วันพุธ ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2568 00:39 น.

ภูมิภาค

ศึกมรดกพันล้าน ภรรยาปะทะอดีตเมีย–ลูกชาย ค้านพินัยกรรมต่อศาล

วันอังคาร ที่ 02 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 13.29 น.

“ศึกมรดกตระกูลทองแท่งไทย” วัชราภรณ์ยื่นศาลชุมแพ ขอเป็นผู้จัดการมรดกหลายพันล้าน ด้านอดีตภรรยาและลูกชาย 3 คนคัดค้าน อ้างพินัยกรรมมีพิรุธ

ศาลจังหวัดชุมแพไต่สวนคำร้องแต่งตั้งผู้จัดการมรดกของนายเฮง ทองแท่งไทย นักธุรกิจรายใหญ่ผู้ก่อตั้งเครือเทพประทานพรกรุ๊ป หลังนางวัชราภรณ์ ภรรยาคนที่ 2 ชาวจังหวัดขอนแก่น ยื่นคำร้องขอรับหน้าที่ ขณะที่อดีตภรรยาและบุตรชาย 3 คนร่วมคัดค้าน โดยอ้างว่าพินัยกรรมที่นำมายื่นต่อศาลอาจมีพิรุธและอาจจัดทำโดยมิชอบ

 

 

การไต่สวนมีขึ้นเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2568 เวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 3 ศาลจังหวัดชุมแพ ตามคดีเลขดำที่ พE 426/2568 โดยมีผู้พิพากษาศาลจังหวัดชุมแพเป็นองค์คณะพิจารณา ในคดีที่นางวัชราภรณ์ ภรรยาคนที่ 2 ยื่นขอเป็นผู้จัดการมรดกของนายเฮง อดีตประธานเครือเทพประทานพรกรุ๊ป ซึ่งมีทรัพย์สินรวมมูลค่าหลายพันล้านบาท

คดีนี้มีผู้คัดค้าน 3 ราย ได้แก่ นางสมพิศ ชาวจังหวัดขอนแก่น อดีตภรรยาคนแรก นายประกิต และนายปรัชญา บุตรชายจากการสมรสครั้งแรก ซึ่งต่างเห็นว่า พินัยกรรมฉบับที่นำมายื่นประกอบคำร้อง “อาจเป็นพินัยกรรมที่ทำโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย” และเชื่อว่ามีข้อสงสัยหลายประการ

นายเฮงเสียชีวิตอย่างสงบเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2568 ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น สิริอายุ 82 ปี เป็นนักธุรกิจที่เป็นที่รู้จักกว้างขวางในจังหวัดขอนแก่น มีผลงานทำบุญและสนับสนุนกิจกรรมสาธารณะจำนวนมาก รวมถึงการดำเนินธุรกิจโรงโม่หิน เฮงการช่าง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง

จากข้อมูลที่ผู้ใกล้ชิดเปิดเผย ระบุว่า พินัยกรรมฉบับสุดท้ายจัดทำขึ้นเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ว่าการอำเภอหนองเรือ โดยมีปลัดอำเภอรักษาการแทนนายอำเภอ อัยการ และทนายความร่วมเป็นพยานในขั้นตอนการจัดทำ ขณะเดียวกันผู้ตายได้เดินทางไปขอใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลขอนแก่นรามในเวลา 09.00 น. ของวันเดียวกันเพื่อใช้ประกอบการยืนยันสติสัมปชัญญะ

ผู้ใกล้ชิดที่อยู่ในเหตุการณ์ระบุว่า ผู้ตายอยู่ในสภาพรู้สึกตัวดี สามารถโต้ตอบคำถามเจ้าหน้าที่ได้ครบถ้วนก่อนลงลายมือชื่อในพินัยกรรม อย่างไรก็ตาม คลิปบันทึกเหตุการณ์ถูกลบตามคำสั่งเจ้าหน้าที่อำเภอ เนื่องจากขั้นตอนจัดทำพินัยกรรมไม่อนุญาตให้บันทึกภาพ ทำให้ไม่สามารถนำคลิปดังกล่าวมาแสดงต่อศาลได้

เนื้อหาพินัยกรรมระบุว่า ทรัพย์สินที่ได้มาก่อนปี 2534 ให้ตกแก่บุตรชายทั้ง 4 คนจากการสมรสครั้งแรกแบ่งเท่า ๆ กัน รวมถึงกิจการเฮงการช่าง ส่วนทรัพย์สินที่ได้มาหลังปี 2534 ให้ตกแก่นางวัชราภรณ์ และบุตรีคือนางสาวปิยธิดา โดยให้รวมถึงที่ดิน เงินฝาก หุ้น และธุรกิจอื่น ๆ ในเครือ ทั้งนี้ ผู้ตายระบุให้นางสาวปิยธิดาเป็นผู้จัดการมรดก แต่ภายหลังบุตรีได้ยินยอมให้นางวัชราภรณ์รับหน้าที่แทน

ด้านผู้คัดค้านเห็นว่า นางวัชราภรณ์ “ไม่เหมาะสม” ที่จะเป็นผู้จัดการมรดก แม้ไม่ได้ระบุเหตุผลชัดเจน ขณะเดียวกันยังมีประเด็นความไม่พอใจเรื่องการใช้บัญชีของบุตรีในการบริหารเงินธุรกิจโรงโม่หิน เนื่องจากบัญชีของห้างหุ้นส่วนไม่สามารถเบิกจ่ายได้จนกว่าจะมีผู้จัดการมรดกที่ชอบด้วยกฎหมาย

ศาลจังหวัดชุมแพได้ไต่สวนคู่ความทั้งสองฝ่ายแล้ว และจะมีคำสั่งในวันที่ 21 มกราคม 2569 เวลา 13.30 น. โดยขั้นตอนการแต่งตั้งผู้จัดการมรดกเป็นกระบวนการสำคัญในการรวบรวมทรัพย์สิน ชำระหนี้สิน และแบ่งมรดกตามพินัยกรรมและที่กฎหมายกำหนด

 

หน้าแรก » ภูมิภาค