วันจันทร์ ที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2568 09:57 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

ไลฟ์สไตล์

บ้านเมือง : วันพุธ ที่ 07 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561, 10.03 น.

ตำราพิชัยสงคราม ฉบับ พระมหากษัตริย์ไทย เล่มเดียวในโลก !

โดย ว.วรรณพงษ์  

 

 

เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ กิตติศัพท์ของพระเจ้าตากสินผู้นำกองกำลังที่เก่งกล้าสามารถเป็นที่เลื่องลือ ด้วยกองกำลังพลเพียง ๕๐๐ คน ต่อสู้กับทหารพม่าที่มากกว่าหลายเท่า   กลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยพระปรีชาสามารถ ตั้งแต่วัดพิชัย  บ้านโพธิ์สาวหาญ บ้านพรานนก กรุงศรีอยุธยา ผ่านเมืองปราจีนบุรี เมืองฉะเชิงเทรา ตรงไปยังบ้านนาเกลือ แขวงบางละมุง ชลบุรี   กระทั่งถึงเมืองระยอง  พระองค์ได้รับชัยชนะกองกำลังทหารพม่ามาตลอดเส้นทาง แม้แต่พม่าก็ไม่กล้าติดตามพระองค์อีกต่อไป  

 

เจ้าเมืองระยองได้ยินกิตติศัพท์ก็ยอมมาสวามิภักดิ์  พระเจ้าตากสินขอบใจที่เจ้าเมืองระยองมีน้ำใจเห็นแก่ชาติเป็นใหญ่ พระองค์ได้พระราชทาน “ปืนคาบศิลา” กระบอกหนึ่งแก่เจ้าเมืองระยอง   แล้วยกกองทัพเข้าไปตั้งมั่นอยู่บริเวณชานเมืองระยอง จากนั้นพระองค์ได้สั่งให้จัดลำเลียงอาหาร  พร้อมกับเลือกชัยภูมิตั้งค่าย และขุดคูรอบค่ายเพื่อความปลอดภั

 

 

 

เมื่ออ่านถึง “การขุดคูรอบค่าย”  หลายท่านอาจสงสัยว่า  ทำไมพระเจ้าตากสินจึงต้องขุดคูรอบค่ายเพื่อความปลอดภัย เรื่องนี้มีที่มา ในตำราพิชัยสงครามซุนจู้กล่าวว่า “แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ล้วนเป็นผู้วางตนให้อยู่ในสถานะที่จักไม่แพ้  หลักดำเนินการทางทหารมีอยู่ว่า ประการแรกพึงสำรวจภูมิประเทศ”

 

และในตำราพิชัยสงครามซุนจู้ (หรือซุนวู) ยังกล่าวอีกว่า “การตั้งค่ายในสนามรบต้องเลือกชัยภูมิ  การออกแบบค่ายให้มีรูปลักษณะการวังผังเมือง ส่วนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วยกำแพงดินที่พูนสูงขึ้น และควรมีคูน้ำอยู่รอบค่าย” นี่คือเหตุผลว่า  ทำไมพระองค์เลือกชัยภูมิแล้ว ยังให้ทหารขุดคูรอบค่าย

 

********************

 

ฝ่ายกรมการเมืองระยองเมื่อทราบเรื่องราว ก็พากันไม่พอใจ  กล่าวใส่ร้ายป้ายสีพระเจ้าตากสินกับเจ้าเมืองระยองว่า พระองค์คงจะกระทำการเพื่อประโยชน์แก่ตนเองมากกว่ากระทำเพื่อชาติ พระเจ้าตากสินตั้งค่ายบริเวณชานเมืองระยองได้สองวัน ได้มี นายบุญรอด แขนอ่อน นายหมวด นายบุญมา  มากราบทูลพระองค์ว่า  “ขุนรางหมื่นซ่อง นายทองอยู่ นกเล็ก ขุนจ่า เมืองด้วง หลวงพลแสนหาญ กรมการเมืองระยอง คบคิดกันคุมพลทหารระยอง ประมาณพันห้าร้อยเศษ จะยกเข้ามากระทำประทุษร้ายพระองค์”

 

 

 

พระองค์ตระเตรียมกลยุทธ์และแผนการ  เพื่อตั้งรับการศึกครั้งนี้  ค่ำคืนนั้นพระองค์สั่งให้ทหารดับไฟในค่ายทั้งหมด  ห้ามให้ผู้ใดยิงปืนโต้ตอบออกไปก่อนที่พระองค์ให้สัญญาณ เมื่อศัตรูเข้ามาจวนตัว พระองค์จะเป็นผู้ให้สัญญาณยิงแต่เพียงผู้เดียว

 

ตกกลางคืนกองทหารฝ่ายเมืองระยองมาพร้อมอาวุธครบมือ  ค่ายพระเจ้าตากสินดับไฟเงียบกริบ  ทหารฝ่ายระยอง ๑,๕๐๐ คนเศษ คิดว่า คงตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ไม่กล้าออกมาสู้รบเป็นแน่  เส้นทางที่จะเข้าสู่ค่าย มีคูขุดกว้างใหญ่ขวางไว้อยู่  จึงเอา “ขอนไม้” ทำเป็นสะพานทอดข้าม ทหารฝ่ายระยองข้ามสะพานเข้ามาทุกด้าน หวังจะหักเอาค่ายด้วยใจฮึกเหิม วิ่งดาหน้ากันเข้ามาทุกทาง ทั้งโห่ร้องกึกก้องทั่วบริเวณ 

 

กระทั่งทหารฝ่ายระยองวิ่งเข้ามาใกล้ค่ายประมาณ ๕ วา พระเจ้าตากสินส่งสัญญาณสั่งให้ปล่อยปืนตับยิงกราดออกไปพร้อมกัน  ฝ่ายตรงข้ามถูกปืนยิงล้มกลิ้งลงคูขาดใจตายหลายคน พวกที่ตามมาข้างหลังก็ตกใจถอยกลับ  พระองค์เห็นได้ทีก็กระโจนออกนอกค่าย  เรียกทหารให้ตามออกไปไล่กวดยิง และแทงฟันฝ่ายตรงข้ามตายนับไม่ถ้วน 

 

พระองค์นำหมู่ทหารไล่ติดตามไปนอกค่ายประมาณ ๕๐ เส้น จึงให้ลั่นฆ้องชัยสัญญาณ  ยกกำลังบุกต่อไปถึงค่ายเมืองระยอง หมู่ทหารทั้งปวงเข้าในค่ายระยองได้จุดเพลิงเผาค่าย ที่หนีทันก็แตกกระเจิงไปหมด เมืองระยองจึงอยู่ในอำนาจของพระเจ้าตากสินโดยเด็ดขาด ณ คืนนั้น  พระเจ้าตากสินประกาศเป็นเจ้าเมืองระยอง  ตั้งตัวเป็นอิสระ  เสมือนเจ้าผู้ครองเมืองเอกทั้งหลาย 

 

*********************

 

ตำราพิชัยสงครามซุนจู้ (หรือซุนวู) กล่าวว่า  “กำลังใจและสติปัญญาของมนุษย์  คือ สิ่งที่จะชี้ขาดผลของสงคราม สงครามจึงมิใช่สิ่งที่ปฏิบัติได้โดยปราศจากความรอบคอบรอบรู้ และเพื่อให้ได้ชัยชนะการทำสงครามจะต้องให้สิ้นสุดเด็ดขาดด้วยระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้  ด้วยสงครามทุกรูปแบบต้องอาศัยการใช้อุบายเป็นหลัก ต้องสร้างสถานการณ์ให้ข้าศึกเกิดความสับสน เมื่อข้าศึกเข้าใกล้ก็ทำให้ข้าศึกนึกว่ายังอยู่ไกล ความเคลื่อนไหวต้องรวดเร็วประดุจเงาของปีศาจในแสงดาว”

 

ไม่มีตำราพิชัยสงครามเล่มใดในโลกบันทึกกลยุทธ์การศึกได้หมด  ต่อให้แม่ทัพอ่านตำราพิชัยสงครามทุกเล่มในโลกนี้ ถึงแม้จะมีกองทหาร ๕๐๐ คน  ทุกคนต่างมีฝีมือเก่งการสู้รบอย่างเยี่ยมยอด แต่ในที่สุดก็คงเป็นเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ  จะรอดชีวิตได้อย่างไรกัน   หากปราศจากพระเจ้าตากสินที่ทรงพระอัจฉริยภาพด้านกลยุทธ์การศึก จะเกิดอะไรขึ้นกับกองกำลัง ๕๐๐ คนนี้ น่าคิดน่ะ !

 

กลยุทธ์การออกศึกสงคราม หรือ “ตำราพิชัยสงคราม” ในประเทศไทย ยังไงก็ไม่เหมือนประเทศจีน ด้วยภูมิประเทศที่แตกต่างกัน และจีนมีกองกำลังทหารนับหมื่นนับแสน ยกทัพไปที่ไหนฝ่ายตรงข้ามก็ครั่นคร้ามหวาดหวั่น  แต่การออกรบของพระเจ้าตากสินใช้กองกำลังเพียงน้อยนิด แน่นอนว่าพระองค์ใช้หลักแนวคิดพิชัยสงครามแบบจีนหลายเล่ม แต่เหตุการณ์การรบเฉพาะหน้าแต่ละเหตุการณ์ไม่ซ้ำกัน กลศึกกู้ชาติไทยครานี้ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์โดยแท้  

 

นี่คือ “ตำราพิชัยสงคราม ฉบับ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ตำราพิชัยสงคราม ฉบับ พระมหากษัตริย์ไทยเล่มเดียวในโลก  !