อำเภอโนนดินแดง/น้องซับหวาย ลูกช้างป่าพลัดหลง กลับดาวช้างแล้ว หลังมีอาการอ่อนเพลีย อิดโรย พบบาดแผลที่หางและแผลที่สะดือ มีหนอนเจาะ เจ้าหน้าที่นิมนต์พระทำพิธีส่งวิญญาณตามความเชื่อ

วันที่ 24 ต.ค. 68 จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในตำบลหูทำนบ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ว่าพบลูกช้างป่าพลัดหลงจากฝูงอยู่ในสภาพอิดโรยบริเวณไร่มันสำปะหลังของชาวบ้าน ต่อมาทีมเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและพบว่าเป็นลูกป่าช้างเพศผู้ อายุประมาณ 2-3 เดือน มีอาการอ่อนเพลียรุนแรง พบบาดแผลที่เท้าหลัง บริเวณหางและบริเวณสะดือ มีหนอนเจาะในแผล สัตวแพทย์จึงรีบทำความสะอาดแผล ให้ยาฆ่าเชื้อ และเคลื่อนย้ายมาดูแลต่อที่หน่วยพิทักษ์ป่าซับหวายในพื้นที่เดียวกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ ตั้งชื่อให้ลูกช้างป่าว่า “น้องซับหวาย “

วันต่อมา (23 ตุลาคม) ทีมสัตวแพทย์จากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 7 (นครราชสีมา) และศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 กระบกคู่ ได้ลงพื้นที่ร่วมรักษาและตรวจวินิจฉัยอาการของ น้องซับหวาย อย่างละเอียด ผลตรวจพบว่าน้องซับหวายมีน้ำหนักตัว 131 กิโลกรัม สูงประมาณ 1 เมตร เอกซเรย์ขาทั้งสองข้างที่บวมไม่พบความผิดปกติของกระดูกและข้อ แพทย์ได้ให้ยาลดปวดและยาแก้อักเสบ พร้อมล้างแผลและเจาะเลือดเพื่อตรวจในห้องปฏิบัติการเพิ่มเติม

แม้น้องซับหวายจะยังคงมีสภาพอ่อนแรงและกินนมได้น้อย แต่ทีมสัตวแพทย์ได้เฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิดตลอดทั้งวัน เพื่อประคับประคองอาการให้รอดพ้นจากภาวะวิกฤต อย่างไรก็ตาม ในช่วงเช้าวันที่ 24 ต.ค. ชีวิตเล็ก ๆ ที่ทุกคนช่วยกันประคับประคองก็ได้จากไปอย่างสงบ

โดยบรรยากาศที่หน่วยพิทักษ์ป่าซับหวาย เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ ตำบลหูทำนบ อำเภอปะคำ จังหวัดบุรีรัมย์ ได้มีการจัดพิธีฝังร่างชองน้องซับหวาย ตามประเพณีความเชื่อ โดยมีพระครูจันทชัยธรรม เจ้าอาวาสวัดใหม่ชัยมงคล และดำรงตำแหน่งรองเจ้าคณะอำเภอโนนดินแดง ทำพิธีส่งดวงวิญญาณน้องซับหวาย ลูกช้างป่าที่เสียชีวิต

ด้านนายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่าลูกช้างป่าตัวดังกล่าว มีชาวบ้านแจ้งพบเจอเมื่อเช้าวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการเคลื่อนย้ายลูกช้างป่ามาที่หน่วยพิทักษ์ป่าซับหวาย และประสานสัตวแพทย์เข้าทำการรักษา ส่วนสาเหตุที่ทำให้ลูกช้างป่าเสียชีวิต น่าจะมาจากการติดเชื้อบริเวณบาดแผลที่หางและสะดือของช้าง อย่างไรก็ตาม ทางสัตวแพทย์ ได้มีการผ่านำชิ้นเนื้อ “น้องซับหวาย" ส่งตรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิต