วันศุกร์ ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567 02:41 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันอาทิตย์ ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2563, 11.59 น.

พระเด่นคนดังออนไลน์บ้านเมือง (10 พ.ค.63)

 

 

♦♦♦ “พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ฐานคู่ กรุใหม่” องค์นี้หน้าตั๊กแตนเนื้อเขียวก้านมะลิ องค์น้องใหม่ของวงการ เป็นที่รู้กันว่าพระสมเด็จที่มีราคาค่านิยมต้องเป็นพระที่สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี)วัดระฆังสร้างหรือทำบรรจุไว้ วัดระฆัง บางขุนพรหม วัดเกศไชโยและเป็นพิมพ์ที่นักสะสมซื้อและขายได้เท่านั้น  อาจมีอีกหลายพิมพ์ก็เป็นได้ไม่มีใครเกิดทัน ถ้าเล่นหาพระนอกพิมพ์ที่เซียนพระกำหนดก็ต้องเล่นคนเดียวหรือเล่นในกลุ่มและเก็บเป็นมรดกตกทอดขายใครไม่ได้ ฉะนั้นการเก็บพระสมเด็จต้องเก็บพระที่คนวงการเล่นหากันเมื่อไหร่ขัดสนจะขายได้เงินเป็นล้านๆ   องค์ที่ลงหน้านี้เป็นองค์คุณสายัณห์ กทม.เป็นพระสมเด็จบางขุนพรหม พิมพ์ฐานคู่กรุใหม่ มีคราบกรุให้เห็นพองามเป็นธรรมชาติ จึงทำให้เห็นองค์พระงดงาม เส้นพิมพ์สมบูรณ์  ขอบฐานบนและล่างเป็นเส้นนูนคมชัดเล่นหากันหลักล้าน สนใจติดต่อ คุณเลิศ กุลชากุลโรจน์ โทร.095-5800963


    

 

 

♦♦♦ เหรียญหลวงพ่อทวด เลื่อนสมณศักดิ์ หลังไอ้ไข่ศิษย์หลวงพ่อทวด  2 คนดัง สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย พลเรือเอก ดร.ปรีชาญ จามเจริญ  และคุณชัยนฤทธิ์ เพชรพันธุ์ทอง บุกวัดพะโคะ สงขลา และ วัดพระมหาธาตุ นครศรีธรรมราช ขอใช้พระอุโบสถปลุกเสกวัตถุมงคลหลวงพ่อทวดและไอ้ไข่ รุ่นเจริญก้าวหน้า มหาเศรษฐี วันที่ 27 – 28 มิถุนายน 2563 ทั้งสองวัน กำหนดการดังนี้  10.09 น.พิธีบวงสรวงเทพยดา 13.29 น.พระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ 9 รูปเจริญพระพุทธมนต์  14.49 ประธานสงฆ์จุดเทียนชัย พระมหานาคสวดพระคาถาปลุกเสก พระเกจิสายใต้ 9 รูปนั่งปรกอธิฐานจิต  16.39 ดับเทียนชัย วัตถุมงคลชุดนี้ประกอบกด้วย (1) เหรียญหลวงพ่อทวด หลังไอ้ไข่ (2) ลอยองค์ไอ้ไข่ ศิษย์หลวงพ่อทวด บูชา 5 นิ้ว และ 2 ซ.ม. (3) เลส ไอ้ไข่ศิษย์หลวงพ่อทวด (4) แหวน ไอ้ไข่ศิษย์หลวงพ่อทวด (5) เหรียญเม็ดแตงไอไข่ ศิษย์หลวงพ่อทวด (6) เหรียญไอไข่ ศิษย์หลวงพ่อทวด พิมพ์นิยม  ส่วนหนึ่งเตรียมไว้แจกเป็นรางวัลงานมหกรรมประกวดพระเครื่อง ของชุมนุมนายเรืออากาศ รุ่นที่ 27  กำหนดจัดงานไว้แล้วในวันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม 2563 ที่ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติแจ้งวัฒนะ โปรดฟังทางราชการประกาศผ่อนคลายปัญหาผลกระทบจากโรคโควิด-19 ให้จัดได้แล้วเราจัดตามวันเวลาที่กำหนดไว้แน่นอนพลเรือเอก ปรีชาญบอก


    

 

 

♦♦♦ พระสมเด็จบางขุนพรหมพิมพ์ใหญ่ กรุใหม่” องค์นี้พิมพ์ใหญ่นิยมคมชัดสมบูรณ์ ในส่วนของศิลปะพิมพ์ไม่ต่างจากพิมพ์ของวัดระฆัง โดยเฉพาะเส้นตัดขอบลากยาวลงมาถึงมุมล่างที่วงการพระเครื่องเรียกว่าพิมพ์ใหญ่ตื้น ถ้าพิมพ์ใหญ่ลึกจะลากมาแค่ข้อศอกซ้ายองค์พระเท่านั้น คราบกรุสีน้ำตาลเบาบางปกคลุมทั่วองค์พระ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง มีความแห้งและความฉ่ำตามธรรมชาติ ให้สังเกตเส้นขอบพิมพ์ซ้ายมือจะเรียวเล็กเกิดจากการตัดขอบจากหน้าไปหลัง องค์นี้จัดว่ามีคราบขี้กรุน้อยมีเพียงเม็ดผงสีน้ำตาลและคราบผิวที่เป็นฝ้าจากอากาศในกรุ บ่งบอกให้รู้ว่าเป็นพระบางขุนพรหมยกให้เป็นพระองค์ครูของ  คุณธวัชชัย ฉิมอยู่ดี หรือ วัช  สะพาน นักสะสมพระชุดเบญจภาคีและพระยอดนิยม คนนี้คลุกคลีอยู่ในวงการช่วยงานสังคมตลอดมาไม่น้อยกว่า 25 ปีจึงมีครูบาอาจารย์ให้ถามไถ่ให้ความรู้โดยเฉพาะ อ.กวง ท่าพระจันทร์ ปัจจุบันยังเป็นอุปนายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย


    

 

 

♦♦♦ พระสมเด็จจิตรลดาปี 2508 หรือ  พระกำลังแผ่นดิน “ เป็นพระเครื่องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงสร้างด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง และพระราชทานให้แก่ทหาร ตำรวจ ข้าราชการ และพลเรือนที่สร้างคุณประโยชน์แก่แผ่นดินและ ข้าราชบริพารของพระองค์  สร้างขึ้นในช่วงระหว่างปี พ.ศ. 2508 – 2513 โดยมีศาสตราจารย์ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ เป็นผู้แกะแม่พิมพ์ถวาย มวลสารประกอบด้วยเรซินและผงพระพิมพ์นำมาบดรวมกับเส้นพระเจ้า พระองค์ใช้เวลาตอนดึกหลังทรงงาน พระสมเด็จจิตรลดามีเอกสารใบกำกับพระ แสดงชื่อ นามสกุลผู้ได้รับพระราชทานและหมายเลขลำดับ องค์นี้เป็นพระสมเด็จจิตรลดาพิมพ์ใหญ่ ปี 2508 ของนายวิชิต บุตรชา นายกเทศมนตรีตำบลไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ


    

 

 

♦♦♦ พระรอดลำพูนกรุวัดมหาวัน พิมพ์ใหญ่ เป็นหนึ่งในพระชุดเบญจภาคี ค้นพบครั้งแรกในปี พ.ศ. 2451 ที่พระเจดีย์องค์ใหญ่วัดมหาธาตุชำรุดทรุดโทรมตามกาลเวลา ทางวัดได้บูรณปฏิสังขรณ์ใหม่ จึงพบพระเครื่องเนื้อดินเผาจำนวนมาก ต่อมาเรียกว่า พระรอด ได้นำมาแจกจ่ายให้ข้าราชการ ประชาชนผู้ศรัทธานำไปบูชา พระรอดพบที่วัดมหาวัน จ.ลำพูนเพียงแห่งเดียวเท่านั้น  เป็นพระเนื้อดินเผาละเอียด ลักษณะองค์พระแบบทราวดีผสมศรีวิชัย เป็นพระสกุลช่างสมัยหริภุญไชย พุทธศตวรรษที่ 17 พระรอดพุทธคุณดีทางแคล้วคลาด เมตตาค้าขาย พระรอดที่นำลงให้ชมองค์นี้เป็นพระรอดพิมพ์ใหญ่เนื้อเขียว หินครก อายุกว่า 1,000 ปีเคยอยู่กับพ่อเลี้ยงคนดังภาคเหนือ ปัจจุบันอยู่ในความครอบครองของ เสี่ยชาญชัย แซ่ฟู คนดังเมืองพะเยาเจ้าของโรงสีข้าว


    

 

 

♦♦♦  พระหลวงพ่อปานพิมพ์ทรงปลาจีน เนื้อดำ”  สุดยอดความหายากองค์ดาราในหนังสือหลายเล่ม หลวงพ่อปานวัดบางนมโคสร้างพระเครื่องเนื้อดินเผารูปพระพุทธเจ้าทรงสัตว์พาหนะอันมีชื่อเสียงแห่งเมืองกรุงเก่า  ท่านมีสมณศักดิ์เป็นพระครูวิหารกิจจานุการ  พระเครื่องที่ท่านสร้างได้รับความนิยมด้วยมีศิลปะองค์พระเป็นเอกลักษณ์แห่งความเป็นต้นแบบไม่เหมือนใคร  ขนาดองค์พระมีความกะทัดรัด พระมีความเก่าอายุได้ 100 ปีแล้ว  พระทรงพิมพ์ปลาจีน มีเอกลักษณ์โดยเฉพาะคือมีเส้นซุ้มโค้งครอบด้านบนองค์พระ และมักถูกฝนมุมขอบทั้งสี่ด้าน โดยเฉพาะเนื้อสีดำด้วยแล้วหายาก จึงทำให้องค์นี้ดูโดดเด่นในวงการ ซึ่งเนื้อธรรมดาพิมพ์ปลาจีนก็หายากอยู่แล้ว องค์นี้ผ่านตากรรมการเซอร์พระสมาคมฯออกใบรับรองพระแท้มาแล้ว  ใหญ่ สุรินทร์ เจ้าของพระยอมรับว่ามีเงินอย่างเดียวหาของไม่ได้ต้องมีบุญวาสนาด้วย บุกมา 1 ล้านครับ


