วันเสาร์ ที่ 18 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:23 น.

ภูมิภาค

จับแล้วแก๊งยิงถล่มบ้าน–เผารถบัสอยุธยา ซ้ำในรอบ 15 วัน

วันศุกร์ ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 16.31 น.

ตำรวจภูธรภาค 1 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.วัฒนา ยี่จีน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 สั่งการให้ พล.ต.ต.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พร้อมคณะ ทำการจับกุมนายมนตรี หรือ เอ ชาวพระนครศรีอยุธยา อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ 557/2568 คดีใช้อาวุธปืนยิงถล่มบ้านและวางเพลิงเผารถบัสของผู้อื่น เหตุเกิดเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 03.00 น.

วันเกิดเหตุ คนร้าย 4 คน ใช้รถยนต์โตโยต้า อัลติส สีดำ ยิงถล่มบ้านของนายสงคราม พัฒนาวานิชย์ อายุ 54 ปี ชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยปืนกลมือทอมสัน ขนาด .45 มม. ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผารถบัสที่จอดอยู่ในรั้วบ้าน โชคดีชาวบ้านช่วยดับเพลิงได้ทัน รถได้รับความเสียหายเล็กน้อย ไม่มีผู้บาดเจ็บ

ต่อมาเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 เวลาประมาณ 03.21 น. กลุ่มเดิมกลับมาก่อเหตุซ้ำ ใช้รถโตโยต้า อัลติส สีเทา ยิงถล่มบ้านหลังเดิมอีกครั้ง พร้อมเผารถบัสจนเสียหาย พบปลอกกระสุน .45 มม. 25 ปลอก และแม็กกาซีนตกในที่เกิดเหตุ เหตุการณ์ทั้งสองครั้งห่างกันเพียง 15 วัน ผู้เสียหายจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.ปากท่า

การสืบสวนพบว่ากลุ่มคนร้ายประกอบด้วย นายนพคุณ ชาวอยุธยา อายุ 36 ปี (จับแล้ว), นายรักชาติ หรือ ชาติ ชาวสุพรรณบุรี อายุ 47 ปี (หลบหนี), นายวิทูลย์ หรือ ทูลย์ ชาวอยุธยา อายุ 46 ปี (หลบหนี) และนายมนตรี หรือ เอ ชาวอยุธยา อายุ 42 ปี (จับแล้ว) โดยเจ้าหน้าที่จับกุมนายมนตรีได้เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 พร้อมของกลางหลายรายการ ได้แก่ รถโตโยต้า อัลติส สีดำ หมายเลขทะเบียนปลอม กม-8557 ราชบุรี หมายเลขจริง ขจ-7750 ภูเก็ต และทะเบียน 2 ขฎ-7935 กรุงเทพมหานคร ที่ใช้ขณะก่อเหตุ รวมทั้งปลอกกระสุน 25 ปลอก, แม็กกาซีน 1 อัน, แกลอนน้ำมันเบนซิน, ขวดน้ำมันดีเซล 2 ขวด และปืนกลมือทอมสัน .45 มม. 1 กระบอกพร้อมกระสุน 20 นัด ซึ่งเคยถูกยึดไว้โดย สภ.องค์พระ จ.สุพรรณบุรี

พันตำรวจเอก ภูมิธัช โฆษิตวนิชพงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า กลุ่มผู้ต้องหามีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และเป็นบุคคลตามหมายจับในหลายพื้นที่ ก่อนมาก่อเหตุอุกอาจในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม้คนร้ายจะเปลี่ยนป้ายทะเบียนถึง 4 ครั้งเพื่อหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถแกะรอยจากตำหนิของรถจนจับกุมได้ 2 ราย ส่วนอีก 2 รายที่เหลือ อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

หน้าแรก » ภูมิภาค