ตำราพิชัยสงคราม ฉบับ พระมหากษัตริย์ไทย เล่มเดียวในโลก !
โดย ว.วรรณพงษ์
.jpg)
เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๐๙ กิตติศัพท์ของพระเจ้าตากสินผู้นำกองกำลังที่เก่งกล้าสามารถเป็นที่เลื่องลือ ด้วยกองกำลังพลเพียง ๕๐๐ คน ต่อสู้กับทหารพม่าที่มากกว่าหลายเท่า กลยุทธ์ที่เต็มไปด้วยพระปรีชาสามารถ ตั้งแต่วัดพิชัย บ้านโพธิ์สาวหาญ บ้านพรานนก กรุงศรีอยุธยา ผ่านเมืองปราจีนบุรี เมืองฉะเชิงเทรา ตรงไปยังบ้านนาเกลือ แขวงบางละมุง ชลบุรี กระทั่งถึงเมืองระยอง พระองค์ได้รับชัยชนะกองกำลังทหารพม่ามาตลอดเส้นทาง แม้แต่พม่าก็ไม่กล้าติดตามพระองค์อีกต่อไป
เจ้าเมืองระยองได้ยินกิตติศัพท์ก็ยอมมาสวามิภักดิ์ พระเจ้าตากสินขอบใจที่เจ้าเมืองระยองมีน้ำใจเห็นแก่ชาติเป็นใหญ่ พระองค์ได้พระราชทาน “ปืนคาบศิลา” กระบอกหนึ่งแก่เจ้าเมืองระยอง แล้วยกกองทัพเข้าไปตั้งมั่นอยู่บริเวณชานเมืองระยอง จากนั้นพระองค์ได้สั่งให้จัดลำเลียงอาหาร พร้อมกับเลือกชัยภูมิตั้งค่าย และขุดคูรอบค่ายเพื่อความปลอดภัย

เมื่ออ่านถึง “การขุดคูรอบค่าย” หลายท่านอาจสงสัยว่า ทำไมพระเจ้าตากสินจึงต้องขุดคูรอบค่ายเพื่อความปลอดภัย เรื่องนี้มีที่มา ในตำราพิชัยสงครามซุนจู้กล่าวว่า “แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ในอดีต ล้วนเป็นผู้วางตนให้อยู่ในสถานะที่จักไม่แพ้ หลักดำเนินการทางทหารมีอยู่ว่า ประการแรกพึงสำรวจภูมิประเทศ”
และในตำราพิชัยสงครามซุนจู้ (หรือซุนวู) ยังกล่าวอีกว่า “การตั้งค่ายในสนามรบต้องเลือกชัยภูมิ การออกแบบค่ายให้มีรูปลักษณะการวังผังเมือง ส่วนใหญ่เป็นรูปสี่เหลี่ยมล้อมรอบด้วยกำแพงดินที่พูนสูงขึ้น และควรมีคูน้ำอยู่รอบค่าย” นี่คือเหตุผลว่า ทำไมพระองค์เลือกชัยภูมิแล้ว ยังให้ทหารขุดคูรอบค่าย
********************
ฝ่ายกรมการเมืองระยองเมื่อทราบเรื่องราว ก็พากันไม่พอใจ กล่าวใส่ร้ายป้ายสีพระเจ้าตากสินกับเจ้าเมืองระยองว่า พระองค์คงจะกระทำการเพื่อประโยชน์แก่ตนเองมากกว่ากระทำเพื่อชาติ พระเจ้าตากสินตั้งค่ายบริเวณชานเมืองระยองได้สองวัน ได้มี นายบุญรอด แขนอ่อน นายหมวด นายบุญมา มากราบทูลพระองค์ว่า “ขุนรางหมื่นซ่อง นายทองอยู่ นกเล็ก ขุนจ่า เมืองด้วง หลวงพลแสนหาญ กรมการเมืองระยอง คบคิดกันคุมพลทหารระยอง ประมาณพันห้าร้อยเศษ จะยกเข้ามากระทำประทุษร้ายพระองค์”

พระองค์ตระเตรียมกลยุทธ์และแผนการ เพื่อตั้งรับการศึกครั้งนี้ ค่ำคืนนั้นพระองค์สั่งให้ทหารดับไฟในค่ายทั้งหมด ห้ามให้ผู้ใดยิงปืนโต้ตอบออกไปก่อนที่พระองค์ให้สัญญาณ เมื่อศัตรูเข้ามาจวนตัว พระองค์จะเป็นผู้ให้สัญญาณยิงแต่เพียงผู้เดียว
