วันอังคาร ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 09:33 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

ฮวงจุ้ยพารวย

วรธนัส อัศกุลโกวิท : วันศุกร์ ที่ 09 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 09.23 น.

รู้จักพลิกแพลงในการเรียน นำไปสู่การประยุกต์ที่ใช้ได้จริงของฮวงจุ้ย ตอนที่ 16

ประสิทธิภาพฮวงจุ้ยของ 12 นักษัตร
 
 
 
 
เชื่อว่าไม่ว่าท่านจะรู้จักหลักการของฮวงจุ้ยหรือไม่นั้น ก็จะต้องรู้จัก 12 นักษัตรแน่นอน หรือถึงแม้ท่านจะไม่รู้จัก 12 ตี้จือ(地支)แต่ท่านจะต้องจำได้แน่นอนว่าสัตว์ทั้ง 12 ตัวนั้นมีอะไรบ้าง นั่นก็คือ หนู วัว เสือ กระต่าย มังกร งู ม้า แพะ ลิง ไก่และหมู
 
 
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 12 นักษัตรมีความสัมพันธ์กับชีวิตของคนเรามาก ทุกๆ คนต่างก็มีสัตว์ของตัวเอง ตั้งแต่โชคชะตา โชคลาภ การงาน ฯลฯ ก็ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น ดังนั้น ในหลักการฮวงจุ้ยจึงอาศัยคุณสมบัติและจุดเด่นมาสัมพันธ์กับอุปกรณ์ฮวงจุ้ย เช่น การกวักทรัพย์ รับความเฮง ฯลฯ และต่อไปจะอธิบายถึงประสิทธิภาพของสัตว์แต่ละตัวใน 12 นักษัตร
 
 
· หนู
 
เมื่อพูดถึงหนูแล้ว เชื่อว่าทุกท่านจะต้องร้องอี๋อย่างแน่นอน เพราะในความคิดของหลายๆ คน หนูเป็นพาหะนำโรค ยิ่งไปกว่านี้ยังชอบกัดทำลายข้าวของในบ้านหรือก่อให้เกิดความสกปรก หรือกระทั่งเสียงร้องจี๊ดๆ และรูปร่างหน้าตาของมันก็อาจจะทำให้หลายๆ คนต้องรู้สึกขยะแขยงมาก ดังนั้นแล้วในสมัยอดีตจึงนำหนูมาพรรณนาว่าเป็นความไม่ดีหลายๆ อย่าง
 
 
และด้วยเพราะเหตุนี้ ดังนั้นในศาสตร์ฮวงจุ้ยจึงมองว่าหนูเป็นสัตว์ร้าย
ในศาสตร์ฮวงจุ้ยมีวิธีจัดวางเพื่อการทำร้ายผู้อื่น ซึ่งก็คือการใช้หนูฮวงจุ้ย 2 คู่วางไว้บนพื้นหน้าประตู หันศีรษะไปทางประตูของฝ่ายตรงข้าม เช่นนี้ก็จะทำให้ส่งผลกระทบร้ายต่อโชคชะตาของฝ่ายตรงข้าม ส่วนวิธีแก้ไขนั้นก็ง่ายมาก เพียงแปะภาพเทพเจ้าประตูหรือเจ้าที่ หรือแม้กระทั่งแขวนกระจกปากว้าไว้บนประตูก็สามารถแก้ไขความชั่วร้ายจากหนูได้
 
 
แต่ในศาสตร์ฮวงจุ้ยนั้นไม่ต้องการให้คนใช้วิธีนี้ทำร้ายผู้อื่น เพราะเดิมทีพลังชั่วร้ายของหนูนั้นก็ไม่ได้มีมาก ดังนั้นเมื่อถูกขวางกั้นแล้วก็กลับจะทำให้โชคที่ไม่ดีสะท้อนไปหาเจ้าของเอง ยิ่งไปกว่านี้ก็ยังมีผลกรรมจากการทำให้ผู้อื่นเดือดร้อนด้วย ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ร้ายกว่าเดิม
 
 
· วัว
 
ด้วยเพราะในสมัยโบราณนั้น จีนเป็นประเทศเกษตรกรรม ดังนั้นวัวจึงกลายเป็นผู้ช่วยตัวเองของชาวเกษตรไปโดยปริยาย
 
