อื่นๆ » คอลัมน์
ไลฟ์สไตล์
บ้านเมือง : วันเสาร์ ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2559, 07.53 น.
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่

“แอ่วน่าน” สักการะพระธาตุแช่แห้ง ไหว้พระ เสริมดวง ต้อนรับปีระกา
“แอ่วน่าน” สักการะพระธาตุแช่แห้ง ไหว้พระ เสริมดวง ต้อนรับปีระกา
ในเทศกาลปีใหม่ทุกๆ ปี จุดหมายของนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ถ้าไม่ขึ้นเขา ดูทะเลหมอก ชมดอกไม้เมืองหนาว เนื่องจากอุณหภูมิที่หนาวเย็นระหว่าง 8-15 องศาเซลเซียส นับว่าเหมาะแก่การแพ็กกระเป๋าขึ้นเหนือท่องเที่ยวตามแลนด์มาร์กที่สำคัญของไทย
แต่ก็ยังมีนักท่องเที่ยวที่เน้นท่องเที่ยวแบบครอบครัวก็มักจะเข้าวัดทำบุญ เส้นทางสายเหนือก็คงเป็นอีกจุดหมายหนึ่งที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลือกกัน เพราะนอกจากอากาศจะเย็นสดชื่นแล้ว วัดวาทางภาคเหนือก็มีความสวยงาม โดดเด่น และน่าไปสักการะ
วัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน ถือเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ไม่ควรพลาด เรียกว่า “ต้องห้ามพลาด” ก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะได้เปรียบเรื่องของสภาพภูมิอากาศและสถานที่ตั้งแล้ว พระธาตุแช่แห้งยังเป็นพระธาตุคู่เมืองน่าน และเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนที่เกิดปีเถาะตามปีนักษัตรอีกด้วย ที่สำคัญตามความเชื่อของคนไทยพุทธคนที่เกิดปีเถาะหรือปีกระต่าย ถือเป็นปีชงในปี พ.ศ.2560 ควรอย่างยิ่งที่จะต้องไปสักการะพระธาตุแช่แห้งพระธาตุประจำปีเถาะ เพราะเชื่อว่าหากกราบไหว้พระธาตุประจำปีเกิดจะช่วยทำให้พ้นเคราะห์ แก้ชง เสริมดวง ทำให้เกิดความสิริมงคลแก่ชีวิตอีกด้วย
พระเดชพระคุณพระชยานันทมุนี เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน เล่าถึงประวัติความเป็นมาของตำนานพระธาตุแช่แห้งให้ฟังว่า ในสมัยก่อน อาณาจักรล้านนา ล้านช้าง และพม่า ต่างเป็นแว่นแคว้นข้างเคียงที่มีความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมกันมาก่อน การกำหนดให้มีการไหว้พระธาตุประจำปีเกิด จึงเป็นกลไกอย่างหนึ่งของการเดินทางติดต่อกัน ทำให้คนแต่ละเมืองที่อยู่ในเขตวัฒนธรรมเดียวกัน มีความสัมพันธ์ไปมาหาสู่กันได้อย่างใกล้ชิดขึ้น หลังจากที่พระพุทธเจ้าปรินิพพานแล้ว พุทธศาสนิกชนต่างก็ให้ความสำคัญต่อ พระบรมสารีริกธาตุ หรือ กระดูกของพระพุทธเจ้า ซึ่งมักจะเรียกกันสั้นๆ ว่า “พระบรมธาตุ” หรือ “พระธาตุ” เป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นเศษส่วนจากพระวรกายที่เหลืออยู่ไม่มากนัก จึงทำให้ต้องเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี
ในสมัยโบราณมีการประดิษฐานพระบรมธาตุไว้ใต้เนินดิน มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วปักฉัตรไว้ด้านบน เพื่อยกย่องและแสดงเกียรติยศของผู้ตายตามธรรมเนียมอินเดียโบราณ ต่อมาในสมัยพระเจ้าอโศก ได้ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดและแจกจ่ายพระบรมสารีริกธาตุออกไปบูชายังเมืองต่างๆ ทำให้มีการสร้างสถูปบรรจุพระบรมธาตุขึ้นทั่วไป โดยมีรูปแบบแตกต่างกันไปในแต่ละท้องถิ่น สถูปเจดีย์สำคัญของบ้านเมืองต่างๆ ล้วนได้รับการอธิบายว่าเป็นสถานที่บรรจุพระบรมธาตุ ฉะนั้นบางครั้งจึงนิยมเรียกสถูปเจดีย์เหล่านั้นว่า พระธาตุ ซึ่งหมายถึง พระบรมธาตุที่บรรจุอยู่ภายในสถูปเจดีย์นั่นเอง ดังนั้นการไหว้สถูปเจดีย์ ไม่ว่าจะมีรูปทรงงดงามแปลกพิสดารเพียงใดก็ตาม แต่หัวใจของการไหว้ที่แท้จริงแล้วก็คือ การกราบพระบรมสารีริกธาตุ ของพระพุทธเจ้าที่บรรจุอยู่ภายในสิ่งก่อสร้างเหล่านั้น ดังนั้น การสักการะจึงควรกระทำด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์ ปราศจากกิเลศตัณหา และที่สำคัญ ต้องระลึกเสมอว่า พระบรมธาตุไม่ใช่ผู้บันดาลสิ่งต่างๆ จึงไม่ควรขอสิ่งใดนอกจากสวัสดิ์มงคล
เจ้าอาวาสวัดพระธาตุแช่แห้งเล่าว่า จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า ในปี พ.ศ.1896 สมัยพญาการเมือง เจ้าเมืองวรนคร ได้ส่งช่างไปร่วมสร้างวัดหลวงที่สุโขทัย พระยาลือไทยจึงมอบถวายพระธาตุ 7 พระองค์ และพระพิมพ์คำ พระพิมพ์เงินอย่างละ 20 องค์ ให้แก่พญาการเมืองเป็นการตอบแทน พญาการเมืองรู้สึกปีติยินดียิ่ง ได้อัญเชิญพระบรมสารีริธาตุไปบรรจุไว้ ณ ดอยภูเพียงแช่แห้ง ก่อเป็นพระเจดีย์ “พระธาตุแช่แห้ง” ที่อยู่คู่เมืองน่านมาจนทุกวันนี้ ตั้งอยู่บ้านหนองเต่า ต.ม่วงตึ๊ด อ.ภูเพียง จ.น่าน
สำหรับจุดเด่นของพระบรมธาตุแช่แห้งถือเป็นศิลปะการก่อสร้างที่มีความวิจิตรงดงามอีกแห่งหนึ่งของภาคเหนือ รูปแบบขององค์พระเจดีย์นั้นเป็นแบบล้านนา ยังคงได้รับอิทธิพลจากเจดีย์พระธาตุหริภุญชัย เพียงแต่มีการต่อเติมแก้ไขลวดลายบางส่วนจากอิทธิพลศิลปะพม่า เช่น ฐานหน้ากระดานกลม แก้เป็นหน้ากระดานสี่เหลี่ยม และแปดเหลี่ยม และชั้นบัวคว่ำเหนือฐานแปดเหลี่ยมตกแต่งเป็นลายกลีบบัวแทน ฐานขององค์พระธาตุแช่แห้งเป็นฐานสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปจนสูง ใช้แผ่นทองเหลืองบุรอบฐาน แล้วลงรักปิดทอง ตัวพระธาตุนั้นตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนินกว้างประมาณ 20 วา มีบันไดขนาบทั้งสองข้าง
ภายในวัดพระธาตุแช่แห้งประกอบไปด้วยจุดที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์และความศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเมืองน่านเลื่อมใสกันมาอย่างช้านานอยู่ด้วยกันหลายจุด ซึ่งไม่ค่อยมีใครทราบว่าต้องไปไหว้จุดไหนก่อนหรือหลัง ส่วนใหญ่แล้วจะเข้าใจว่าต้องเข้าไปไหว้องค์พระธาตุก่อนเป็นอันดับแรก แต่ความจริงแล้วการไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิในวัดต่างๆ ล้วนมีลำดับและวิธีการไหว้ที่มีหลักการและเหตุผลอยู่ โดยมีลำดับในการไหว้ดังนี้
จุดแรก พญานาค ทางขึ้นของพระบรมธาตุแช่แห้งนี้ จะมีพญานาค 2 ตนขนาบคู่ทางขึ้นอยู่ นามว่า ท้าวศรสุนโธ และแม่ศรีปทุมมา นอกจากศิลปะการปั้นและทิวทัศน์ที่สวยงามแล้ว ยังมีความเชื่อกันว่า พญานาคสองตนนี้ เปรียบเสมือนเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่คอยปกปักรักษาพระธาตุแช่แห้งไว้ให้ลูกหลานชาวเมืองน่านได้เข้ามาขอพรสักการะ ดังนั้นก่อนเข้าชมวัดพระธาตุ ควรกราบขอขมาองค์พญานาคทั้งสองฝั่งเพื่อแสดงถึงการขออนุญาตเข้าไปรับบุญกุศลภายในสถานที่ เพื่อที่จะรับบุญกุศลอย่างเต็มเปี่ยม
จุดที่สอง องค์พระธาตุแช่แห้ง องค์พระธาตุแช่แห้งเป็นพระธาตุที่มีขนาดสูงถึง 55.5 เมตร ตั้งอยู่บนฐาน สี่เหลี่ยมจัตุรัส กว้างด้านละ 22.5 เมตร มีสีเหลืองอร่าม เนื่องจากบุด้วยแผ่นทองเหลือง ลักษณะของเจดีย์ทรง ระฆัง ส่วนฐานทำเป็นฐานหน้ากระดานสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ รองรับฐานบัวลูกแก้ว ย่อเก็จ ถัดขึ้นไปเป็นฐานหน้า กระดานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยมซ้อนลดหลั่นกัน 3 ชั้นองค์ระฆังมีขนาดเล็กบัลลังก์ทำเป็นแท่นสี่เหลี่ยม ย่อเก็จ ฐานหน้ากระดานกลมเป็นกระดานสี่เหลี่ยมและแปดเหลี่ยม และชั้นบัวคว่ำเหนือฐานแปดเหลี่ยม ตกแต่งคล้ายกลีบบัว หรือลายใบไม้แทนลายดังกล่าวนี้คงได้รับอิทธิพลจากศิลปะพม่า ซึ่งนำมาต่อเติมขึ้นภายหลัง เมื่อล่วงเข้า พุทธศตวรรษที่ 24 แล้ว
จุดที่สาม วิหารพระเจ้าทันใจ ไม่ปรากฏหลักฐานในการสร้าง แต่ที่มีบันทึกในพงศาวดารไว้ในสมัยพญาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม ในปี พ.ศ.2103 บูรณะในสมัยพระเจ้าอัตถวรปัญโญ พ.ศ.2336 และในสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดช พ.ศ.2448 โดยองค์พระเจ้าทันใจนั้น เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ 3 องค์ ปางมารวิชัย 2 องค์ และปางสมาธิ 1 องค์ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระพุทธรูปที่สร้างขึ้นมาพร้อมๆ กับการสร้างองค์พระธาตุแช่แห้ง เมื่อครั้งที่พญาการเมืองย้ายเมืองจากเมืองปัวมาตั้งอยู่เวียงภูเพียงแช่ ซึ่งเชื่อกันว่าเมื่อขอพรจากพระเจ้าทันใจแล้ว จะสมหวังรวดเร็วทันใจ
จุดที่สี่ พระวิหารพระเจ้าอุ่นเมือง หรือเรียกว่าพระวิหารหลวง ตั้งอยู่ทางด้านทิศใต้ของเจดีย์องค์พระธาตุ ตรงเชิงบันไดด้านหน้าทางเข้าพระวิหารมีสิงห์คู่นั่งชันขาอยู่สองข้างทางเข้าเฝ้าอยู่หน้าประตู ตัวด้านฝั่งซ้ายเรียกว่า สิงห์สรวล ฝั่งขวาเรียกว่า สิงห์คายนาง เป็นปฏิมากรรมปั้นปูนแบบพม่าที่ดูสวยงามและแลดูมีชีวิตชีวาน่าเกรงข่ามอย่างยิ่ง
จุดที่ห้า วิหารพุทธไสยาสน์ เมื่อเดินผ่านเส้นทางนาคขึ้นไป ทางด้านซ้ายมือก่อนถึงองค์พระธาตุนั้น จะมีวิหารพระพุทธไสยาสน์ (พระนอน) ที่ภายในประดิษฐานพระนอนองค์สีทองอร่าม ยาว 14 เมตร สูง 2 เมตร และยังมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยเก่าแก่ สร้างในปี พ.ศ.2129 ในสมัยพระยาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม ให้พุทธศาสนิกชนสักการบูชาอีกด้วย นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดพระธาตุแช่แห้ง ที่ผู้คนนิยมกราบไหว้บูชา
จุดที่หก พระมหาเจดีย์ชเวดากองจำลอง เจดีย์สีขาวองค์ใหญ่ ตั้งสง่าอยู่นอกระเบียงที่ล้อมองค์พระธาตุแช่แห้ง ซึ่งทางวัดจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เกิดในปีมะเมียได้สักการะ เพราะเจดีย์ชเวดากองในประเทศพม่านั้น เป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะเมีย แม้ว่า พระธาตุแช่แห้งเป็นพระธาตุประจำปีเถาะ แต่เป็นวัดสำคัญประจำจังหวัดน่าน ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาสักการะมากมายแม้ว่าจะไม่ได้เกิดปีเถาะก็ตาม ทางวัดจึงจัดสร้างขึ้นเพื่อให้ผู้ที่เกิดปีมะเมีย ได้มากราบสักการบูชาเสริมความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต
จุดที่เจ็ด พระอุโบสถมหาอุตม์ ที่มีอายุมากกว่า 400 กว่าปี พระอุโบสถประดับด้วยลายหม้อดอกปูรณะฆฏะ สันนิษฐานว่า สร้างในสมัยพระยาหน่อคำเสถียรไชยสงคราม ในปีกดสันจุลศักราช 922 ภายในมีพระมหาอุตม์ประดิษฐานอยู่ภายใน มีลักษณะเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เอกลักษณ์ศิลปะเมืองน่าน พระอุโบสถมหาอุตม์นี้ มักใช้ประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ปลุกเสกวัตถุมงคล และ ประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ได้แก่พิธี บวชพระ พิธีมหาพุทธาภิเษก และเจริญพระพุทธมนต์ พิธีมงคลที่สำคัญเท่านั้น โดยตามความเชื่อและวัฒนธรรมประเพณีล้านนาแล้ว พระอุโบสถหลังนี้จะห้ามสตรีเข้าโดยเด็ดขาด ปัจจุบันเปิดให้ผู้ชายเข้าไปกราบนมัสการได้ เชื่อกันว่าพระมหาอุตม์จะประทานความอุดมสุข อุดมทรัพย์ อุดมโชค ต่อผู้สักการะ
