ณ สัทธา อุทยานไทย แหล่งการเรียนรู้และอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย จ.ราชบุรี

 

 

 

“เพราะการเรียนรู้ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน...” แต่เราสามารถหาได้จากสิ่งรอบตัว วันนี้เราไปพบแหล่งการเรียนรู้แห่งใหม่ที่เหมาะมากกับการท่องเที่ยวยุค 4.0 ซึ่งอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่มากนักใช้เวลาการเดินทางเพียงไม่กี่ชั่วโมง และที่นี่ยังเป็นหนึ่งในเส้นทางการท่องเที่ยว 55 เมืองรอง ตามนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยในปีนี้อีกด้วย นั่นคือ ณ สัทธา อุทยานไทย สถานที่ท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ ในอำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี

 

 

บนพื้นที่กว่า 42 ไร่ โอบล้อมด้วยธรรมชาติทั้งต้นไม้น้อยใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น สงบ       ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรม ปลูกฝังรากเหง้าแห่งความเป็นไทยเพื่ออนุรักษ์และสืบสานศิลปะไทยที่งดงาม ตลอดจนศึกษาประวัติ คุณงามความดี ของบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ได้ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติบ้านเมือง        รวมถึงเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วเมืองไทยในรูปแบบหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาส ขนาดเสมือนจริงกว่า 60 รูป ผ่านเทคนิคจัดแสดงและวิธีการนำเสนอรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยมาประยุกต์เพื่อให้เกิดความน่าสนใจ และเกิดการจดจำที่สนุกสนานยิ่งกว่าเดิม ภายใต้แนวคิดของผู้ก่อตั้งที่ว่า “ความรู้นอกตำรา ความสงบสุขในอ้อมกอดของธรรมชาติ" พบกับความสุขเรียบง่าย และความรู้มีสีสัน ผ่านเทคโนโลยีทันสมัย และธรรมชาติอันร่มรื่น ที่ผสมผสานทุกองค์ประกอบอย่างลงตัว

 

 

เราเริ่มต้นการเดินทางเพื่อเรียนรู้ในครั้งนี้ ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันหยุดยาว อากาศดีมีฝนตกบาง ๆ ในช่วงเช้าทำให้การเดินทางไม่ร้อนจนเกินไป เหมาะแก่การเข้าไปสัมผัสประวัติศาสตร์อันน่าประทับใจด้านในอุทยานอย่างมาก และการเดินชมแบบปกติทาง ณ สัทธา ยังเปิดโอกาสการเรียนรู้แบบทันสมัยผ่านแอปพลิเคชั่น Nasatta ด้วยเช่นกัน พร้อมฟรี Wifi ที่สะดวกในการใช้งานในแต่ละจุด เพื่อใช้เล่าเรื่องด้วยเทคนิคพิเศษต่าง ๆ ทันสมัย ซึ่งแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายและแนะนำการใช้แอปพลิเคชั่นนี้ ซึ่งข้อดีคือเด็กรุ่นใหม่สามารถเข้าถึงและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยการจัดแสดงของ ณ สัทธา นั้นจะเล่าเรื่องผ่านวิดิโอไกด์ และเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ได้แก่ Animation , Interactive Game, AR และ Photo Frame ผ่านรูปแบบ การ์ตูนสั้น ภาพยนตร์สั้น วีดีโอคลิป และภาพจำลองเสมือนจริง ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งแรกในจังหวัดราชบุรี ที่ได้นำเทคนิคพิเศษต่าง ๆ บนแอปพลิเคชั่น รวมถึงเทคโนโลยีอื่น ๆ มาเพิ่มอรรถรสในการเรียนรู้

 

 

ด้านใน ณ สัทธา อุทยานไทย แบ่งออกเป็น 8 โซนหลัก ที่นักท่องเที่ยวได้มาเยือนแล้วต้องห้ามพลาด ได้แก่ โซนมหาราชกษัตรา เป็นจุดแรกที่เราได้เข้าไปชม ซึ่งจัดแสดงประติมากรรมพระรูปหล่อ 3 บูรพมหากษัตริย์ผู้กอบกู้เอกราชไทย ได้แก่ สมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5

 

 

ในโซนถัดไปที่เราได้เข้าไปดูคือ โซน ณ สัทธานุสรณ์ เป็นอาคารจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสของบุคคลสำคัญผู้เป็นต้นแบบ คนดีของแผ่นดินกว่า 14 ท่าน โดยแต่ละจุดได้บอกเล่าถึงคุณงามความดีสิ่งที่ท่านได้ทำให้กับประเทศชาติ ซึ่งบริเวณนี้เราได้นำสมาร์ทโฟนไปสแกน QR Code เพื่ออ่านรายละเอียด เช่น หุ่นของ      คุณสืบ นาคะเสถียร จะปรากฏภาพเสมือนจริงของโขลงช้างน้อยใหญ่ที่ออกมาเดินเล่นอยู่บนผืนป่า แสดงให้เห็นบนหน้าจอสมาร์ทโฟน เป็นต้น รวมถึงชั้น 2 ที่เปิดเป็นโซนใหม่ชื่อว่า ห้องศรีนครินทรานุสรณ์ โดยจัดแสดงพระรูปหุ่นขึ้ผึ้งในพระอิริยาบถ และพระจริยาวัตรต่าง ๆ ของสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พร้อมจำลองบ้านสมเด็จย่าในวัยเด็ก ที่วัดอนงคารามให้เราได้เห็นอีกด้วย

 

 

หลังจากพากันเดินออกจากอาคารแล้วก็จะเข้าสู่  โซน ณ สัทธาปฏิมา โซนนี้ทำเอาพวกเราถึงกับตะลึงในการจัดแสดงประติมากรรมพระพุทธรูป 3 สมัย ได้แก่ สมัยสุโขทัย เชียงแสน และอู่ทองอยุธยา โดยทุกองค์ที่จัดแสดงมีขนาดองค์พระ 6 ศอก 9 นิ้ว (129 นิ้ว) หล่อด้วยทองเหลืองรมดำ บนฐานพระขนาดเท่าของจริง ซึ่งมีความงดงามอันทรงคุณค่า  โซนนี้ยังมีอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดนั่นก็คือ วิหารสุโขทัย พวกเราตื่นตาตื่นใจและสนุกไปกับเทคนิค Mapping ที่บอกเล่าเรื่องราวการเดินทางของพระพุทธศาสนาสู่ประเทศไทยในสมัยอาณาจักรสุโขทัยทั้งแสง สี เสียง และแสดงภาพแอนิเมชั่น บนผนังโบสถ์และองค์พระพุทธรูป การเล่าเรื่องมีความกระชับ ดูเพลิน ทำให้เราเข้าใจได้ง่ายเลยทีเดียว

 

ถัดมาเป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่ต้องหยุดเข้าไปดูใน โซนถ้ำพุทธชาดก ซึ่งเป็นถ้ำจำลองที่นำเสนอเรื่องราวขององคุลีมาล มหาโจรผู้กลับใจที่หันเข้าสู่ธรรมะ โดยเรายอมรับเลยว่าอยากดูมาก ๆ เพียงแค่เจ้าหน้าที่เกริ่นนำเพียงไม่กี่ประโยค พวกเราก็เดินเข้าไปสแตนบายเรียบร้อยแล้ว ความน่าสนใจของโซนนี้ไม่ใช่แค่พุทธประวัติขององคุลีมาลเท่านั้น แต่ต้องยกให้กับเทคนิคพิเศษที่นำสื่อ Projector Mapping 270 องศา มาประกอบกับการถ่ายทอดเรื่องราวเพื่อให้สอดคล้องกับการเรียนรู้ที่ทันสมัย สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับพวกเราไม่น้อย

 

หลังออกมาจากถ้ำก็ผ่าน โซนอริยสัทธา กุฏิจำลองทั้ง 4 ภาคพร้อมจัดแสดงหุ่นขี้ผึ้งไฟเบอร์กลาสพระอริยสงฆ์ที่เป็นที่เลื่อมใสทั่วประเทศไทย ในแต่ละกุฏินั้นผู้ที่สนใจสามารถแวะขึ้นไปนั่งสมาธิได้ตามสบายด้วย

 

ถัดมาจะพบกับสิ่งปลูกสร้างที่เรียกว่า โซนสัทธาถิ่นเรือนไทย บ้านไทย 4 ภาค ในแต่ละหลังได้จำลองวิถีชีวิตความเป็นอยู่ตลอดจนวัฒนธรรมไทยในภาคต่าง ๆ ที่เสมือนจริง ซึ่งปัจจุบันหาบ้านไทยแบบนี้ได้น้อยมาก

 

หลังจากเดินมาตลอดเกือบ 2 ชั่วโมง พวกเราต้องแวะพักที่ โซนลานภิรมย์ เป็นลานกลางแจ้งที่จัดแสดงศิลปะและความงดงามของต้นบอนไซหลากหลายขนาด และ โซน ลานอวโลสัทธา ลานจัดแสดง พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลา จำลองจากศิลปะของราชวงศ์ซ้อง ประเทศจีน ขนาดความสูง 3.5 เมตร ที่ช่วยให้ผ่อนคลาย หายเหนื่อยด้วยความร่มรื่นของต้นไม้ ความสงบในพื้นที่แห่งนี้

 

นอกจากการเรียนรู้ที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยในแต่ละจุดแล้ว ที่นี่ยังมีจุดพักให้ได้นั่งพักผ่อนด้วยบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติตลอดเส้นทาง อาทิ บ้านสมุนไพร ที่จัดไว้ให้กับนักท่องเที่ยวได้แวะพักคลายร้อนด้วยน้ำสมุนไพรต่าง ๆ หลากหลายชนิดที่หอมหวานและเย็นชื่นใจ มุมน้ำตกจำลอง ชุ่มฉ่ำไปกับสายน้ำที่เย็นสบายแวดล้อมด้วยต้นไม้น้อยใหญ่นานาชนิด พร้อมจิบกาแฟ สูดโอโซน และ คลายร้อน ในบรรยากาศ อันสดชื่นอีกด้วย

 

ที่นี่เปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยว ทุกวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 9.00 – 16.30 น. และ วันเสาร์ – อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 8.30 – 17.00 น. ถึงแม้ว่า จ.ราชบุรี จะถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเมืองรอง ก่อนจะเข้าสู่กาญจนบุรี แต่การได้มาเยือน ณ สัทธา อุทยานไทย ในครั้งนี้เรียกว่า คุ้มค่าและประทับใจ เหนือความคาดหมายจริง ๆ

 

โทรศัพท์: 032 – 383 – 333 โทรสาร: 032 – 383 – 444 ที่อยู่ : 41/1 หมู่ที่ 3 ถนนเพชรเกษม - ดำเนินสะดวก ตำบลวังเย็น อำเภอบางแพ จังหวัดราชบุรี  70160

 

ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก เว็บไซต์ : www.nasatta.com / Twitter : @nasatta_thai /  Instagram : Nasatta_thai / Facebook : Nasatta.thai / Youtube Channel : NaSatta / Line@ : @nasatta