 
ประกอบกับนิสัยเดิมของมันที่อดทน ขยันทำงาน ยิ่งไปกว่านี้สิ่งต่างๆ ในตัวของมันยังสามารถนำมาบริโภคได้ เช่น นมวัว เนื้อวัว เป็นต้น ดังนั้น ในศาสตร์ฮวงจุ้ย วัวจึงเป็นสัตว์มงคลอย่างแน่นอน ช่วยทำให้เกิดความมงคล ดีต่อด้านการงาน โชคลาภ
 
 
แต่หากต้องการให้วัวแผลงพลังพิเศษของมันออกมาทั้งหมด สิ่งที่ควรต้องระวังมีดังนี้
 
 
1.วัสดุ จะต้องทำจากทองคำจึงจะดีที่สุด เพราะวัวสีทองอร่ามนั้นจะส่งผลดีต่อด้านการงานและโชคลาภ หากใช้วัวที่ทำมาจากทองแดงก็ควรที่จะให้เป็นสีทอง พราะจะทำให้มีประกายสวยงาม แต่หากจะใช้วัสดุจำพวกเซรามิกก็ได้เช่นกัน ทว่า บริเวณที่นำไปตั้งนั้นจะต้องพิจารณาให้มาก และสิ่งที่ต้องระวังคือห้ามใช้วัวที่ทำจากไม้ เพราะใน 5 ธาตุโฉ่ว(丑)คือดิน ไม้ปะทะดิน จะกลับกลายทำให้ไม่สามารถแผลงความพิเศษออกมาได้
 
 
 
 
วัวทอง
 
 
2.สีสันและรูปร่างจะทำขึ้นมาอย่างละเอียด ประณีตหรือไม่นั้นไม่สำคัญ แต่จะสำคัญที่ท่าทาง โดยจะต้องแลดูแล้วมงคล มั่นคง น่าเชื่อถือ ขะมักเขม้น อดทน ส่วนสำหรับสีสันนั้นจะต้องใช้สีทองหรือสีเหลืองจึงจะดีที่สุด
 
 
3.ทิศทางเพราะวัวคือ โฉ่ว(丑)จึงเหมาะสมกับทิศตะวันออกเฉียงเหนือเอนไปทางเหนือ ยิ่งไปกว่านี้หากพิจารณาจาก ซานเหอซื่อโหย่วโฉ่ว(巳酉丑三合)แล้ว ทิศซื่อ โหย่วล้วนแล้วแต่ไม่เลวทั้งสิ้น ส่วนทิศเว่ยที่เป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้เอนไปใต้นั้นด้วยเพราะปะทะกับโฉ่วเว่ยจึงไม่เหมาะสม ดังนั้นหากเป็นผู้ที่เกิดปีแพะจะไม่เหมาะสมที่จะใช้วัวฮวงจุ้ย
 
 
· เสือ
 
ด้วยเพราะเสือนั้นมีพลังรุนแรงและความน่ากลัวอยู่แล้ว ดังนั้น หากจะต้องใช้ในการจัดวางฮวงจุ้ยแล้วจะต้องเหมาะสมกับผู้ที่มีสไตล์หรือมีอาชีพพิเศษเท่านั้น เช่น ทหาร ตำรวจ จึงจะเหมาะสม ทำให้เกิดประสิทธิภาพได้
 
 
เมื่อมองจากมุมมองฮวงจุ้ยแล้ว เสือจะถูกมองว่าเป็นสัตว์ร้าย ดังนั้นปกติแล้วจะไม่เหมาะสมกับคนทั่วไป หากในครอบครัวมีการประดับด้วยเสือก็มักจะก่อให้เกิดความขัดแย้ง ทะเลาะเบาะแว้ง อุบัติเหตุ และหากเป็นร้านค้าต่างๆ ก็ไม่เหมาะที่จะมีเสือเช่นกัน เพราะสำหรับลูกค้าแล้ว เสือที่ดุร้ายและต้องการล่าเหยื่อจะทำให้ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้ ดังนั้นแล้วจึงส่งผลกระทบต่อการค้าขาย หากมีเสือในออฟฟิศก็จะทำให้คนแตกแยกกัน ทำให้คนรอบข้างรู้สึกกดดัน เพื่อนในที่ทำงานกลัวว่าจะถูกท่านควบคุม หัวหน้ากลัวว่าท่านจะล่วงเกิน ดังนั้นแล้วหากต้องการใช้เสือก็ควรวางไว้ในที่ลับตา
 
 
หากในบ้านมีเสือ ห้ามให้อยู่ที่ห้องนอน (โดยเฉพาะห้องสามีภรรยา) และห้องรับแขกตรงข้ามประตูใหญ่ เพราะหากวางไว้ในห้องนอนจะทำให้สามีภรรยารู้สึกไม่ปลอดภัยตลอดเวลา ยิ่งไปกว่านี้ยังทำให้ความสัมพันธ์ถดถอย หากวางไว้ที่ห้องรับแขกตรงข้ามประตูใหญ่แล้วจะทำให้ส่งผลกระทบต่อเพื่อนบ้านหรือแขกที่มาและทำให้พวกเขารู้สึกไม่สบาย
 
 
แม้ว่าในด้านฮวงจุ้ย เสือจะเป็นสัตว์ดุร้าย แต่ก็มีพลังในการปกป้องที่ดีมาก โดยเฉพาะกับผู้ที่ร่ำรวยและมีอำนาจแล้วมักจะชอบใช้เสือมาตกแต่ง เพราะคนพวกนี้จะเล็งเห็นถึงความสำคัญของผลประโยชน์มากกว่าความสัมพันธ์ ดังนั้น หากท่านมีอำนาจยิ่งใหญ่หรือมีบารมีจริงก็สามารถใช้เสือมาประดับตกแต่งได้
 
 
· กระต่าย
 
ในสายตาของคนทั่วไป กระต่ายจะเป็นสัตว์ที่รักสะอาดและอ่อนโยนมากที่สุด ดังนั้นในศาสตร์ฮวงจุ้ยจึงถูก
 
 
มองว่าเป็นสัตว์ทมงคล สามารถใช้ความอ่อยโยนนี้ไปมลายความชั่วร้ายได้ แต่หากเป็นความชั่วร้ายที่ค่อนข้างรุนแรง เช่น ถนนปะทะ ความชั่วร้ายทะลุหัวใจ ความชั่วร้ายฟ้าสังหาร ฯลฯ ก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน นอกจากนี้ เพราะเหม่าและโห่ยวนั้นปะทะกัน หากเป็นคนปีไก่ก็จะไม่เหมาะกับการใช้กระต่าย
 
 
ด้านล่างนี้เป็นสิ่งที่ต้องระวังในการใช้เครื่องประดับกระต่าย
 
1.วัสดุ เหม่า(卯)คือไม้ ดังนั้นขณะวายกระต่ายฮวงจุ้ยควรทำจากไม้ หรือเซรามิก แต่หากทำมาจากโลหะหรือหยก กลับจะทำให้ไม่สามารถเปล่งประสิทธิภาพออกมาได้ ทำให้เกิดเพียงกลิ่นเหม็นของทองแดงเท่านั้นเอง
 
 
2.ทิศทางในศาสตร์ฮวงจุ้ย เหม่าคือทิศตะวันออก ดังนั้นจึงเหมาะที่จะวางในทิศตะวันออกหรือทิศตะวันออกเฉียงใต้มากที่สุด ไม่ควรวางในทิศตะวันตก เพราะทิศนี้เป็นทองปะทะไม้ หากไม่มีพื้นที่ในทิศทางที่เหมาะสมก็สามารถวางไว้ฝั่งซ้ายหันไปหาประตูใหญ่ได้ เพราะทิศนี้คือทิศมังกรเขียว ที่จะช่วยทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นนั้นดีขึ้น แต่ไม่ควรวางไว้ฝั่งขวาเพราะทิศเสือขาวเป็นทองจะปะทะไม้
 
 
3.สีสัน เพราะเดิมทีนั้นกระต่ายก็เป็นสัตว์ที่อ่อนโยนอยู่แล้ว ดังนั้นควรใช้สีที่อ่อนโยนเป็นหลัก เช่น สีขาว และหากมีสีชมพูด้วยก็จะเหมาะสมเช่นกัน
 
 
· มังกร
 
ในสายตาของคนจีน มังกรเป็นสิ่งที่สูงส่งมากที่สุด ตั้งแต่การกล่าวว่าเป็นลูกหลานของมังกรจจไปถึงการค้นหาถ้ำมังกร เทือกเขามังกร ล้วนแล้วแต่เชื่อมั่นและให้ความสำคัญกับสัตว์ที่ไม่เคยมีผู้ใดเคยพบเห็นมาก่อน และสัญลักษณ์ของความสูงส่งเช่นนี้ก็มีใช้ในฮวจุ้ยไม่น้อยเช่นกัน เช่น สยบความชั่วร้าย แก้ชะตา สร้างโชคลาภ เป็นต้น เพียงแต่ว่าจะต้องใช้ให้เหมาะสมจึงจะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้
 
 
สำหรับมังกรฮวงจุ้ยแล้ว มีสิ่งที่ต้องระวังดังนี้
 
1.วัสดุและขนาด เพื่อให้มังกรฮวงจุ้ยแสดงพลังออกมาได้อย่างแท้จริง อันดับแรกจะต้องพิถีพิถันในวัสดุด้วย เพราะมังกรเป็นสิ่งมงคล ดังนั้นจึงต้องเลือกวัสดุจากทอง หยกหรือเซรามิกเป็นหลัก เช่นนี้แล้วจึงจะเหมาะสมกับความสูงส่งของมังกร แค่สำหรับขนาดของมังกรนั้นก็ไม่ได้มีเงื่อนไขที่ละเอียดมากนัก
 
 
2.รูปร่างและสีสัน การสลักรูปมังกรนั้นจะต้องให้ความรู้สึกพลิ้วไหว จึงจะแสดงพลังของมังกรออกมาได้ เพราะหากไม่เป็นเช่นนี้ มังกรที่ดูตายๆ ไร้ความรู้สึกจะไม่ก่อให้เกิดผลดีใดๆ เลย
 
 
3.ทิศทางให้ดีที่สุดจะต้องอยู่ใน ทิศเฉิน(辰)ซึ่งก็คือทิศตะวันออกเฉียงใต้พิงทิศตะวันออก หากพิจารณาจาก 5 ทิศทางแล้วก็จะต้องวางในฝั่งซ้ายมือของเรา
 
 
หากเพราะความสัมพันธ์กับผู้อื่นไม่ดีทำให้เรื่องต่างๆ ไม่ราบรื่นก็สามารถตั้งมังกรฮวงจุ้ย 1 คู่ไว้ที่กำแพงฝั่งซ้ายมือของบ้านหรือบนโต๊ะหันเข้าหาประตูใหญ่ได้ เช่นนี้ก็จะช่วยได้เช่นกัน หากเป็นร้านค้าขาย เปิดกิจการก็ทำได้เช่นกัน แต่ทว่า หากตั้งบนอ่างปลาจะดีที่สุด เพราะช่วยด้านเงินทอง หากเป็นครอบครัวปกติแล้ว ตั้งในทิศเหนือก็ได้ เพราะใน 5 ธาตุ ทิศเหนือนั้นคือน้ำ
 
 
· งู
 
เมื่อพูดถึงงูแล้ว คนทั่วไปจะต้องรู้สึกหวาดกลัวแน่นอน เพราะมักจะคิดว่างูนั้นเป็ฯสัตว์เลือดเย็น ดุร้าย และมีอันตรายถึงชีวิต จึงทำให้คนเรานั้นทั้งกลัวและไม่ชอบ ดังนั้นในด้านฮวงจุ้ย งูจึงกลายเป็นสัตว์ร้ายที่ยังสามารถส่งพลังทำร้ายผู้อื่นได้อีกด้วย
 
 
ดังนั้น ขณะใช้งูฮวงจุ้ย มีสิ่งที่ต้องระวังดังนี้
 
1.ไม่ควรสวมใส่บนร่างกาย เพราะงูมีพลังทิพย์ที่น่ากลัวจะทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นแย่ขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไปกว่านี้ความเลือดเย็นและโหดร้ายของงูจะทำให้ส่งผลกระทบต่อตัวเอง ประกอบกับความลื่นไหล เจ้าเล่ห์ของงู ดังนั้นจึงไม่ควรสวมใส่บนร่างกาย โดยเฉพาะกับเพศหญิง
 
 
2.ไม่ควรวางไว้ในบ้าน หากในบ้านมีภาพหรือรูปปั้นที่เป็นงูจะทำให้สมาชิกในครอบครับนับวันยิ่งความสัมพันธ์ห่างเหิน หรือแม้กระทั่งจะทะเลาะ โจมตีกันและยิ่งถ้าหากในบ้านมีเด็ก ก็จะทำให้เด็กกลัวและรู้สึกไม่ปลอดภัย
 
 
ถึงแม้จะมีส่วนไม่ดีค่อนข้างเยอะ แต่งูนั้นกลับมีประโยชน์กับคู่ภรรยาที่มีลูกได้ยาก โดยจะต้องวางไว้ที่หัวเตียงไปยังปลายเตียง
 
 
สำหรับการเลือกงูฮวงจุ้ยจะเลือกงูเห่าเป็นหลัก แต่สิ่งที่ควรระวังคือหากเกิดปีหมูไม่ควรจะใช้งู เพราะ ซื่อไห้(巳亥)นั้นปะทะกัน ส่วนทิศทางจะต้องเป็นทิศตะวันออกเฉียงใต้ หากตั้งในทิศตะวันตกเฉียงเหนือ
 
 
· ม้า
 
ม้านั้นเป็นสัตว์ที่ทรงพลัง ในศาสตร์ฮวงจุ้ยจะไม่แบ่งว่าม้านั้นเป็นสัตว์ร้ายหรือมงคล เพราะพลังของมันยากต่อการควบคุม แต่คนส่วนใหญ่จะมองว่าเป็นสัตว์มงคลในด้านการงาน เป็นเจ้าคนนายคน ดังนั้น การใช้ม้าในด้านฮวงจุ้ยก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน
 
 
แม้ม้าจะมลายความชั่วร้ายไม่ได้แต่กลับทำให้คนฮึกเหิมได้ ด้วยเพราะม้านั้นมีนิสัยตรงไปตรงมา ประกอบกับมีความแข็งแกร่ง ดังนั้นหากจัดวางม้าฮวงจุ้ยจะทำให้คนมีพลัง มีกำลังใจ มีแรงฮึดสู้
 
 
ม้าจะทำให้โชคลาภเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้การงานราบรื่นมากขึ้น หากต้องการให้ม้าฮวงจุ้ยนั้นมีประสิทธิภาพก็ต้องพิถีพิถันในตำแหน่ง โดยม้าคือ อู่(午)ดังนั้นจึงเหมาะกับทิศใต้ในบ้านหรือสถานที่ทำงานมากที่สุก ส่วนวัสดุจะต้องเลือกที่ทำมาจากทอง หยกหรือทองแดง ไม่ควรใช้พลาสติกเพราะจะไม่มีพลังทิพย์แม้แต่นิดเดียว
 
 
หากต้องการทะลุจากสถานการณ์เรียบง่าย ไร้ความก้าวหน้า เช่น การเลื่อนตำแหน่ง ความสัมพันธ์คู่ครอง โยกย้าย ฯลฯ ม้านั้นเป็นสิ่งที่ช่วยได้ดีมาก
 
 
หากต้องการให้บรรลุสิ่งที่ตัวเองต้องการ ให้ดีที่สุดควรให้ศีรษะม้าหันไปทิศนั้นๆ หากท่านต้องการเปลี่ยนแปลง โยกย้ายก็นำม้าฮวงจุ้ยวางไว้ในตำแหน่งม้าตามเดือน (ทุกเดือนปีหยิน อู่ ซวี ตำแหน่งม้าจะอยู่ที่เซิน ทุกเดือนปีเซิน จึ เฉิน ตำแหน่งม้าจะอยู่ที่หยิน ทุกเดือนปีไห้ เหม่า เว่ย ตำแหน่งม้าจะอยู่ที่ซื่อ ทุกเดือนปีซื่อ โหย่ว โฉ่ว ตำแหน่งม้าจะอยู่ที่ไห้) หากต้องการทางด้านชีวิตคู่ครองก็จะต้องวางในทิศทางความรัก
 
 
· แพะ
 
ในสายตาของคนทั่วไป แพะเป็นสัตว์ที่อ่อนโยน เชื่อฟัง แต่กลับลืมไปว่า ในความเป็นจริงแล้วแพะก็มีความดื้อรั้นและแข็งแกร่งอยู่ภายใน ดังนั้นในศาสตร์ฮวงจุ้ย แพะจึงเป็นสัตว์มงคลแน่นอน 100%
 
