วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 00:04 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

แม่ลิ้นจี่พาชิม

แม่ลิ้นจี่ : วันอังคาร ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2562, 13.53 น.

.. ตกเอง..กินเอง..อิ่มอร่อยแบบครอบครัว .. .. ที่ร้าน “คนล่ากุ้ง” จังหวัดนนทบุรี ..

แม่ลิ้นจี่พาชิม..ในบ้านเมืองออนไลน์ประจำสัปดาห์นี้ คงจะเป็นที่ชื่นชอบของหลายๆ ท่านเพราะเรากำลังจะพากันไปอิ่มอร่อยกับเมนูหลากหลาย พร้อมลุ้นระทึกไปกับเกมกีฬาตกกุ้งกันที่ร้าน “คนล่ากุ้ง” ในย่านจังหวัดนนทบุรี

           

ถ้าจะพูดถึงเกมการตกกุ้งในบ้านเรานั้นก็มีเปิดบริการกันอยู่หลายแห่ง และยิ่งในเมืองไทเปประเทศไต้หวันด้วยแล้วเกมกีฬาชนิดนี้จะเป็นที่โปรดปรานของคนไต้หวันเป็นอย่างยิ่ง เรียกได้ว่าเขาจะเปิดบริการกันตลอด 24 ชั่วโมง นักตกกุ้งที่นั่นต้องมาจองคิวตกกันข้ามวันข้ามคืน ซึ่งการตกกุ้งนั้นเป็นเกมที่ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้ใหญ่ แต่เป็นเกมที่เราสามารถมาร่วมทำกิจกรรมกันได้ทั้งครอบครัว และเป็นเกมที่จะทำให้เราได้ฝึกทั้งสมาธิ ทักษะ และความอดทน อีกทั้งยังได้สังคมใหม่กับคนที่มีใจรักในเกมกีฬาเดียวกัน

           

 

ที่ร้าน “คนล่ากุ้ง” จะเป็นร้านในบรรยากาศแบบพื้นบ้านที่รายล้อมไปด้วยสวนผลไม้ที่ยังหลงเหลืออยู่ไม่กี่แห่งหลังจากความเจริญทางวัตถุได้ขยายตัวอย่างรวดเร็วในจังหวัดนนทบุรี ซึ่งที่ร้านนี้นอกจากจะมีบ่อให้เราได้ตกกุ้งกันแล้วก็ยังมีอาหารหลากหลายชนิดให้เราได้เลือกสั่ง ซึ่งจากการที่ได้พูดคุยกับ “คุณจีระบุตร ผลทอง” และ “คุณกัญจน์เกตุ สีหาบุญมา” สองสามีภรรยาซึ่งเป็นเจ้าของร้านได้บอกเล่าให้แม่ลิ้นจี่ฟังว่า ร้านนี้เพิ่งจะเปิดบริการมาได้ประมาณเกือบหนึ่งปี โดยจุดประสงค์แรกก็เพื่อให้เป็นที่ผักผ่อนของคนที่ชื่นชอบในเกมการตกกุ้ง

 

 

โดยกุ้งที่ตกมาได้นั้นลูกค้าสามารถสั่งทำเป็นอาหารได้หลากหลายชนิด ซึ่งกุ้งของที่ร้านนี้จะเป็นกุ้งก้ามกรามน้ำจืดสดๆ เป็นๆ ไซด์ขนาด 8-10 ตัวต่อหนึ่งกิโลกรัม โดยจะมีกฎกติกากันง่ายๆ สำหรับนักตกกุ้งนั่นก็คือ ค่าตกชั่วโมงละ 100 บาทต่อ 1 ท่าน (รวมค่าเบ็ด) หรือจะเอาเบ็ดมาเองก็ยังได้ และยังมีโปรโมชั่นตก 5 ชั่วโมงจ่ายแค่เพียง 400 บาท ซึ่งทางร้านจะปล่อยกุ้งลงบ่อเพิ่มเติมทุกๆ ครึ่งชั่วโมงครั้งละ 3 กิโลกรัมกันตลอดทั้งวัน ไม่ต้องกลัวว่าในบ่อจะมีแต่ความว่างเปล่า ซึ่งก็เคยมีนักตกกุ้งทำสถิติตกกุ้งในรอบ 1 วันได้กุ้งถึง 4 กิโลกรัมมาแล้ว ทีนี้เมื่อตกกุ้งมาได้แล้วจะทำยังไงดีล่ะ..ก็ไม่มีอะไรมากค่ะ

