วันพุธ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2567 10:38 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันเสาร์ ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2563, 22.02 น.

“แฟร๊งค์” มือทองพระกรุเนื้อชิน พระมเหศวรเมืองสุพรรณ“ตาเดียวจบ”

♦♦♦ ฐาปกรณ์ นาคสุวรรณ หรือ แฟร๊งค์ สุพรรณเป็นชาวสุพรรณ โดนกำเนิดเกิดที่สองพี่น้อง ย้ายครอบครัวไปอยู่กรุงเทพมหานคร แต่ก็ไปเยี่ยมปู่ย่าตายายที่บ้านเกิดอยู่เป็นประจำกระทั่งทุกวันนี้  ช่วงเป็นเด็กเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่หนึ่ง เห็นน้าชายห้อยพระหัวกลับจึงถามน้าชายว่าทำไมจึงห้อยพระหัวกลับ น้าชายบอกว่าพระมเหศวรมี 2 หน้าแต่ละหน้าของเศียรองค์พระจะสวนกัน จึงทำให้คนในสมัยก่อนเรียกว่า พระสวน ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น มเหศวร ปู่ย่าตายายยังเคยเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนมีจอมโจรชื่อดังนำชื่อไปใช้เรียกตัวเองว่า จอมโจรมเหศวร

        

 

♦♦♦  แฟร๊งค์ สุพรรณบอกว่า น้าชาย ได้คุยให้ฟังด้วยว่า ไปเที่ยวงานสงกรานต์ที่วัดไผ่โรงวัวถูกไล่ยิงแต่ยิงไม่ออกน้าชายห้อยพระมเหศวรองค์เดียวเท่านั้น น้าชายยังพาตนเองไปลองยิงพระมเหศวรที่น้าชายแขวนใช้ให้ดูด้วยการนำพระมเหศวรไปวางที่กองฟางใช้ปืนยิงระยะห่างแค่ 2 ช่วงแขน แฟร๊งค์เห็นกับตาตนเองว่ายิงไม่ออกจริงได้ยินแค่เสียงดังแช๊ตๆ จากนั้นน้าชายยกปืนยิงขึ้นฟ้าปรากฏว่าเสียงปืนดังกึกก้อง ถึงกระนั้นแฟร๊งค์ สุพรรณ ก็ยังไม่มั่นใจได้ไปสอบถามพี่ชาย คุณรัฐวุฒิชัย นาคสุวรรณ ว่าเคยเห็นพระมเหศวรที่น้าชายใช้ติดตัวบ่างไหม เชื่อไหมว่ายิงไม่ออก ผมเห็นมากับตาตัวเองแล้ว พี่ชายบอกว่าอยากรู้ถึงพุทธคุณของพระมเหศวรให้ศึกษาดู

        

 

♦♦♦ คุณรัฐวุฒิชัย นาคสุวรรณ พี่ชายของ แฟร๊งค์ สุพรรณ เป็นคนที่สนใจและชอบสะสมเครื่องรางจึงไม่ค่อยได้สนใจและรู้ถึงพุทธคุณของพระมเหศวรและพระเครื่องมากนัก ทำให้แฟร๊งค์ ได้ศึกษาหาความรู้จากนิตยสารพระเครื่องหลายฉบับ โดยเฉพาะหนังสือ อมตะพระกรุ อันล้ำค่าของไทยของอาจารย์ต้อย เมืองนนท์ จึงได้ความรู้ความเป็นมาและพุทธคุณและพุทธพิมพ์ของพระมเหศวรและพระกรุทำให้เกิดความศรัทธาชื่นชอบและศึกษาหาความรู้พระกรุพระเนื้อชินอย่างจริงจัง แฟร๊งค์ จึงถือว่าอาจารย์ต้อย เมืองนนท์เป็นครูบาอาจารย์

        

 

♦♦♦ “แฟร๊งค์ สุพรรณ เล่าให้ฟังว่าพี่ชายตนเองพาไปสนามพระครั้งแรกที่สนามพระท่าพระจันทร์ ไปขอดูพระมเหศวรที่ตนชื่นชอบไม่มีร้านไหนหยิบพระให้ดูแค่บอกว่าพระราคาแพง ตัดสินใจกลับสุพรรณ นำหนังสืออมตะพระกรุของอาจารย์ต้อย เมืองนนท์กลับไปบ้านที่สุพรรณไปเทียบดูกับพระของน้าชายเป็นพิมพ์เดียวกัน ขอซื้อจากน้าชายแต่เขาไม่ขาย  มีอยู่วันหนึ่ง แฟร๊งค์ สุพรรณไปสนามพระพญาไม้และศูนย์พระเครื่องพันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน ตั้งใจจะไปหาเซียนพระชื่อดัง คุณป๋อง สุพรรณ แต่ไม่อยู่จึงไปร้าน ดามพ์ สุพรรณ ไปขอดูและขอซื้อพระมเหศวรแต่ราคาสูงมากตนเองไม่มีเงินพอจึงไม่ได้ซื้อ เริ่มหมดความหวังที่จะได้พระมเหศวรที่ตนชื่นชอบมากๆมาครอบครอง

        

 

♦♦♦ ช่วงอายุเข้าการเกณฑ์ทหาร แฟร๊งค์ สุพรรณ สมัครเข้ารับราชการทหารเสนารักษ์ ระหว่างเป็นทหารมีความสนิทสนมกับครูฝึกเหมือนเป็นทหารคนสนิท จึงได้รู้ว่าครูฝึกชอบพระเครื่องเหมือนตนเอง  หลังจากปลดประจำการทหารเกณฑ์แล้วได้ซื้อพระมเหศวรได้องค์หนึ่งเป็นพิมพ์ใหญ่จากนายทหารชั้นผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง มีการรับประกันถ้าไม่แท้คืนเต็มราคา 80,000 บาท ซื้อมาได้แค่เดือนเดียวนายทหารท่านนั้นได้ขอซื้อคืนให้กำไร 10,000 บาทตนจึงขายไป และออกตระเวนหาซื้อพระเนื้อชินพระกรุเก่าเช่นพระมเหศวร พระหูยาน พระท่ากระดาน จากชาวบ้านที่สุพรรณบุรีนำมาขายในกลุ่มเพื่อน วงการทหารนานกว่า 10 ปี คุณอดิศร แตงโสภาแนะนำให้รู้จักกับคุณตี๋ นครปฐม หรือตี๋ เครื่องราง  ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ศึกษาหาความรู้เรื่องเครื่องรางอย่างจริงจังกระทั่งมีความชำนาญสามารถซื้อขายเครื่องรางได้เองเป็นที่ยอมรับของวงการพระเครื่อง ได้รับเกียติเป็นกรรมการรับตัดสินโต๊ะเครื่องรางยอดนิยม  

      

 

♦♦♦ “แฟร๊งค์ สุพรรณ” มีงานการเป็นหลักแหล่งมั่นคงอยู่แล้ว ความชื่นชอบสะสมพระเครื่องทำให้เป็นผู้ชำนาญการเป็นมือทองพระกรุพระเนื้อชิน ยังฝากข้อคิดจากประสบการณ์ไว้ด้วยว่า “ ถ้าเราศึกษาอย่างจริงจังและรู้จริง เป็นจริง และเก่งจริง สามารถตัดสินใจซื้อได้ด้วยตนเอง ไม่มีอะไรยากถ้าเราตั้งใจ” ปัจจุบันมีกลุ่มในโลกโซเชียรอย่างกว้างขวางและมีกลุ่มพี่น้องที่เคยแนะนำ โดย อิฏฐ์ มหาเฮง  อาจารย์หนู บางสมัคร พี่ชัชวาล แสนใจงาม และป๋าจงรัก ให้การแนะนำในการวางตัวในวงการ บริการจัดหาพระเครื่องเครื่องรางทางหน้าเพจเฟสบุ๊ค  Facebook แฟร๊งค์ สุพรรณ ,ID Line Thapakom 2196, โทร.087 - 7491322