วันศุกร์ ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2567 13:15 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

แม่ลิ้นจี่พาชิม

แม่ลิ้นจี่ : วันพฤหัสบดี ที่ 01 สิงหาคม พ.ศ. 2562, 08.32 น.

.. แวะชิม..ยำไก่กรอบทรงเครื่อง-ฉู่ฉี่ปลาทูสดแม่กลอง .. .. เมนูอร่อยระดับเหรียญทอง..ที่ห้องอาหาร “ริมรญา” ..

.. แวะชิม..ยำไก่กรอบทรงเครื่อง-ฉู่ฉี่ปลาทูสดแม่กลอง ..

.. เมนูอร่อยระดับเหรียญทอง..ที่ห้องอาหาร “ริมรญา” ..

 

เมนูอร่อยน่าชิมประจำวันนี้ “แม่ลิ้นจี่” เจ้าเก่าจะขออาสาพาท่านผู้อ่านไปแวะชิมอาหารไทยรางวัลเหรียญทอง 2 ปีซ้อนกันที่ห้องอาหาร “ริมรญา” ซึ่งเป็นห้องอาหารไทยที่เปิดบริการกันมานานกว่า 10 ปีในโรงแรมเดอะ ทวิน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ

           

ย้อนวันเวลาไปเมื่อหลายสิบปีที่ผ่านมานั้น เมื่อจะชักชวนใครไปทานอาหารในโรงแรมหรูโดยเฉพาะอาหารไทยด้วยแล้วก็มักจะพากันปฏิเสธ ซึ่งก็อาจจะเกรงว่ารสชาติจะไม่ได้มาตรฐานตามต้นตำรับของอาหารไทย เพราะส่วนใหญ่จะปรุงให้ชาวต่างชาติได้ลิ้มลอง หรือไม่ก็อาจจะเกรงว่าราคาจะแพงเกินความจำเป็น แต่ปัจจุบันพฤติกรรมการบริโภคอาหารไทยของนักท่องเที่ยวได้ปรับเปลี่ยนไป เมื่อได้มาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยกันทั้งทีจึงต้องการที่จะได้ชิมอาหารขนานแท้ที่ไม่ใช่อาหารไทยที่ปรุงตามใจคนต่างชาติ โรงแรมต่างๆ จึงพากันปรับเปลี่ยนวิธีการปรุงเป็นแบบไทยต้นตำรับเพียงแต่ลดความเผ็ดร้อนลงไปบ้าง จึงเป็นผลพลอยได้ที่ทำให้คนไทยหันมาใช้บริการร้านอาหารไทยในโรงแรมกันมากขึ้น

 

           

 

อย่างเช่นที่ห้องอาหารไทยริมรญานั้น “คุณบุญเชิด ศรสุวรรณ” Executive Chef ของโรงแรมฯ อีกทั้งยังเป็นอุปนายกสมาคมพ่อครัวไทย ผู้มีประสบการณ์ทางด้านอาหารไทยมานานหลายสิบปีและเป็นผู้ดูแลห้องอาหารนี้มานานตั้งแต่เริ่มแรกได้สรรหาอาหารอร่อยมาให้ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้ลิ้มลองกันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอาหารไทยโบราณและอาหารไทยในรูปแบบฟิวชั่นฟู้ด ซึ่งมีอาหารอยู่หลายชนิดที่การันตีความอร่อยด้วยรางวัลเหรียญทองยอดเยี่ยมถึง 2 ปีซ้อน จากการประกวดในงาน Food Hotel Thailand รวมทั้งรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย จึงได้นำอาหารรางวัลเหรียญทองทั้งหมดมาบรรจุไว้ในเมนูให้ทุกท่านได้ลิ้มลอง ซึ่งจะมีเมนูอะไรบ้างนั้นติดตามแม่ลิ้นจี่ไปลองชิมกันได้เลยค่ะ..เรามาเริ่มต้นจานแรกกันที่

           

 

แกงจืดลูกรอกดอกขจร..เป็นอาหารไทยโบราณรางวัลเหรียญทอง ซึ่งนอกจากจะมีรสชาติอร่อยแล้วยังเป็นเมนูที่มีความคิดสร้างสรรค์อีกต่างหาก โดยเขาจะนำลูกรอกหรือไส้กรอกแบบไทยๆ ซึ่งทำมาจากไข่ไก่กรอกเข้าไปในไส้หมู นำไปต้มจนสุกกลมเหมือนไส้กรอกหั่นเป็นท่อนๆ ขนาดพอคำ นำไปต้มอีกครั้งในน้ำซุปเดือดพล่านจนไข่บานล้นสองข้างคล้ายลูกรอก ใส่ดอกขจรยัดไส้ด้วยหมูบด ใส่เห็ดหอม แครอท และกุ้งสดตัวใหญ่เนื้อแน่น เสิร์ฟใส่ชามมาร้อนๆ มองเห็นน้ำซุปใสแจ๋ว ในราคาชามละ 160 บาท++

           

 

ยำไก่กรอบทรงเครื่อง..เป็นอาหารรางวัลเหรียญทองอีกเช่นกัน โดยเขาจะนำไก่นึ่งสุกฉีกเนื้อไก่เป็นเส้นฝอย ก่อนนำไปทอดในน้ำมันใหม่ร้อนๆ จนเนื้อไก่กรอบกรุบ ก่อนนำไปเข้าเครื่องยำมีหอมแดงซอย เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ใบมะกรูดหั่นฝอย พริกขี้หนู ปรุงรสออกเปรี้ยวนำ เค็ม และหวานนิดๆ ติดปลายลิ้น โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว พริกแห้งทอด โดยเขาจะยำแบบแห้งๆ เนื้อไก่จึงไม่ชื้นแฉะเคี้ยวกินได้กรอบกรุบสนุกปากกลมกล่อมด้วยสมุนไพรไทย ในราคาจานละ 150 บาท++

           

 

กุ้งทอดซอสมะขาม..เมนูจานนี้เด็กก็ทานได้ผู้ใหญ่ก็ทานดี โดยเขาจะนำกุ้งแชบ๊วยปอกเปลือกทอดในน้ำมันพร้อมกับหัวกุ้งแค่พอสุกกำลังดี ราดด้วยซอสมะขามเหนียวข้นที่ปรุงจากมะขามเปียก โรยหน้าด้วยหอมแดงเจียว ความอร่อยอยู่ที่กุ้งสดเนื้อแน่นบวกกับซอสมะขามครบรสเปรี้ยว เค็ม หวาน สั่งมาทานกับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยจนลืมอิ่ม ในราคาจานละ 250 บาท++

           

 

ฉู่ฉี่ปลาทูสดแม่กลอง..เป็นอาหารจานใหม่ที่เพิ่งบรรจุลงในเมนู โดยเขาจะนำปลาทูตัวใหญ่บั้งข้างตัวก่อนนำไปทอดจนสุกกรอบกำลังดี ราดด้วยน้ำแกงฉู่ฉี่ที่ปรุงกันใหม่สดด้วยการนำน้ำพริกแกงไปผัดกับน้ำมันจนหอมกรุ่น เติมด้วยกะทิสดลงไปเคี่ยวจนแตกมันใส่ใบมะกรูดฝอยและพริกชี้ฟ้าแดง ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำตาลปี๊บ เสิร์ฟมาในจานที่รองด้านล่างด้วยใบชะพลู ความอร่อยอยู่ที่ปลาทูแม่กลองเนื้อแน่นหวานมัน บวกกับน้ำแกงฉู่ฉี่รสชาติเข้มข้นหอมกลิ่นสมุนไพรไทย ในราคาจานละ 160 บาท++

           

 

ข้าวเหนียวมะม่วง..ปิดท้ายมื้อนี้กันด้วยขนมหวานแบบไทยๆ ที่คนไทยคุ้นปากคุ้นลิ้นกันเป็นอย่างดี ส่วนมะม่วงน้ำดอกไม้นั้นที่ไหนๆ ก็มีให้ลิ้มลอง แต่ที่ต้องยกนิ้วให้นั่นก็คือข้าวเหนียวมูนเมล็ดกลมร่วนสุกนุ่มรสชาติหวานมันจากกะทิสดสั่งมาลองชิมกันได้ ในราคาจานละ 150 บาท++

           

นอกจากนี้ก็ยังมีอาหารดีกรีเหรียญทองอื่นๆ ให้ลิ้มลองไม่ว่าจะเป็น พะแนงขาแกะ ก้ามปูผัดซอสพริกไทยดำ มัสมั่นไก่ ข้าวทอดสมุนไพร เครปข้าวเหนียวมะม่วง เชิญเปิดเมนูเลือกสั่งเพิ่มเติมกันเองได้ ห้องอาหารไทย “ริมรญา” จะเปิดบริการกันทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.30-21.00 น. หรือโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มกันได้ที่ 0-2216-9555 ต่อริมรญา แล้วพบกับ “แม่ลิ้นจี่พาชิม ปีที่ 18” ได้ใหม่ในครั้งต่อไปนะคะ