วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจาก ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา และ นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนาม “ข้อตกลงสันติภาพกัวลาลัมเปอร์” ระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งถูกระบุว่าเป็น “ข้อตกลงประวัติศาสตร์” ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

บรรยากาศในพื้นที่แนวชายแดนไทย–กัมพูชา โดยเฉพาะใน อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ ยังเต็มไปด้วยความไม่มั่นใจของประชาชนและครอบครัวทหารที่เคยสูญเสียจากเหตุปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หลายคนยังคงกังวลว่าฝ่ายกัมพูชาจะไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงเหมือนที่ผ่านมา

นางแต้ว รถน้ำ อายุ 48 ปี ชาวบ้านตำบลตาจง อำเภอละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวทั้งสีหน้าไม่สบายใจว่า ข่าวข้อตกลงครั้งนี้ดูเหมือนเดิมทุกครั้งที่ผ่านมา ส่วนตัวไม่มั่นใจและไม่ไว้ใจว่ากัมพูชาจะทำตามข้อตกลงได้จริง เพราะที่ผ่านมาไม่เคยทำตาม ทั้งเรื่องการหยุดยิงหรือการกู้ระเบิด “ไม่อยากให้เปิดด่านหรือทำสัญญาใด ๆ กับเขมรอีก” นางแต้วกล่าว

ด้าน นายอิน แก้วกลม อายุ 59 ปี ชาวบ้านตำบลเดียวกัน กล่าวว่า ไม่เชื่อว่ากัมพูชาจะทำตามข้อตกลง เพราะที่ผ่านมาเคยสร้างสถานการณ์และโยนความผิดให้ฝ่ายไทย จึงเห็นว่าด่านชายแดนบางจุดควรปิดถาวร เพื่อป้องกันปัญหาซ้ำรอย

ขณะที่ นายธรรมรงค์ศักดิ์ กระจ่างทอง อายุ 37 ปี ชาวจังหวัดบุรีรัมย์ พี่ชายของ พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง ที่เสียชีวิตจากเหตุปะทะ เปิดเผยว่า “ไม่เชื่อว่าฝั่งกัมพูชาจะหยุดยิงได้จริง เพราะที่ผ่านมาเขามักก่อกวนอยู่ตลอดเวลา” พร้อมเรียกร้องให้ภาครัฐติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันความสูญเสียซ้ำอีก