 
หากต้องการใช้มาเสริมโชคลาภ ก็จะต้องเป็นแพะ 3 คู่ ซึ่งก็คือ ซันหยางไค่ไท่(三阳开泰)จึงจะดี ส่วนในการเลือกวัสดุจะต้องเลือกที่ทำมาจากทอง ทองชุบจึงจะดี หรือจะเป็นเซรามิกกได้ แต่ห้ามใช้เฉพาะหัวแพะเพราะกลับจะทำให้เกิดพลังชั่วร้าย ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพ
 
 
การจัดวางแพะก็สามารถทำให้คนเรานั้นมีความมานะและอดทนได้ ซึ่งก็คือนิสัยเดิมของแพะที่ขยัน ไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
 
 
ส่วนในทิศทางการจัดวาง ให้ดีที่สุดจะต้องวางไว้ในทิศตะวันตกเฉียงใต้เอนไปทิศใต้ของห้องรับแขกหรืออฟฟิศ ห้ามตั้งในทิศตะวันออกเฉียงเหนือเอนเหนือ เพราะจุดนี้เป็นโฉ่ว โฉ่วเว่ย(丑未)ปะทะกัน นอกจากนี้ ผู้ที่เกิดปีวัวก็ไม่ควรใช้แพะฮวงจุ้ย
 
 
· ลิง
 
หากต้องการพูดถึงสัตว์ที่ว่องไวมากที่สุดก็น่าจะต้องมีลิงอยู่ในนั้นแน่นอน ด้วยเพราะความฉลาด ว่องไว กระล่อน ชอบเคลื่อนไหว จึงทำให้ถูกมองว่าเป็นสัตว์ที่ใกล้เคียงกับคนมากที่สุด ดังนั้นจึงถูกมองว่าเป็นสัตว์มงคลใน ฮวงจุ้ยด้วย
 
 
แต่ลิงก็ไม่ได้มีประโยชน์ที่ดีทางฮวงจุ้ยเสมอไป ปกติแล้วหากในบ้านมีเด็กที่ขี้อาย กลัวคนแปลกหน้า ไม่ชอบสัมผัสกับโลกภายนอก ชอบเก็บตัวก็สามารถวางลิงฮวงจุ้ยไว้ในห้องรับแขกบริเวณที่เห็นได้ง่ายหรือเด็กสามารถจับต้องได้ง่าย จะทำให้นิสัยของเด็กเปลี่ยนแปลง แต่หากในบ้านมีเด็กที่ร่าเริงอยู่แล้ว หากแขวนภาพหรือรูปปั้นลิงจะทำให้เด็กคนนั้นร่าเริงจนอาจจะเกิดสิ่งที่ไม่ดีได้
 
 
· ไก่
 
หากต้องการพูดถึงเช้าวันใหม่ก็มักจะต้องนึกถึงไก่ก่อนเป็นอันดับแรก ตั้งแต่อดีตเป็นต้นมา ไก่ก็มีหน้าที่ร้องเรียกปลุกคนให้ตื่น ดังนั้นในด้านฮวงจุ้ย จึงมีประโยชน์ต่อผู้ที่หมดอาลัยตายอยาก ไร้พลัง ไร้กระจิตกระใจในการทำสิ่งต่างๆ ได้
 
 
หากต้องการให้ครอบครัวหรือกลุ่มคนมีชีวิตชีวาก็สามารถวางไก่ฮวงจุ้ยไว้ในทิศตะวันตกของบ้านหรือสถานที่ทำงานได้ จะต้องวางไก่ 1 คู่ก็จะทำให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
 
 
ไก่ฮวงจุ้ยยังมีความสามารถอีกอย่างที่สัตว์อื่นรับมือไม่ได้ นั่นก็คือรับมือกับความชั่วร้ายแมลงได้ การวางไก่ฮวงจุ้ย 1 คู่ ไม่ว่าจะเป็นในบ้านหรือที่ใดๆ มีแมลงมารังควาญก็สามารถตั้งให้ไก่ฮวงจุ้ยหันหน้าไปจุดนั้นทำให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นได้
 
