“แบงค์” ทาญาติคนดังเจ้าเมืองหาดใหญ่ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มองวงการพระอนาคตสดใส

ข่าวดี

---

 

 

“แบงค์” ทาญาติคนดังเจ้าเมืองหาดใหญ่

นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มองวงการพระอนาคตสดใส

          

 

 

♦♦♦ “เสี่ยแบงค์ หาดใหญ่” กิตติ เจนกำจรชัย  นักธุรกิจคนดังเมืองหาดใหญ่ เป็นเหลนผู้บุกเบิกและตั้งชื่อเมืองหาดใหญ่ บรรพบุรุษสะสมพระเครื่องไว้ไม่ใช่น้อยตกทอดเป็นมรดกไว้ให้มีทั้งพระหลวงพ่อทวดวัดช้างให้  หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลีที่พ่อมีศรัทธามากสมัยนั้น  และพระภิกษุนรรัตน์วัดเทพศิรินทร์ ตอนเสี่ยแบงค์ยังเป็นเด็กอายุ10 ขวบกว่ามีความชอบพระเครื่องชอบหยิบสร้อยคอพระของคุณพ่อมาแขวนเต็มคอ จึงมีความผูกพันกับพระเครื่องมายาวนานกระทั่งโตขึ้นมีความสนใจพระเครื่องมากขึ้นมองว่าพระเครื่องน่าจะมีราคาขายได้จึงลองซื้อพระหลวงพ่อคล้ายวัดสวนขันจำได้ว่าเป็นเหรียญกงจักรซื้อจากเพื่อนในชั้นเรียนเดียวกันแค่ 100 บาท ขายคนข้างบ้านไป 500 บาท ดีใจมากเลยครับ พอเป็นวัยรุ่นขึ้นมาอีกนิดจำได้ในราวปี พ.ศ. 2542 – 43 เสี่ยแบงค์ สนใจธุรกิจพระเครื่องเริ่มมีการแลกเปลี่ยนซื้อขายในยามว่างหาความรู้ศึกษาทั้งพระบูชา พระเครื่องอย่างจริงจัง ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในครอบครัวไปกันได้อย่างมีความสุข

 

 

           

♦♦♦ เสี่ยแบงค์ มีโอกาสเข้ากรุงเทพฯคราวใดเป็นต้องแวะเดินสนามพระท่าพระจันทร์ และได้พบปะพูดคุยทำความรู้จักกับเซียนดังสายใต้เช่น เสี่ยฉ่อย ท่าพระจันทร์ คนมีชื่อเสียงสะสมพระหลวงพ่อทวดไว้มากคนหนึ่งในยุคนั้น ได้ความรู้ได้ความสุข ในที่สุดได้มีโอกาสไปสนามพระพันธุ์ทิพย์ พบกับเฮียเม้ง หาดใหญ่ ซึ่งรู้จักกันมานานแล้วได้แนะนำให้รู้จักกับผู้ใหญ่ของวงการ  คุณพยัพ คำพันธุ์ อาจารย์ต้อย เมืองนนท์ ตี๋ ยางตันและ เที่ยม  ปัตตานี และอีกหลายๆคน จึงมีโอกาสได้สอบถามความรู้พระเครื่องที่สากลนิยมทั้งเนื้อดิน เนื้อชิน เนื้อผงเหรียญพระคณาจารย์ยอดนิยม พระเบญจภาคี  หลังจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีกำไรจึงได้ซื้อพระเครื่องที่ชื่นชอบโดยเฉพาะพระเบญจภาคีจากรังเก่าเก็บเข้าบ้าน แม้ปัจจุบันเศรษฐกิจดูซบเซาแต่เสี่ยแบงค์ หาดใหญ่ก็ยังซื้อหากถูกใจ

           

 

♦♦♦ “หลายท่านมองว่าปัจจุบันวงการพระเครื่องเงียบลงแต่เสี่ยแบงค์กลับมองว่ามีมนต์เสน่ห์มีมนต์ขลังในตัว” แต่ด้วยสภาพเศรษฐกิจและคนบางกลุ่มเห็นแก่ตัวมากเกินไปทำให้นักสะสมพระเครื่องขาดความเชื่อมั่นศรัทธาไปบ้าง นักสะสมพระเครื่องบางคนหันมาเป็นคู่ค้ามากกว่าคู่แข่ง  เสี่ยแบงค์จึงเชื่อว่าวงการพระเครื่องจะมีอนาคตกลับมาสดใสดังเดิม เพราะวงการพระเครื่องในยุคปัจจุบันนี้มีคนรุ่นใหม่เกิดมากมายต่างกับคนยุคเก่า พระแท้เมื่อ 20 ปีก่อนปัจจุบันกลายเป็นพระปลอมก็มีแล้ว จึงอยากให้นักสะสมพระรุ่นใหม่ศึกษาหาความรู้เรื่องพระเครื่องให้ละเอียดและแน่ชัดไม่ใช่พวกมากลากไป วงการพระเครื่องมีคำว่าพี่ว่าน้องต้องเคารพกัน ท้ายสุดเสี่ยแบงค์ยังฝากถึงเพื่อนพ้องน้องพี่ที่รักและศรัทธาในพระเครื่อง อย่าอิจฉาตาร้อนอย่ามองผลประโยชน์เป็นหลัก ให้มีคำว่ามิตรภาพ “การสะสมพระเครื่องเล่นหากันตามที่ชื่นชอบทางใครทางมัน สายใครสายเขาไม่ก้าวก่ายกัน” มันจะจบด้วยการเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกัน