วันที่ 27 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บนสื่อสังคมออนไลน์มีการแชร์เรื่องราวสุดประทับใจของ น.ส.วราภรณ์ สร้อยเสน หรือ “น้องหมิว” ชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ ผู้พิการร่างเล็กที่ได้รับพระราชทานทุนการศึกษาจาก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จนเรียนจบปริญญาตรีด้วยเกียรตินิยมอันดับสองจากมหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์

น.ส.วราภรณ์ เคยเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรจากพระหัตถ์ของ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตผู้สำเร็จการศึกษาประจำปีการศึกษา 2560–2562 เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2565

โดยในเฟซบุ๊กส่วนตัวของน.ส.วราภรณ์ ได้โพสต์ข้อความรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระพันปีหลวง เล่าถึงวันที่ตัดสินใจเขียนจดหมายกราบบังคมทูลถึงพระองค์ ขอพระราชทานโอกาสทางการศึกษาแม้ไม่แน่ใจว่าจะมีใครได้อ่าน แต่ไม่นานก็ได้รับจดหมายตอบกลับจาก “สำนักพระราชวัง” ลงนามโดย “สำนักราชเลขาธิการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ”

จดหมายฉบับนั้นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิต เพราะพระองค์ทรงมีรับสั่งให้ระบุได้ว่าอยากเรียนที่ใด เรียนสาขาอะไร และพระราชทานทุนให้ศึกษาจนจบระดับปริญญาตรี น.ส.วราภรณ์ กล่าวว่า “เป็นวันที่รู้ว่าพระองค์ทรงเห็นเราแล้วจริง ๆ พระองค์ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะเป็นอย่างไร”

หลังได้รับทุน น.ส.วราภรณ์ตั้งใจเรียนอย่างเต็มที่ ส่งรายงานผลการศึกษาไปยังสำนักพระราชวังทุกภาคเรียน และได้รับพระราชกระแสผ่านเจ้าหน้าที่ให้กำลังใจว่า “ตั้งใจเรียนเท่าที่ทำได้ ไม่ต้องกดดันตัวเองมาก หากมีปัญหาให้แจ้งได้เลย” ซึ่งทำให้เธอมีกำลังใจเรียนต่อจนประสบความสำเร็จ

น.ส.วราภรณ์ เปิดเผยว่า ปัจจุบันทำงานอยู่ที่ธนาคารออมสิน สาขาอำเภอสตึก และเป็นเสาหลักของครอบครัว พร้อมยืนยันว่าจะดำเนินชีวิตด้วยความดีและจงรักภักดี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตอบแทนพระมหากรุณาธิคุณ

ขณะที่ นางโสภี สร้อยเสน อายุ 53 ปี มารดาของน.ส.วราภรณ์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตั้งแต่ลูกสาวได้รับทุนเรียน ก็ยึดถือพระองค์เป็นแบบอย่างแห่งความดี เป็นเด็กกตัญญูและตั้งใจเรียนเพื่อถวายเกียรตินิยมแด่พระองค์ท่าน เมื่อทราบข่าวการเสด็จสวรรคตของในหลวงรัชกาลที่ 9 ลูกสาวถึงกับร้องไห้ทุกวัน และเขียนข้อความแสดงความอาลัยด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี