รู้จักพลิกแพลงในการเรียน นำไปสู่การประยุกต์ที่ใช้ได้จริงของฮวงจุ้ย ตอนที่ 29

 

• เทียนซินสือเต้า（天心十道）

 

เทียนซิน หมายถึง ใจกลางของลานบ้านบ้านหยินหยาง เทียนซินสือเต้าคือ การที่ซินแสฮวงจุ้ยต้องการกำหนดทิศทางแล้วใช้ภูเขาด้านหน้า ขวา ซ้าย หลังที่สมดุล เชื่อมกันเป็นพื้นฐาน แล้ววาดสัญลักษณ์บวกออกมาที่ใจกลางลานบ้าน เรียกว่าสือเต้า

 

 นอกจากนี้แล้วยังมีสี่ตำแหน่ง ที่หมายถึงภูเขาด้านหน้า ขวา ซ้าย หลังของบ้าน จะต้องสมดุลกันจึงจะดีที่สุด ไม่ควรโอนเอนไปฝั่งใดฝั่งหนึ่ง หากสมดุลกันและโอบล้อมเข้ามาหาสุสาน ซินแสฮวงจุ้ยคิดว่านี่เป็นลักษณะที่ดีมาก

 

ในบ้านหยาง วาดสัญลักษณ์บวกไว้ที่ตรงกลางของเพดานบ้านแบบเปิดจะทำให้สี่ตำแหน่งที่ว่าก็คือกำแพงบ้านทั้งสี่ด้าน จากนั้นวาดสัญลักษณ์บวกไว้ที่ลานบ้านภายในหรือสองประตูภายในประตูใหญ่หรือบริเวณตรงกลางของห้องที่สูงที่สุด จากนั้นใช้เข็มทิศกำหนดเทียนซิน เมื่อนำมากำหนด 24 ภูเขาอีกครั้ง โดยกำหนดบ้านสี่ตะวันออก ตะวันตก ดูความสัมพันธ์ของประตู เจ้าบ้าน เตา เพื่อกำหนดความดีร้าย

 

 

• ซานกังอู่ฉาง（三纲五常）

 

ซินแสฮวงจุ้ยใช้หลักคุณธรรมสมัยโบราณมาสรุปรูปร่างลักษณะของฮวงจุ้ยด้วยเช่นกัน โดยซานกังหมายถึงเทือกเขาพลังชี่ ลานบ้าน ปากน้ำ ส่วนอู่ฉางหมายถึงมังกร สุสาน ซา ทิศทางและน้ำ

 

ในตำราห้าเคล็ดลับภูมิศาสตร์ได้กล่าวไว้ว่าซานกังหมายถึงเทือกเขาพลังชี่ ลานบ้าน ปากน้ำ ส่วนอู่ฉางหมายถึงมังกร สุสาน ซา ทิศทางและน้ำ โดยล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่สำคัญ และจะต้องมีความสมดุลซึ่งกันและกันจึงจะสามารถก่อกำเนิดความมงคลรุ่งโรจน์ในชีวิตขึ้นมาได้

 

• พลังชี่

ในสมัยโบราณ คิดว่าพลังชี่นั้นเป็นสิ่งที่มองไม่เห็นที่สำคัญมาก โดยถูกคิดว่าเป็นสิ่งที่ก่อกำเนิดโลกและส่งผลกระทบต่อสรรพสิ่งอย่างต่อเนื่องและสูง นอกจากนี้ยังคิดว่าพลังชี่มีอยู่ทั่วไปทุกที่ พลังชี่ก็กำเนิดเป็นสรรพสิ่ง และมีการหมุนเวียน เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในตำราเล่าจื้อได้กล่าวไว้ว่า สรรพสิ่งต่างก็มีหยินโอบกอดหยาง มีพลังชี่เป็นความสมดุล ส่วนตำราเจิ้งเหมิง（正蒙）กล่าวไว้ว่า “ไท่จี๋（太极）ไร้ลักษณะ รูปร่างของพลังชี่ รวมตัว แตกซ่าน เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา”

 

ในวิชาฮวงจุ้ย พลังชี่เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะมีทั้งพลังชี่เป็น พลังชี่ตาย พลังชี่หยาง พลังชี่หยิน พลังชี่ดิน พลังชี่พื้น การใช้พลงัชี่ พลังชี่รวม พลังชี่รับ เทือกเขาพลังชี่ มารดาพลังชี่ ฯลฯ

 

พลังชี่เป็นจุดกำเนิดของสรรพสิ่ง ตัดสินความดีร้ายของคน คนเราจะต้องเลี่ยงจากพลังชี่ตาย จะต้องใช้พลังชี่ชีวิต โดยสามารถทำได้โดยเชิญซินแสฮวงจุ้ยหลี่ชี่（理气）ที่มีความซับซ้อนมาก เพราะจะต้องรวมเอาหยินหยาง 5 ธาตุ พิจารณาดูความุร่งเรืองจึงจะได้รับพลังชี่ที่มีชีวิตแล้วทำให้เกิดความมงคล ร่มเย็นเป็นสุข ดังนั้น วิชาฮวงจุ้ยจึงเรียกอีกได้ว่าเป็นวิชาการดูพลังชี่

 

วิชาฮวงจุ้ยคิดว่า พลังชี่เป็นบ่อกำเนิดของสรรพสิ่ง คิดว่าโลกกำเนิดจากการไม่มี (ไม่มีพลังชี่) จนกระทั่งมี (การเริ่มต้นของพลังชี่) พลังชี่เป็นพื้นฐาน (1) แบ่งออกเป็นหยินหยาง (สองลักษณ์) จากนั้นแบ่งเป็นทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน (5 ธาตุ) ซึ่งการรุ่งเรือง กำเนิดและแตกดับของสิ่งเหล่านี้นั้นล้วนแล้วแต่เป็นกฎเกณฑ์ที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ อีกทั้งมีความดีร้ายไปพร้อมกัน โดยสามารถทราบล่วงหน้าได้

 

นักฮวงจุ้ยได้สรุปพลังชี่เอาไว้ว่า เป็นพลังชี่ของ 1 การโคจรที่มีอยู่ทั้งบนฟ้าและในดิน และทั้งดินและฟ้าก็จะขาดพลังชี่นี้ไม่ได้ ขณะเดียวกัน พลังชี่ก็ซ่อนอยู่ในดิน คนเรามองไม่เห็น จะต้องสังเกตุ พิจารณาจากพื้นดินจึงจะทราบได้ นอกจากนี้แล้ว หากในการฝังศพใช้พื้นที่ๆมีพลังชี่ก็จะทำให้ลูกหลานเป็นสุข ไม่ว่าจะเป็นบ้านหยินหรือหยาง ต่างก็ต้องระวังเรื่องการใช้พลังชีวิต เลี่ยงจากพลังชี่ตาย

 

• มังกร

 

สิ่งที่คนโบราณคิดค้นออกมาเป็นสิ่งแรกของฮวงจุ้ยนั้น ประกอบไปด้วย 5 อย่างคือมังกร ซา สุสาน น้ำและทิศทาง ซึ่งก็คือการค้นหามังกร พิจารณาซา ดูน้ำ กำหนดสุสานและตั้งทิศทาง

 

แต่อะไรคือมังกร มังกรก็คือชีพจรของภูเขา ดินคือเนื้อมังกร หินคือกระดูกมังกร ต้นไม้ใบหญ้าคือขนและผมของมังกร ในการค้นหามังกรนั้น อันดับแรกจะต้องค้นหาภูเขาบรรพบุรุษก่อน แล้วดูว่ามีพลังชีวิตหรือไม่ จากนั้นค่อยแบ่งหยินหยาง

 

ที่เรียกว่าภูเขาบรรพบุรุษนั้นหมายถึงสถานที่กำเนิดของภูเขา บริเวณที่กลุ่มภูเขากำเนิดขึ้น ส่วนภูเขาพ่อแม่ก็คือจุดที่ภูเขาวกกลับมา แล้วการดูพลังชี่นั้นก็คือการดูเทือกเขาว่ามีลักษณะคดเคี้ยวสอดคล้องกันหรือไม่ ซึ่งสันเขานั้นจะแบ่งออกเป็นแบบปิดและเปิด หากมีลักษณะคดเคี้ยวจะถือว่ามงคล มิเช่นนั้นจะร้าย

 

นอกจากนี้การค้นหามังกรยังแบ่งเป็น 9 ลักษณะ โดยจะมีมังกรกลับ มังกรออกจากน้ำ มังกรลด มังกรกำเนิด มังกรยักษ์ มังกรเข็ม มังกรบิน มังกรหัวกลุ่ม มังกรมา ซึ่งไม่ว่าจะเป็นมังกรแบบใด ถ้าหากทอดตัวอย่างมีชีวิตก็จะถือว่ามงคล

 

นอกจากนี้ยังมีการใช้ทฤษฎี 5 ดาว 9 ดาวมาตัดสินลักษณะภูเขาด้วย ซึ่ง 5 ดาวก็คือธาตุทอง ไม้ น้ำ ไฟและดิน ส่วน 9 ดาวคือหมาป่าโลภ ประตูใหญ่ ลู่ฉุน（禄存）เหวินฉวี่（文曲）เหลียนเจิน（廉贞）อู่ฉวี่（武曲）พั่วจวิน（破军）จั่วฝู่（左辅）โย่วปี้（右弼）

 

• เทือกเขามังกร

 

เป็นการพูดถึงเส้นเลือด เพราะเส้นเลือดก็คือสิ่งหล่อเลี้ยงสรรพสิ่ง ดังนั้นพวกภูเขาจึงถูกมองว่าเป็นเทือกเขาเส้นเลือดมังกรที่กำเนิดสิ่งมีชีวิต ซึ่งคนในสมัยอดีตได้นำสิ่งเหล่านี้มาอธิบายไว้รวมกัน

 

ลักษณะทอดตัวขึ้นลง ทอดตัวยาวเหมือนมังกรมีชีวิตของเทือกเขาทำให้เทือกเขาถูกเปรียบเปรยว่าเป็นมังกร และเพราะในประเทศจีนนั้นมีภูเขาอยู่ถึง 2 ใน 3 ของประเทศ จึงทำให้ทั้งประเทศมีแต่มังกรเต็มไปหมด

 

• น้ำ

น้ำถูกเรียกว่าเป็นพลังชี่นอก นักฮวงจุ้ยคิดว่า น้ำคือมารดาของพลังชี่ พลังชี่เทือกเขาจะอาศัยน้ำในการขนส่ง ส่วนน้ำจะสิ้นสุดเมื่อมีการขีดขวาง ในการค้นหามังกรกำหนดสุสานจึงต้องดูว่ามีน้ำไหลหรือไม่ อีกทั้งดูขนาด ทิศทาง ลักษณะ ฯลฯ มาตัดสินความดีร้าย

 

อะไรคือน้ำ น้ำก็คือสายน้ำที่ไหลตามลำธารพร้อมกับการทอดตัวของเทือกเขา เพราะน้ำจะไหลไปตามภูเขา ภูเขาจะหยุดได้เมื่อพบน้ำ สิ่งที่สำคัญที่สุดในการดูน้ำก็คือปากน้ำ เพราะเป็นบริเวณที่มีน้ำไหลเข้าออก โดยบริเวณที่น้ำไหลเข้านั้นจะต้องเปิด บริเวณที่น้ำไหลออกจะต้องปิด ต่อไปก็คือการดูลักษณะของน้ำ โดยจะต้องเหลี่ยม กลม ตรง จะต้องลึก ไหลอย่างช้าๆ จึงจะมงคล หากไหลเร็ว เชี่ยว จะถือว่าร้าย

 

• ปากน้ำ

 

ปากน้ำเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการดูน้ำ ที่เรียกว่า ปากน้ำ นั้นหมายถึง จุดที่น้ำไหลเข้าออกของบริเวณๆหนึ่ง ปกติแล้วจะหมายถึงปากน้ำออก ซึ่งมีชื่อเรียกอีกชื่อว่าประตูสวรรค์ซึ่งจะต้องเป็นการไหลเข้าของน้ำจึงจะเป็นประตูเปิด หากว่าน้ำไหลออกจะเรียกว่า ตี้หู้（地户）ซึ่งถ้าหากไม่พบน้ำไปจะเรียกว่าตี้หู้ปิด นอกจากนี้ แหล่งน้ำจะต้องโอบกอดอย่างมีอารมณ์ความรู้สึก ไม่ควรไหลตรง และปากน้ำไปก็ควรจะปิดสนิท ไม่ควรไหลตรงและไม่มีการรับ ส่วนภูเขาทั้งสองฝั่งของบริเวณที่น้ำไหลไปจะเรียกว่า ซาปากน้ำ ซึ่งหากปากน้ำไม่มีซา น้ำก็จะไหลออกอย่างเร็ว แต่หากมีซาก็จะต้องสูง โอบกอด ตั้งตรงตระหง่าน เหมือนกับขลุ่ย ธงหรือเหมือนกับทหารแข็งแกร่งที่ยืนเฝ้ายามอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากเป็นซาที่มีอยู่หนาทึบ ยาวไหลมาหลายสิบลี้อย่างเป็นระเบียบก็จะถือว่าเป็นลักษณะที่มีศักดิ์มาก

 

ทำไมถึงกล่าวว่าซาปากน้ำแบบนี้ดี นั่นเป็นเพราะการเปรียบเปรยภูเขากับความสัมพันธ์ของคน หากภูเขาแม่น้ำสามารถทอดตัว ไหลวกกลับมาได้เหมือนคนที่เดินไปแล้วหันกลับมาอย่างมีเยื่อใยก็จะถือว่าดี หากมีภูเขาแม่น้ำที่หนาทึบ ยาวไกลเป็นชั้นๆ ก็จะยิ่งดี ในการดำรงชีวิตจะต้องดูที่ว่าหากรอบข้างมีน้ำยิ่งมากก็จะยิ่งมีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ ดังนั้น ซินแสฮวงจุ้ยจึงกล่าวว่า น้ำคือเงิน ประตูเปิดเงินมา ประตูปิดเงินไม่มา

 

ขอบเขตของปากน้ำนั้นมีทั้งเล็กและใหญ่ ตั้งแต่น้ำเข้าจนถึงน้ำออก บริเวณที่มีน้ำไหลผ่านก็คือขอบเขตของปากน้ำซึ่งจะสอดคล้องกับความร่ำรวยในอัตราที่เท่าๆ กัน ยิ่งปากน้ำโอบกอดพื้นที่ๆ ยิ่งกว้างก็ยิ่งรับพื้นที่ได้มาก เช่นนี้แล้วก็จะยิ่งสร้างความสุขได้กว้าง แต่หลักการของปากน้ำนั้นจะตรงกันข้าม เพราะในปากน้ำใหญ่มีปากน้ำเล็ก พื้นที่ปากน้ำเล็กมากมายกลายเป็นปากน้ำใหญ่  ซึ่งไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้าน เมือง มณฑล ต่างก็มีปากน้ำทั้งสิ้น

 

• สุสานและการกำหนดสุสาน

 

สุสานแบ่งเป็นหยินหยาง สุสานหยางหมายถึงสถานที่ๆคนอาศัยอยู่ ส่วนสุสานหยินหมายถึงสุสานคนตาย

 

เดิมทีความหมายของสุสานคือห้องกิน ที่มีอยู่หลากหลายลักษณะ และในเมื่อสุสานหยินหยางเป็นที่อยู่ของคนเป็นและคนตายแล้ว จึงทำให้การกำหนดสุสานเป็นการกำหนดสถานที่การก่อสร้างนั่นเอง

 

ซินแสฮวงจุ้ยคิดว่าสุสานนั้นเป็นการสร้างขึ้นของฟ้าดิน ซึ่งมีมังกรดำรงอยู่จึงจะกลายเป็นสุสานได้ แต่สุสานแบบไหนจึงจะดี อันดับแรกจะต้องเป็นมังกรแท้จริง จะต้องพิจารณาจากมังกร เป็นมังกรแท้จริงจึงจะกำเนิดสุสาน จากนั้นดูที่ลานบ้านเสือขาวมังกรเขียว ปากน้ำจะต้องดูมีพลัง หากทั้งภูเขา น้ำหันหน้ามาก็จะเป็นของแท้ หากหันหลังจะเป็นของปลอม สิ่งที่ขาดไม่ได้อีกอย่างคือจะต้องซ่อนลม มิเช่นนั้นแล้วถึงแม้ว่าจะเป็นสุสานแท้จริงแต่พลังชี่แตกซ่านก็ไม่ก่อให้เกิดผลดี

 

ซินแสฮวงจุ้ยคิดว่าการกำหนดสุสานเป็นเรื่องที่ยากมาก โดยกล่าวว่าค้นหามังกร 3 ปี ค้นหาสุสาน 10 ปี การกำหนดสุสานคือส่วนที่สำคัญที่สุดในวิชาการสำรวจพื้นดิน เมื่อดูทั้งเทือกเขามังกรและลานบ้านมาแล้วก็จะถึงเวลากำหนดสุสาน โดยการกำหนดสุสานนั้นจะต้องตรง แม่นยำ หากเอนเอียงเป็นเด็ดขาด

 

• ซา

 

ซาคือภูเขารอบสี่ด้าน ศาสตร์ฮวงจุ้ยคิดว่าภูเขาหนาบริวารมาก ภูเขาผอมบริวารน้อย ภูเขาสะอาดมี ลาภยศ ภูเขาชำรุดคนเสียใจ ภูเขากลับคนรวมกัน ภูเขาไปคนห่างไกล ภูเขายาวคนกล้าหาญ ภูเขาหดคนต่ำ ภูเขาสว่างคนก้าวหน้า ภูเขามืดคนหลงทาง ภูเขาคล้อยตามคนกตัญญู ภูเขาทวนคนชั่วร้าย ลักษณะของภูเขานั้นมีการเปลี่ยนแปลงไม่รู้จบ และการพิจารณานั้นก็จะแตกต่างไปตามตำแหน่งด้วย เช่นหากมองจากฝั่งซ้ายจะเหลี่ยม ฝั่งขวาจะกลมเป็นต้น

 

หากต้องการใช้การเปลี่ยนแปลงของลักษณะภูเขา สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการกำหนดสุสาน โดยจะต้องกำหนดให้ดีจึงจะทำให้ภูเขาไกล กลายเป็นใกล้ขึ้นมาได้ ภูเขาสูงกลายเป็นต่ำ ภูเขาร้ายเป็นสวยงาม ภูเขาไปกลายเป็นกลับ ภูเขาเอียงกลายเป็นตั้ง เป็นต้น

 

ลักษณะของซานั้นมีมากมายนับหมื่น รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันออกไป มีทั้งซาและน้ำเชื่อมกัน ซาปิดน้ำ น้ำปิดซา ซาโอบกอดสุสานเรียกว่า น้ำหยวนเฉิน（元辰）ซาเสือมังกรเรียกว่าน้ำในโอบกอด ซาอั้น（案）ใกล้เรียกว่าน้ำลานกลาง ซาหันนอกเรียกว่าน้ำมังกรนอก นอกจากนี้แล้วซาที่อยู่ด้านหน้าสองฝั่งของสุสานจะเรียกว่าซาคุ้มกัน ช่วยกันลม แต่หากเป็นซาที่โอบกอดมาตั้งแต่มังกรจะเรียกว่าซาคุ้มครอง ช่วยกันลมจากภายนอก เพิ่มพลังชี่ภายใน หากเป็นซาที่โอบกอดสุสานอยู่ด้านหน้าเรียกว่าซาต้อนรับ หากเป็นซาที่ยืนตระหง่านอยู่ด้านหน้าเรียกว่า ซาหัน หากน้ำมาจากฝั่งซ้าย ซาจะเลี้ยวขวา น้ำมาจากขวา ซาจะเลี้ยวซ้าย เป็นต้น

 

นอกจากนี้ ฮวงจุ้ยยังพิถีพิถันที่รูปแบบอันยิ่งใหญ่ หากรอบสี่ด้านของสุสานต่างก็มีซาที่มีลาภยศ ก็จะมงคล และถ้าซาเรียงเป็นชั้นๆ จากหน้าไปหลังอย่างมีระเบียบ หรือโอบล้อมเข้ามาหาสุสานก็จะถือว่าเป็นซาที่ดีทั้งสิ้น

 

 

• ทิศทาง

ทิศทางนั่งของบ้านหรือสุสาน เป็นสิ่งสำคัญในวิชาสำรวจพื้นดินเหมือนกับมังกร ซา สุสานและน้ำ โดยทิศทางนั่นจะต้องมีภูเขาอยู่ด้านหลัง มีน้ำอยู่ด้านหน้า นั่งทิศเหนือ หันไปทิศใต้ เลี่ยงความชั่วร้าย รับความมงคลจึงจะดี ในการกำหนดทิศทางนั้น นอกจากจะต้องพิจารณาที่สภาพภูมิประเทศแล้วยังจะต้องใช้เข็มทิศมาวัดด้วย โดยใช้ทิศทางนั่งของภูมิประเทศเป็นเงื่อนไขแรกของการตัดสิน

 

 

• ฉาว（朝）และอั้น（案）

ฉาวและอั้นต่างก็เป็นภูเขา ซึ่งหากอยู่ใกล้สุสานและเล็กจะเรียกว่าอั้น หากสูง ใหญ่จะเรียกว่า ฉาว

ทำไมซินแสฮวงจุ้ยจะต้องพิถีพิถันที่ฉาวและอั้นด้วย พวกเขาคิดว่าหากมีอั้นที่อยู่ในระยะใกล้ สุสานก็จะเก็บได้มิดชิด หากไม่มีลานบ้าน กว้างเกินไป พลังชี่ไม่รวมตัว ก็จะช่วยได้เมื่อมีฉาว

 

 

ติดตามข่าวสารเกี่ยวกับฮวงจุ้ยผ่านทางเฟซบุคได้ที่ เพจฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า

 https://www.facebook.com/pages/ฮวงจุ้ยอาจารย์หม่า และสามารถติดต่อสอบถามเกี่ยวกับการเรียนฮวงจุ้ยฟรี ได้ที่

  อาคารอาจารย์หม่า  โทร. 088-2774051-60