 

  1. เอากลับบ้านไปได้เลย
  2. เอาฝากไว้ที่ธนาคารกุ้งของที่ร้าน เมื่อต้องการใช้ก็สามารถมาเบิกกุ้งเป็นๆ ได้ตามกิโลกรัมที่ฝาก (ต้องแจ้งเบิกล่วงหน้า)
  3. สั่งทำเป็นอาหาร เช่น ค่าเผากุ้งกิโลกรัมละ 60 บาท เมนูอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น ฉู่ฉี่กุ้ง กุ้งทอดซอสมะขาม กุ้งคั่วเกลือ พล่ากุ้ง ต้มยำกุ้ง ฯลฯ คิดค่าปรุง 60 บาทต่อกุ้งครึ่งกิโลกรัม ส่วนเมนูจานเด็ดอื่นๆ ที่แม่ลิ้นจี่จะแนะนำให้สั่งมาลิ้มลองกันก็มี

 

 

กุ้งก้ามกรามเผา..ถึงแม้ไม่ได้ตกกุ้งเองก็สั่งทานกันได้ ซึ่งเขาจะใช้กุ้งตัวใหญ่ขนาด 8-12 ตัวต่อหนึ่งกิโลกรัมเผาบนเตาไฟแค่พอสุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับน้ำซีฟู้ดรสจัดจ้าน ในราคากิโลกรัม 590 บาท

 

 

กุ้งทอดซอสมะขาม..เขาจะนำกุ้งไซด์ใหญ่ผ่าหลังคลุกแป้งทอด ราดด้วยน้ำซอสที่ปรุงมาจากมะขามเปียกและตะไคร้ซอย ใบมะกรูด ปรุงรสเปรี้ยวนำ เค็ม และหวาน ในราคาจานละ 220 บาท

 

 

ส้มตำทอดกุ้งก้ามกราม..ที่นี่จะเสิร์ฟมาในจานใบใหญ่มีทั้งเส้นมะละกอทอดกรอบกรุบ ใบชะพลูชุบแป้งทอด กุ้งทอดตัวใหญ่ แยกน้ำส้มตำใส่ไข่เค็มใส่ถ้วยมาให้เราได้ตักราดกันตามใจชอบ ในราคา 250 บาท

 

 

หมึกทอดกระเทียม..เขาจะเลือกใช้หนวดปลาหมึกไซด์ใหญ่คลุกแป้งทอด ราดด้วยกระเทียมไทยสับทอดกรอบ เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มพริกรสหวานและน้ำจิ้มซีฟู้ด ความอร่อยอยู่ที่หนวดปลาหมึกชิ้นใหญ่เคี้ยวกินได้เต็มปากเต็มคำกรอบกรุบสนุกปากออกรสเค็มนำ ในราคาจานละ150 บาท

 

 

ทอดมันปลากราย..เขาจะใช้เนื้อปลากรายขูดสดผสมด้วยน้ำพริกแกงสมุนไพรไทย ปั้นเป็นชิ้นหนากลมแบนทอดจนสุกนอกนุ่มใน โรยหน้าด้วยใบกระเพราทอดกรอบเสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มทอดมัน ความอร่อยอยู่ที่เนื้อทอดมันเนียนนุ่มละมุนลิ้นหอมกลิ่นเครื่องแกง ในราคาจานละ 100 บาท

 

นอกจากนี้ก็ยังมี ปลากะพงทอดน้ำปลา ไข่ฟูคนล่ากุ้ง ผัดเผ็ดหมูป่า ผัดเผ็ดกบ แกงป่าเนื้อ ไข่ตุ๋นต้มยำทะเล ราดหน้าคนล่ากุ้ง ฯลฯ ที่บอกเล่ากันมานั้นแค่เพียงเล็กน้อยของเมนูที่ร้านนี้ สะดวกเมื่อไรคงต้องหาเวลามาสัมผัสกันเองได้ ร้าน “คนล่ากุ้ง” จะเปิดบริการกันทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00-23.00 น. สถานที่ตั้งของร้านจะอยู่ที่ถนนเลี่ยงนนทบุรีซอย 3 อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี หรือโทรศัพท์สอบถามเพิ่มเติมกันได้ที่ 081-689-3455 และ 081-585-0870 หรือตั้ง GPS นำทาง แล้วพบกับ “แม่ลิ้นจี่พาชิม” ปีที่ 18 ได้ใหม่ในสัปดาห์ต่อไปนะคะ..!