ตกกลางคืนกองทหารฝ่ายเมืองระยองมาพร้อมอาวุธครบมือ ค่ายพระเจ้าตากสินดับไฟเงียบกริบ ทหารฝ่ายระยอง ๑,๕๐๐ คนเศษ คิดว่า คงตกใจขวัญหนีดีฝ่อ ไม่กล้าออกมาสู้รบเป็นแน่ เส้นทางที่จะเข้าสู่ค่าย มีคูขุดกว้างใหญ่ขวางไว้อยู่ จึงเอา “ขอนไม้” ทำเป็นสะพานทอดข้าม ทหารฝ่ายระยองข้ามสะพานเข้ามาทุกด้าน หวังจะหักเอาค่ายด้วยใจฮึกเหิม วิ่งดาหน้ากันเข้ามาทุกทาง ทั้งโห่ร้องกึกก้องทั่วบริเวณ
กระทั่งทหารฝ่ายระยองวิ่งเข้ามาใกล้ค่ายประมาณ ๕ วา พระเจ้าตากสินส่งสัญญาณสั่งให้ปล่อยปืนตับยิงกราดออกไปพร้อมกัน ฝ่ายตรงข้ามถูกปืนยิงล้มกลิ้งลงคูขาดใจตายหลายคน พวกที่ตามมาข้างหลังก็ตกใจถอยกลับ พระองค์เห็นได้ทีก็กระโจนออกนอกค่าย เรียกทหารให้ตามออกไปไล่กวดยิง และแทงฟันฝ่ายตรงข้ามตายนับไม่ถ้วน
พระองค์นำหมู่ทหารไล่ติดตามไปนอกค่ายประมาณ ๕๐ เส้น จึงให้ลั่นฆ้องชัยสัญญาณ ยกกำลังบุกต่อไปถึงค่ายเมืองระยอง หมู่ทหารทั้งปวงเข้าในค่ายระยองได้จุดเพลิงเผาค่าย ที่หนีทันก็แตกกระเจิงไปหมด เมืองระยองจึงอยู่ในอำนาจของพระเจ้าตากสินโดยเด็ดขาด ณ คืนนั้น พระเจ้าตากสินประกาศเป็นเจ้าเมืองระยอง ตั้งตัวเป็นอิสระ เสมือนเจ้าผู้ครองเมืองเอกทั้งหลาย
*********************
ตำราพิชัยสงครามซุนจู้ (หรือซุนวู) กล่าวว่า “กำลังใจและสติปัญญาของมนุษย์ คือ สิ่งที่จะชี้ขาดผลของสงคราม สงครามจึงมิใช่สิ่งที่ปฏิบัติได้โดยปราศจากความรอบคอบรอบรู้ และเพื่อให้ได้ชัยชนะการทำสงครามจะต้องให้สิ้นสุดเด็ดขาดด้วยระยะเวลาสั้นที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยสงครามทุกรูปแบบต้องอาศัยการใช้อุบายเป็นหลัก ต้องสร้างสถานการณ์ให้ข้าศึกเกิดความสับสน เมื่อข้าศึกเข้าใกล้ก็ทำให้ข้าศึกนึกว่ายังอยู่ไกล ความเคลื่อนไหวต้องรวดเร็วประดุจเงาของปีศาจในแสงดาว”
ไม่มีตำราพิชัยสงครามเล่มใดในโลกบันทึกกลยุทธ์การศึกได้หมด ต่อให้แม่ทัพอ่านตำราพิชัยสงครามทุกเล่มในโลกนี้ ถึงแม้จะมีกองทหาร ๕๐๐ คน ทุกคนต่างมีฝีมือเก่งการสู้รบอย่างเยี่ยมยอด แต่ในที่สุดก็คงเป็นเหมือนแมงเม่าบินเข้ากองไฟ จะรอดชีวิตได้อย่างไรกัน หากปราศจากพระเจ้าตากสินที่ทรงพระอัจฉริยภาพด้านกลยุทธ์การศึก จะเกิดอะไรขึ้นกับกองกำลัง ๕๐๐ คนนี้ น่าคิดน่ะ !
กลยุทธ์การออกศึกสงคราม หรือ “ตำราพิชัยสงคราม” ในประเทศไทย ยังไงก็ไม่เหมือนประเทศจีน ด้วยภูมิประเทศที่แตกต่างกัน และจีนมีกองกำลังทหารนับหมื่นนับแสน ยกทัพไปที่ไหนฝ่ายตรงข้ามก็ครั่นคร้ามหวาดหวั่น แต่การออกรบของพระเจ้าตากสินใช้กองกำลังเพียงน้อยนิด แน่นอนว่าพระองค์ใช้หลักแนวคิดพิชัยสงครามแบบจีนหลายเล่ม แต่เหตุการณ์การรบเฉพาะหน้าแต่ละเหตุการณ์ไม่ซ้ำกัน กลศึกกู้ชาติไทยครานี้ด้วยพระอัจฉริยภาพของพระองค์โดยแท้
นี่คือ “ตำราพิชัยสงคราม ฉบับ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช” ตำราพิชัยสงคราม ฉบับ พระมหากษัตริย์ไทยเล่มเดียวในโลก !