วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568 02:35 น.

ภูมิภาค

แก้น้ำตื้น กลยุทธเสนอทุบเขื่อนทดน้ำบางปะกงทิ้ง ขณะชลประทานแย้งยังใช้ประโยชน์ได้

วันจันทร์ ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2568, 20.23 น.

วันที่ 27 ต.ค.68 เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมขุนสมาน ภายในสำนักงานองค์การบริหารส่วน จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีการนัดประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแก้ไขแม่น้ำบางปะกงสายเก่า ช่วงอ้อมประตูเขื่อนทดน้ำบางปะกง ซึ่งผ่านพื้นที่ 3 ตำบลประกอบด้วย ต.คลองจุก ต.บางแก้ว อ.เมืองฉะเชิงเทรา และ ต.สาวชะโงก อ.บางคล้า ตื้นเขินรวมระยะทางประมาณ 5 กม. หลังจาก อบต.คลองจุกเฌอ ได้ทำหนังสือให้ทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ประสานผู้รับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนในพื้นที่

โดยมี น.ส.ฉัตรประอร นิยม รองผู้ว่าราชการ จ.ฉะเชิงเทรามาเป็นประธานการประชุม และมีหลายหน่วยงานประกอบด้วย ปลัด อ.เมืองฉะเชิงเทรา ปลัด อ.บางคล้า นายก อบต.คลองจุกเฌอ นายก อบต.สาวชะโงก ผู้แทนนายก อบต.บางแก้ว ผู้แทนโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนบางปะกง ประชาสัมพันธ์ จ.ฉะเชิงเทรา นางฐิติมา ฉายแสง ส.ส.เขต 1 ฉะเชิงเทรา และนายกลยุทธ ฉายแสง นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา พร้อมคณะบริหารและส่วนงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม

โดยนายกลยุทธ ได้กล่าวถึงเขื่อนทดน้ำบางปะกงว่า หลังจากดำเนินการก่อสร้างขึ้นมาแล้วไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้ และยังเป็นการทำลายระบบนิเวศแบบดั้งเดิมของลำน้ำบางปะกง ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมในลำน้ำทั้งยังกระทบต่อวิถีชีวิตดั้งเดิมของชุมชนในพื้นที่ โดยทีสำคัญยังทำให้แม่น้ำบางปะกงสายเก่าที่ไหลผ่านพื้นที่ชุมชนอยู่อาศัยของชาวบ้านตื้นเขิน จากระดับความลึก 18 เมตรเหลือเพียง 1 เมตร

โดยขอให้ทำการทุบทิ้งหรือหาทางปิดกั้นบานประตูอย่างถาวรไม่ให้น้ำไหลผ่านไปทางแม่น้ำสายใหม่ หรือ “แม่น้ำปลอม” ซึ่งเป็นต้นตอที่ทำให้แม่น้ำตื้นเขินจากตะกอนดินที่ไหลเข้าไปสะสมทำให้ลำน้ำสายจริงตื้นเขิน โดยหากจะทำการขุดลอกก็จะเสียงบประมาณเป็นจำนวนมาก และไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืนถาวร จึงขอให้ทางชลประทานทำการปิดกั้นทางน้ำไหลผ่านประตูเขื่อนทดน้ำแบบถาวร

เพื่อให้น้ำไหลผ่านทางแม่น้ำสายเดิมแทน และจะทำให้กระแสน้ำพัดพาเอาตะกอนที่ตกสะสมไหลออกไปจากพื้นที่ตามกระแสน้ำตามที่ นายก อบต.คลองจุกเฌอเสนอ และขอให้ทำการเปิดหรือขยายช่องทางน้ำลอดใต้คันดินและสะพานที่ก่อสร้างขึ้นมาปิดกั้นขวางลำน้ำสายเดิมออกไป เพื่อให้น้ำสามารถไหลผ่านได้โดยสะดวก เนื่องจากปัจจุบันมีการบีบช่องทางน้ำไหลผ่านให้เล็กลงอย่างมาก นายกลยุทธ กล่าวในที่ประชุม

ขณะที่นายปรัชญา สุวรรณจิตร หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนทดน้ำบางปะกง ซึ่งเดินทางมาเข้าร่วมประชุมเป็นตัวแทน ผอ.เขื่อนทดน้ำฯ และกรมชลประทาน ได้ชี้แจงว่า ปัจจุบันเขื่อนทดน้ำบางปะกงยังใช้ประโยชน์ในการหรี่บานประตูเพื่อชะลอน้ำจืดทางตอนบนไม่ให้ไหลลงสู่ทะเลได้อย่างรวดเร็วหลังฤดูฝน ทำให้พื้นที่ด้านหลังประตูเขื่อนทดน้ำทางตอนบน มีน้ำจืดใช้ได้นานเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1-2 เดือน

และในฤดูแล้งมีน้ำทะเลหรือน้ำเค็มหนุนสูง ยังสามารถหรี่บานประตูระบายน้ำ เพื่อชะลอน้ำเค็มให้ไหลเข้าสู่แม่น้ำบางปะกงทางตอนบนช้าลง ช่วยยืดระยะเวลาให้การประปาใน จ.ปราจีนบุรี มีเวลาสูบน้ำนำไปทำการผลิตประปาได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2-3 เดือน ขณะการขุดลอกลำน้ำสายเก่านั้น ทางชลประทานเคยทำการขุดลอกครั้งใหญ่มาแล้วที่บริเวณกลางลำน้ำกว้างประมาณ 20 เมตร เพื่อทำเป็นร่องน้ำให้การสัญจรทางเรือได้ แต่มีปัญหาในเรื่องของที่วางมูลดิน ที่มีจำนวนมากถึง 3 แสน ลบม.

แต่มีพื้นที่ในการวางดินอย่างจำกัด โดยทำได้เพียงการนำไปตั้งเป็นคันดินขึ้นที่ริมตลิ่ง แต่สามารถทำสูงได้เพียง 1.5 เมตรเนื่องจากเป็นดินเปียก และยังมีปัญหาเกี่ยวกับการขุดลอก หากดูดตะกอนดินจากกลางลำน้ำลึกมาก จะทำให้ดินจากชายตลิ่งทรุดตัวไหลกลับลงมาในแม่น้ำตามเดิมได้อีก ซึ่งก็ขอยอมรับว่าไม่ใช่เป็นการแก้ไขปัญหาได้อย่างยั่งยืน นายปรัชญา กล่าว

ส่วนด้านนายชาลี จิตรประสงค์ นายก อบต.คลองจุกเฌอ กล่าวว่า ขอให้ทางชลประทาน ทำการควบคุมการไหลของน้ำ ให้ไหลไปทางด้านลำน้ำเก่าสายเดิมในปริมาณมากขึ้น โดยให้ไหลผ่านบานประตูที่หรี่ลงให้น้อยลง เพื่อให้เกิดการพัดพานำตะกอนดินผ่านออกไป และไม่เกิดการสะสม ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาแม่น้ำสายเก่าตื้นเขินได้อย่างยั่งยืน โดยไม่เสียเงินงบประมาณในการขุดลอก เพราะเชื่อว่ากระแสน้ำจะพัดพานำตะกอนดินออกไปได้เอง และวิถีชีวิตดั้งเดิมของประชาชนจะกลับคืนมา นายชาลี กล่าว

โดยที่ น.ส.ฉัตรประอร กล่าวว่า ขณะนี้ต้องมีแผนระยะสั้นในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าในเรื่องของดินตะกอนสะสมลุกล้ำในลำน้ำ และหาแนวทางทำให้น้ำไหลผ่านแม่น้ำสายเดิมให้มาก เพื่อให้ได้วิถีชีวิตดั้งเดิมโดยไม่ต้องเสียเงินงบประมาณมาขุดลอกในทุกปี ส่วนทางชลประทานและเจ้าท่านั้น ให้ไปศึกษาในประเด็นนี้มา โดยมีโจทย์ให้ 2 ประเด็นและขอเป็นคำตอบเร็ว คือ 1 การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการขุดลอกไปก่อน 2 ทำอย่างไรที่จะไม่ให้มีตะกอนดินเข้ามาตกอยู่ตรงจุดนี้อีก

หากต้องเปลี่ยนทางแม่น้ำหรือปิดเขื่อนก็ต้องดำเนินการ หลังจากนี้จะนำทั้ง 2 ประเด็นนี้ เข้าไปสู่คณะกรรมการลุ่มแม่น้ำบางปะกง ส่วนสถานที่ทิ้งดินนั้นขอให้ทาง อบจ. และ อบต. ในท้องถิ่นช่วยหาที่ทิ้งดินให้ ในกรณีหากมีการขุดลอกลำน้ำ เพื่อแก้ไขปัญหาในระยะสั้น น.ส.ฉัตรประอร กล่าว
 

หน้าแรก » ภูมิภาค