แวะชิม...ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครพนม-ไข่กระทะ-ขนมปังเวียดนาม

อาหารญวนต้นตำรับสไตล์โฮมเมด...ที่ร้าน “บั๋น หมี่ นาง” (เฝอนครพนม)

         

เมนูอร่อยน่าชิม..ประจำสัปดาห์นี้ “แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่ายังคงมีเมนูจานเด็ดจากทั่วทุกสารทิศมาแนะนำให้ทุกท่านได้ลิ้มลองกันอีกเช่นเคย และในฉบับนี้คงเป็นที่ชื่นชอบของบรรดาแฟนคอลัมน์ที่ชอบเปิปอาหารเวียดนามกันไม่มากก็น้อย เพราะเรากำลังจะพากันไปอิ่มอร่อยกับอาหารเวียดนามขนานแท้สไตล์โฮมเมดกันที่ “ร้านบั๋น หมี่ นาง” ริมถนนสุคนธสวัสดิ์ กทม.

         

ถ้าพูดถึงอาหารญวนหรืออาหารเวียดนามนั้นในปัจจุบันก็มีเปิดบริการกันอยู่มากมาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นร้านที่นำอาหารเวียดนามมาประยุกต์จนเป็นอาหารเวียดนามกลายพันธุ์ หรือไม่บางร้านก็ใช้วิธีสั่งวัตถุดิบมาจากร้านอาหารเวียดนามที่จังหวัดหนองคายและอุดรธานีเพื่อนำมาขายในเมืองกรุง แต่ที่ร้านบั๋น หมี่ นาง เขากล้าการันตีว่าวัตถุดิบส่วนใหญ่นั้นได้ทำเองตามต้นตำรับของอาหารเวียดนามขนานแท้ที่ได้สืบทอดสูตรเด็ดมาจากบรรพบุรุษ

         

และจากการที่ได้พูดคุยกับ “คุณชนานิธาน กุลจิตต์เจือวงศ์” หรือ “คุณนาง” ซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้บอกเล่าให้แม่ลิ้นจี่ฟังว่า ตนเองนั้นเป็นชาวไทยเชื้อสายเวียดนามโดยกำเนิด บ้านเกิดอยู่ในจังหวัดนครพนม ก่อนที่จะมามีครอบครัวอยู่ในเมืองกรุงด้วยการทำธุรกิจนำเข้าอะไหล่รถยนต์จากญี่ปุ่น ส่วนในยามค่ำคืนก็จะเปิดร้านข้าวต้ม 2 บาท จนโด่งดังในย่านถนนสุคนธสวัสดิ์นานกว่า 20 ปี ต่อมาเมื่อประสบกับปัญด้านค่าจ้างแรงงานที่ปรับตัวสูงขึ้น จึงได้ยุบร้านข้าวต้มมาเปิดเป็นร้านอาหารเวียดนามได้ประมาณ 2 ปี โดยได้นำวิทยายุทธ์ในการทำอาหารที่ตกทอดสูตรเด็ดมาจากคุณแม่และคุณยายมาทำขายเป็นเมนูอาหารเวียดนามในสไตล์แบบโฮมเมดไม่ว่าจะเป็น หมูยอทำเอง ขนมปังอบเองใหม่สดทุกวัน และจากจุดเด่นของขนมปังที่กรอบนอกนุ่มใน หรือที่ภาษาเวียดนามเรียกว่า “บั๋น หมี่” รวมกับชื่อเล่นของเจ้าของร้าน จึงเป็นที่มาของชื่อร้านนี้ว่า “บั่น หมี่ นาง”

         

ขนมปังเวียดนามของที่นี่นอกจากจะอบขายภายในร้านวันละหลายร้อยก้อนแล้ว ก็ยังมีร้านอาหารอื่นๆ มารับนำไปขายต่ออีกมากมาย ซี่ง “แม่ลิ้นจี่” ได้ลิ้มลองก็ต้องยกนิ้วให้ว่าทั้งกรอบทั้งนุ่มไม่แข็งกระด้างเหมือนที่บางร้านเขาทำขาย ส่วนเมนูอาหารก็มีให้เราได้เลือกสั่งอยู่หลายชนิดในราคาเดียวคือจานละ 40 บาท ยกเว้นก๋วยเตี๋ยวเนื้อที่จะเริ่มต้นกันที่ 50-60 บาท อิ่มอร่อยได้โดยไม่ต้องอาศัยผงชูรส ส่วนเมนูจานเด็ดที่ “แม่ลิ้นจี่” จะแนะนำให้สั่งมาลิ้มลองกันในวันนี้ก็มี

         

