วันที่ 26 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.00 น. ณ สนามหญ้าหน้าศาลากลางจังหวัดนครพนม นายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นประธานเปิดโครงการ “OTOP สร้างสุขสู่ชุมชน” จุดดำเนินการกลุ่มจังหวัดภาคอีสานตอนบน ณ จังหวัดนครพนม  โดยมี ว่าที่พันตรีอดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวต้อนรับ และนายสุรพล แก้วอินธิ ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมภูมิปัญญาท้องถิ่นและวิสาหกิจชุมชน เป็นผู้กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรม พร้อมด้วยแขกผู้มีเกียรติ ได้แก่ นายสามารถ สุวรรณมณี รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ผู้บริหารกรมการพัฒนาชุมชน และ นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล นายวรวิทย์ พิมพนิตย์ ว่าที่ร้อยตรีรวยรุ่ง ใครบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดนครพนม  รวมทั้งภาคีเครือข่าย เข้าร่วมพิธีอย่างคับคั่ง

โดยงาน “OTOP สร้างสุขสู่ชุมชน” จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 พฤศจิกายน – 2 ธันวาคม 2568 รวม 7 วัน ภายใต้แนวคิด  “Heritage & Innovation มรดกแห่งภูมิปัญญา นวัตกรรมแห่งอนาคต” มุ่งสืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างช่องทางตลาด และยกระดับผลิตภัณฑ์ OTOP ให้มีคุณภาพตรงตามความต้องการของตลาด สร้างรายได้หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจฐานราก และเป็นเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยมีผู้ประกอบการเข้าร่วมจำหน่ายสินค้ากว่า 200 บูธ จาก 72 จังหวัดทั่วทั้ง 4 ภาคของไทย ซึ่งเกือบทุกร้านเป็นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการ "คนละครึ่ง พลัส" นอกจากนี้ยังมีการจัดพื้นที่ให้แก่เครือข่ายโคกหนองนาจังหวัดนครพนม เข้าร่วมจำหน่ายผลผลิตด้วย

ภายในงานมีกิจกรรมหลากหลาย อาทิ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ระดับ 1-5 ดาว กิจกรรมสาธิตภูมิปัญญาท้องถิ่น เช่น การทำบายศรีบูชาองค์พญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของนครพนม การรีดใบตองห่อกาละแม ขนมของฝากชื่อดังประจำจังหวัด และการทำสินค้างานหัตถกรรมเครื่องประดับเครื่องแต่งกาย ของใช้จากผ้าไทย/ผ้าลายอัตลักษณ์นครพนม กิจกรรมเจรจาธุรกิจ (Business Matching) กิจกรรมส่งเสริมการขาย และกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่นเพื่อสร้างสีสัน และกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอย ให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างต่อเนื่อง

ในการนี้ นางกนกรัชต์ วงษ์กาฬสินธุ์ พัฒนาการจังหวัดนครพนม รวมทั้งผู้อำนวยการกลุ่มงาน พัฒนาการอำเภอ บุคลากรและเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดนครพนม ร่วมพิธีเปิดและเลือกซื้อสินค้ากระตุ้นเศรษฐกิจ โดยคาดการณ์ยอดจำหน่ายตลอดทั้งงานจะเกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจกว่า 15 ล้านบาท