุงทับหลังคากระเบื้องอีกชั้น ซุ้มป้ายชนิดไม้ บอกจุดเช็คอินหักโค่นล้มกองกับพื้น ดูแล้วน่าหดหู่ใจไม่มีหน่วยงานมาเก็บกำจัดทิ้งให้เป็นที่เป็นทาง มองแล้วรกหูรกตาเป็นอย่างมาก
        
เมื่อสำรวจต่อไปจนถึงบนยอดเขาสูงสุดที่ความสูงประมาณ 750 เมตรจากระดับน้ำทะเล พบว่าจุดนี้สามารถมองได้รอบทิศ 360 องศา แต่ปัจจุบันสภาพปกคลุมไปด้วยต้นไม้  เนื่องจากไม่มีนักท่องเที่ยวหรือนักส่องดูนกเหยี่ยวขึ้นมานานหลายปี เพราะศาลาแปดเหลี่ยมขนาดใหญ่อดีตเป็นจุดเช็คอินอีกจุดหนึ่ง  ที่มีความสวยงามที่ทุกคนต้องมาถ้าไม่มาศาลาแปดเหลี่ยมยอดเขาดินสอก็เสมือนมาไม่ถึงเขาดินสอ  แต่ปัจจุบันศาลาแปดเหลี่ยมถูกปล่อยพังทรุดโทรม ไม่เหลือเค้าโครงเดิม อาจจะเหลือแค่คำว่าเขาดินสอเป็นจุดชมนกเหยี่ยวที่ดีที่สุดติดอันดับ 1 ใน 5 ของโลก แต่ไม่เหลือความเป็นเจ้าของพื้นที่ของงานบริการ ที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เกิดความประทับใจได้อีก นับวันนักท่องเที่ยวยิ่งหดหาย ชุมพรมีแต่พัฒนาไปข้างหน้าแต่ไฉนไม่ต่อยอดกับสิ่งที่มีอยู่ให้ดีที่สุด
         
นายพนม อายุ 65 ปี นักท่องเที่ยวส่องนกดูเหยี่ยวชาวกรุงเทพมหานคร ขณะนั่งส่องดูนกเหยี่ยว บอกว่า  “ตนเองมาดูเหยี่ยวตั้งแต่ปี 2016 หลังจากนั้นก็มาทุกปีสำหรับฤดูกาลนี้ตั้งแต่กันยายน มาแล้ว 3 ครั้ง พักอยู่ที่หาดทุ่งวัวเล่น พรุ่งนี้ขึ้นดูอีกวันและกลับกรุงเทพเลย วันนี้เจอเหยี่ยวผึ้งเป็นส่วนใหญ่ และเหยี่ยวนกเขาพันธุ์จีน เห็นแล้วประมาณ 1000-2000 ตัว ตอนนี้อยากให้ปรับปรุงซ่อมบำรุงจุดพักหรือจุดชมเหยี่ยวเท่าที่มีก่อน 
        
ศาลาที่พักก็ผุกร่อยเป็นเรื่องปกติ เพราะให้นักท่องเที่ยวได้หลบฝน ถ้าไม่มีที่หลบฝนอุปกรณ์กล้องต่างๆก็ลำบากอาจเกิดความเสียหายได้  และห่วงถึงความปลอดภัยด้วยกระเบื้องหลังคาก็กรอบ ครั้งก่อนนักดูนกด้วยกัน เรื่องนี้ทราบว่าทับซ้อนกันหลายหน่วยงาน ทางผู้ใหญ่เองก็ต้องร่วมมือกัน เพราะที่บนเขากับที่ทำการคนละส่วนกัน  และหากซ่อมแซมก็ต้องไม่รบกวนเหยี่ยวด้วย เบื้องต้นเห็นเอาเต้นท์สีเขียวมาคลุมก็กลมกลือนกับธรรมชาติดี 
      
นักท่องเที่ยวดูเหยี่ยว บอกเพิ่มเติมว่า อยากให้หน่วยงานมีป้ายเตือนนักท่องเที่ยว  เรื่องน้ำดื่ม การเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นเขาดินสอเนื่องมีความสูงและระยะทางยาวไกล และด้านบนไม่มีห้องน้ำ วันก่อนเด็กบางคนหิวน้ำร้องให้อยู่ด้านบน อีกเรื่องที่น่าห่วงในช่วงไฮซีซั่นเกรงว่าจุดพักไม่เพียงพอต่อนักท่องเที่ยว ถ้าเพิ่มศาลาได้ก็ดี” 
       
ทางด้านMR.JORN นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ  บอกว่า อยากให้เจ้าหน้าที่ซ่อมศาลาที่พักและเพิ่มเติมคือให้มีห้องน้ำ ปัจจุบันผู้หญิงไม่สะดวกในส่วนนี้
      
ต่อมาวันเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ประสานไปยังนายอำนาจ  ทองหญีต นายกเทศมนตรีตำบลบางสน อ.ปะทิว จ.ชุมพร  เพื่อสอบถามปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมชี้แจงว่า ส่วนศาลาแปดเหลี่ยมที่เกิดการทรุดโทรมบนยอดเขาดินสอจุดชมเหยี่ยวอพยพนั้นอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของป่าไม้ ยังติดขัดเรื่องงบประมาณซ่อมแซมเพราะต้องขออนุญาตป่าไม้ให้เรียบร้อยก่อน หลังจากนั้นทางเทศบาลถึงจะดำเนินการได้ ทางส่วนราชการที่เกี่ยวข้องอยู่ในระหว่างหารือเพื่อดำเนินการแก้ไข
      
ในส่วนด้านล่างที่ตั้งของศูนย์อำนวยการ ครม.สัญจรที่จังหวัดสงขลาได้อนุมัติงบประมาณมาจำนวนหนึ่งในการปรับภูมิทัศน์ สาธารณูปโภคต่างๆ โยธาธิการฯจังหวัดชุมพรเป็นผู้ดำเนินการและปรับแบบไว้รองรับนักท่องเที่ยว ส่วนสาธารณูปโภคอื่นๆทางเทศบาลตำบลบางสนกำลังให้กองช่างออกสำรวจปรับปรุงซ่อมแซม  แต่สำหรับห้องน้ำที่นักท่องเที่ยวของไว้บนเขานั้นอาจจะต้องใช้แบบห้องน้ำชั่วคราว
       
นายกเทศมนตรีตำบลบางสน  ชี้แจงอีกว่า สำหรับพื้นที่เขาดินสอนั้นแบ่งออกเป็นสองส่วน ส่วนที่เป็นอาคารชมเหยี่ยวอพยพ ทางนายกฯได้รับอนุญาตจาก สปก.จำนวน 15 ไร่ เพื่อทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว ด้านบนสุดศาลาแปดเหลี่ยมเป็นพื้นที่ป่าไม้ ขออนุญาตเพิ่มเติมเพื่อจะได้ปรับปรุงซ่อมแซะอยู่ในระหว่างดำเนินการ ซึ่งต้องประสานงานหลายฝ่ายเช่นหน่วยงาน สปก.  ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และป่าไม้” นายกเทศมนตรีตำบลบางสน ชี้แจง