ขนมปังเวียดนาม...เป็นเมนูเรียกน้ำย่อยที่มีหน้าตาคล้ายแฮมเบอร์เกอร์ โดยเขาจะนำขนมปังก้อนโตที่อบมาร้อนๆ ผ่ากลางทาด้วยตับหมูบด ใส่กุนเชียง หมูยอ หมูแดง มันแกวดอง แครอทดอง ครีมสลัด หอมใหญ่ ผักกาดหอม ความอร่อยอยู่ที่ขนมปังกรอบที่ผิวด้านนอก นุ่มที่เนื้อขนมปังด้านใน ราดซอสมะเขือเทศลงไปหน่อยอร่อยอย่าบอกใคร ในราคา 40 บาท

         

ไข่กระทะ...โดยเขาจะนำไข่ไก่สองฟองตอกใส่ในกระทะเล็กๆ ใส่กุนเชียง หมูยอ โรยหน้าด้วยหมูบดและต้นหอมซอย ตั้งเตาไฟแค่พอสุกเล็กน้อยเสิร์ฟมาขณะยังร้อนกรุ่น ก่อนรับประทานโรยพริกไทยป่นลงไปนิด ซอสมะเขือเทศลงไปหน่อย ปิดท้ายด้วยซอสแม็กกี้อีกเล็กน้อยอร่อยแน่นอน ในราคา 40 บาท เพื่อเพิ่มรสชาติขอแนะนำให้ทานคู่กับ “กาแฟเวียดนาม” ร้อนๆ ในราคาแก้วละ 30 บาท

         

ก๋วยเตี๋ยวปากหม้อญวน...เขาจะนำข้าวเกรียบปากหม้อญวนที่มีไส้ในเป็นหมูสับปรุงรสห่อด้วยแผ่นแป้งนึ่งจนสุกใสใส่ไว้ในชาม ราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ ที่ต้มเคี่ยวมาจากกระดูกเล้งหอมกรุ่น ใส่ซี่โครงหมูอ่อน หมูยอ ลูกชิ้นหมู เลือดหมูต้ม โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวและต้นหอมซอย ชอบเผ็ดเติมพริก ชอบเปรี้ยวตักเติมพริกดองได้ตามใจชอบ ในราคาชามละ 40 บาท

         

ก๋วยจั๊บญวน...เขาจะนำเส้นก๋วยจั๊บญวนลวกสุกพร้อมถั่วงอก ใส่หมูยอ ซี่โครงหมูอ่อน ลูกชิ้นหมู ราดด้วยน้ำซุปร้อนๆ ที่ต้มเคี่ยวจนหอมกรุ่น โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียวและต้นหอมซอย ความอร่อยอยู่ที่เส้นก๋วยจั๊บนุ่มเนียนบวกกับรสชาติกลมกล่มของน้ำซุป ในราคาชามละ 40 บาท

         

ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครพนม...เป็นก๋วยเตี๋ยวสูตรน้ำแดงต้นตำรับแบบเวียดนามมีให้สั่งทั้งเส้นหมี่ เส้นเล็ก และเส้นใหญ่ นำมาลวกสุกพร้อมถั่วงอก ใส่เนื้อตุ๋น และเนื้อน่องลาย ราดด้วยน้ำซุปร้อนกรุ่นที่ต้มเคี่ยวมาจากสมุนไพร ยาจีน ขิงแก่ และมะเขือเทศ จนน้ำซุปเข้มข้นหอมกรุ่น เสิร์ฟพร้อมพริกขี้หนูย่างไฟ และน้ำจิ้มที่ปรุงมาจากกะปิ ซอสพริก และน้ำตาลปีบ ในราคาชามละ 50 บาท พิเศษ 60 บาท

         

ข้าวเกรียบปากหม้อญวน...เมนูจานนี้เขาจะนำน้ำแป้งข้าวเจ้าทาบนผ้าขาวบางที่ขึงอยู่ปากหม้อ ปิดฝานึ่งจนสุกเป็นแผ่นใส ใส่หมูบดผัดกับต้นหอมห่อม้วนแป้งเป็นท่อนกลมยาว เสิร์ฟใส่จานมาร้อนๆ โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว หมูยอทอด ต้นหอมซอย และน้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน สั่งมาลองชิมกันได้ ในราคาจานละ 40 บาท

         

นอกจากนี้ยังมีอาหารที่น่าลิ้มลองอีกหลายชนิดเชิญแวะมาเยี่ยมชิมกันได้ ร้าน “บั๋น หมี่ นาง” (เฝอนครพนม) จะเปิดบริการกันทุกวันตั้งแต่เวลา 07.00-20.00 น. สถานที่ตั้งของร้านจะเป็นอาคารสองคูหาอยู่ปากซอยสุคนธสวัสดิ์ 8 ถนนสุคนธสวัสดิ์ เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ใกล้กับโรงเรียนสตรีวิทยา 2 นอกจากนี้ที่ร้านนี้ก็ยังมีบริการรับออกงานจัดเลี้ยงสถานที่ โทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08-1908-2619

         

สำหรับวันนี้คงต้องขอแนะนำกันแต่เพียงแค่นี้ แล้วพบกับ “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 15” ได้ใหม่ในสัปดาห์ต่อไปนะคะ..!