จุดที่แปด ลานพระประจำวันเกิด อยู่บริเวณพื้นที่สำหรับการทำบุญ มีบริจาคกระเบื้องที่ดิน บูชาดอกไม้ธูปเทียน ฯ ลฯ มีต้นโพธิ์สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาไปทั่ว ด้านโคนต้นเป็นที่ประดิษฐานพระประจำวันเกิดให้เราได้ทำบุญเสริมชะตากันไป โดยพระประจำวันเกิดนี้ เป็นปางพระพุทธรูปที่แตกต่างกันไปในแต่ละวันเกิด
จุดที่เก้า คือ ลานลูกนิมิต การทำบุญปิดทองลูกนิมิต เป็นอีกหนึ่งสิ่งเชื่อกันว่าจะช่วยเสริมสิริมงคล สร้างบุญบารมีแก่ชีวิต ซึ่งภายในวัดพระธาตุแช่แห้งนี้ ก็มีลูกนิมิตทั้งเก้าลูก ตั้งอยู่บริเวณลานทำบุญ และ ลานพระประจำวันเกิด เพื่อให้พุทธศาสนิกชนที่เข้ามาเยี่ยมชมกราบสักการบูชาองค์พระธาตุ ได้มีโอกาสทำบุญปิดทองลูกนิมิตรับบุญกุศลให้ทั่วถึงกัน โดยลูกนิมิตทั้งเก้าลูกนี้ มีความศักดิ์และความหมายที่แตกต่างกันไป
นอกจากวัดพระธาตุแช่แห้งจะเป็นจุดสักการะขอพรจากผู้ที่เกิดปีเถาะแล้ว ทางวัดยังได้จัดทำ “เหรียญดวงดีรับปีชง” เพื่อให้ผู้ที่เกิดปีเถาะและพุทธศาสนิกชนทั่วไปได้เช่าบูชาไว้ติดตัวเพื่อสะเดาะเคราะห์ หลีกเคราะห์ และรับโชค โดยเหรียญหนึ่งชุดจะมี 3 แบบด้วยกันคือ เหรียญเนื้อเงิน เนื้อทองเหลือง และเนื้อทองแดง สำหรับใครที่สนใจอยากบูชาไว้ติดตัวก็สามารถติดต่อสอบถามได้ที่วัดพระธาตุแช่แห้ง โทร.054-751-846 หรือ https://www.facebook.com/watphrathatchaehaeng
ส่วนคนที่เกิดในปีอื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นปีชงหรือปีชงร่วมก็สามารถมาเที่ยวพระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่านได้ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ชีวิต และถือเป็นการเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ เพราะนอกจากจังหวัดน่านจะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และพุทธสถานแล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามอีกมากมาย เช่น ดอยเสมอดาว ที่เรียกว่าเป็นสถานที่สุดโรแมนติกของน่าน หรือ จะไปเที่ยวบ่อเกลือ ก่อนเดินทางกลับแวะเที่ยวโบราณสถานอื่นๆ ในเมืองน่านได้อีก เช่น พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ วัดหัวข่วง หรือ วัดภูมินทร์ ซึ่งก็มีความสวยงามของศิลปะและสถาปัตยกรรมของล้านนา-ล้านช้างที่น่าสนใจเช่นกัน
ติดตามข่าวด่วน กระแสข่าวบน Facebook คลิกที่นี่
หน้าแรก » คอลัมน์
คอลัมน์ล่าสุด ![]()
“บ้านเมืองพระเครื่อง” โดย อ.เจษ เมืองนนท์
บ้านเมืองพระเครื่อง- “ISPAH 2016 Congress” สร้างเสริมกิจกรรมทางกายเพื่อทุกคน 09:53 น.
- บ้านเมืองพระเครื่อง วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2559 09:42 น.
- จัดแสดง วันเดอร์ฟรุ๊ต ไลฟ์สไตล์ ดนตรี และศิลปะ 07:12 น.
- แวะชิม...ก๋วยเตี๋ยวเนื้อนครพนม-ไข่กระทะ-ขนมปังเวียดนาม 08:12 น.