 
ในด้านการเลือกวัสดุ จะใช้อะไรก็ได้แต่ห้ามใช้พลาสติก (พลาสติกเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น จึงไม่ก่อให้เกิดพลังทิพย์) สำหรับทิศทางการวาง หากต้องการรับมือกับความชั่วร้ายแมลง เพียงหันไปหาทิศทางนั้นๆ ก็เพียงพอแล้ว แต่หากต้องการให้มีความกระฉับกระเฉงก็จะต้องวางไว้ในทิศตะวันตกของบ้านหรือที่ทำงานจึงจะดี
 
 
· สุนัข
 
เรามักจะกล่าวว่าเสือนั้นเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ที่สุดของคน ยิ่งไปกว่านี้ยังมีคนอีกมากมายที่คิดว่าสุนัขเป็นสัตว์ที่ฉลาด แต่กลับมีคำในแง่ลบต่างๆ ที่มาจากคำว่าสุนัข ซึ่งอาจจะเป็นเพราะได้รับผลกระทบมาจากพฤติกรรมต่างๆ ของสุนัข
 
 
ในศาสตร์ฮวงจุ้ย สุนัขก็ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสัตว์มงคล หากต้องการใช้สุนัขมาปกป้องตัวเองหรือการขโมยหรือแม้กระทั่งความสัมพันธ์กับผู้อื่น ให้ดีที่สุดจะต้องตั้งในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านหรือที่ทำงาน เพราะทิศนี้คือซวี หากเพียงต้องการป้องกันการขโมยแล้วก็วางหันไปหาประตูก็เพียงพอ
 
 
สำหรับวัสดุจะต้องทำจากเซรามิกหรือดินจึงจะดี แต่คนที่เกิดปีมังกรห้ามใช้ และไม่ควรตั้งในทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ไม่เช่นนั้นแล้วจะทำให้เกิดเรื่องร้าย ส่วนจำนวนก็จะต้องเป็น 1 คู่ เพราะหากมากเกินไป เวลานานเข้าจะส่งผลต่ออารมณ์ทำให้สงบไม่ได้
 
 
· หมู
 
หากพูดถึงความสมบูรณ์แล้วจะต้องเป็นหมูอย่างแน่นอน เพราะรูปร่างที่อ้วนกลมของมัน ถูกมองว่าเป็นตัวแทนของความร่ำรวย ความสุขมาตั้งแต่สมัยโบราณ ดังนั้นในศาสตร์ฮวงจุ้ย หมูจึงเป็นสัตว์ที่มีพลังด้านเงินทอง แต่เพราะรูปร่างและการดำรงชีวิต ทำให้ไม่มีความสูงส่งให้พูดถึง
 
 
ปกติแล้วในการเซ่นไหว้จะต้องมีหมูปรากฏ ซึ่งก็คือเพื่อให้มีโชคลาภร่ำรวย ดังนั้นแล้วเราสามารถตั้งหมูไว้ในบ้านหรือที่ทำงานเพื่อโชคลาภได้
 
 
เพราะสิ่งที่ต้องการคือโชคลาภ ดังนั้นตำแหน่งการวางจึงสำคัญมาก ปกติแล้วนอกจากห้องน้ำไม่เหมาะสมแล้ว พื้นที่ต่างๆ ก็ได้ทั้งสิ้น แต่ให้ดีที่สุดจะต้องวางไว้ในตำแหน่งเงิน และด้วยเพราะสิ่งที่ต้องการคือเงิน วัสดุที่ทำนั้นจึงต้องใช้ทองคำ เช่นนี้แล้วจึงจะทำให้กำเนิดประสิทธิภาพที่ดีที่สุด สมมุติว่าใช้กระปุกออมสินรูปหมูแล้วหยอดกระปุกทุกวันก็จะทำให้มีโชคทางด้านนี้ แต่อย่าลืมว่าห้ามเคลื่อนไหวเด็ดขาด
 
 
สำหรับหากในบ้านมีเด็กที่ไม่ชอบกินอาหารหรือผอมแห้ง ใช้หมูฮวงจุ้ยวางไว้ในโต๊ะทานข้าว หันไปหาเด็กก็จะช่วยได้
 
 
แต่หากเป็นคนเกิดปีงู เพราะซื่อไห้ปะทะกัน จึงทำให้งูฮวงจุ้ยช่วยอะไรไม่ได้
 
 
ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุ๊คได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า
 https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า และสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการเรียนฮวงจุ้ยฟรี ได้ที่ อาคารอาจารย์หม่า โทร.08-8277-4051-60