    

 

 

♦♦♦  มีดหมอสาลิกา หลวงพ่อเดิมวัดหนองโพ” เล่มนี้มากด้วยประสบการณ์เชื่อมาแต่โบราณว่าเป็นเครื่องรางของขลังที่ไว้ใช้ป้องกันอสรพิษ เขี้ยวงา ได้อย่างดี เจ้าของคือคุณวันทนา  ธีรศรีศุภกร กรรมการผู้จัดการ บจก.ทรัพย์สภาพร เอ็นจิเนียริ่ง จากคนที่ทำบุญสม่ำเสมอ ไม่เคยเชื่อพวกเครื่องรางของขลังแต่ด้วยจังหวะชีวิตมากมายทำให้รู้สึกสัมผัสได้ว่า เรื่องความศักดิ์สิทธิ์และพุทธคุณมีจริง” ดังเช่นมีดหมอเล่มนี้ เด่นด้านกลับร้ายกลายเป็นดี ป้องกันสิ่งไม่ดีที่เข้ามาในชีวิต ในรูปแบบต่างๆได้ดี คุณวันทนาจึงใช้มีดหมอหลวงพ่อเดิมพกติดตัวอยู่เสมอ


    

 

 

♦♦♦ “พระลีลาหน้าทอง สมัยสุโขทัย”  พระปางลีลาสุโขทัย เป็นพระศิลปะสุโขทัยบริสุทธิ์ สกุลช่างในยุคสุโขทัยที่หาพระลีลากรุอื่นๆเทียบยาก  พุทธลักษณะเป็นพระลีลาก้าวย่างไปข้างหน้าเช่นเดียวกับพระกำแพงศอก ของเมืองสุพรรณ พระลีลาหน้าทอง พระลีลาหน้าเงิน ขุดพบที่กรุวัดถ้ำหีบ กรุวัดเจดีย์งามและกรุวัดเขาพระบาทน้อย  จ.สุโขทัย พุทธคุณดีทางด้านโภคทรัพย์และเมตตามหานิยม อาจารย์ต้อย เมืองนนท์ได้บันทึกไว้ในหนังสือคัมภีร์พระกรุเมืองไทย  หน้า 569 พระลีลาหน้าเงินพบกรุวัดเจดีย์งาม สุโขทัย องค์ที่ลงให้ชมเป็นพระลีลาหน้าทองกรุเดียวกันองค์นี้ของ ท่านธัลดล บุนนาค


    

 

 

♦♦♦ “พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว พิมพ์ใหญ่หลังแบบ  จากหลักฐานเท่าที่ค้นพบผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่ายังเคยเห็นหลวงพ่อแก้วที่เมืองเพชรบุรีจึงมีผู้กล่าวสืบทอดกันมาว่าหลวงพ่อเป็นชาวจังหวัดเพชรบุรี  บวชที่วัดพระทรง เมืองเพชรแล้วธุดงค์ไปบูรณะวัดเครือวัลย์ ชลบุรี จึงเป็นจุดกำเนิดของพระปิดตาอันดับหนึ่งของเมืองไทย พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว เนื้อผงคลุกรัก นับว่าเป็นราชาแห่งพระปิดตาเนื้อผง สูงด้วยคุณค่าและค่านิยมองค์ที่ลงให้ชมนี้เจ้าของเป็นคนชลบุรีเล่นหาพระมากว่า 20 ปี มีเก็บไว้ใช้เป็นครูไว้ดูเป็นตัวอย่างพระแท้ที่สุดยอดความหายาก ต่อ ชลบุรี โทร.081-3453296


    

 

 

♦♦♦ “พระปิดตาเมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับ วัดอนงค์” หลวงปู่ทับเป็นพระเล่นแร่แปรธาตุทำเนื้อเมฆสิทธิ์ตามโบราณเล่าขานว่า อยากให้เป็นทองคำ แต่ท่านก็ทำออกมาเป็นเนื้อเมฆสิทธิ์ ซึ่งถือว่าเป็นพระที่งดงามในเนื้อหามวลสาร เป็นพระยุคเดียวกับพระปิดตาหลวงพ่อทับวัดทอง  หลวงปู่อี่ยมวัดหนัง หลวงปู่จัน วัดโมลี มีการแลกเนื้อกันแต่แบบพิมพ์ของใครของมัน  พระปิดตาเมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับ วัดอนงค์พิมพ์ต้อเล็ก มีการแต่งนอกหุ่นจึงมีทั้งแต่งเก่าแต่งใหม่  หลวงพ่อทับในยุคนั้นท่านจะแจกกับมือของท่านเองทุกองค์ นับได้ว่าพระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับมีความงดวามกทัดรัดน่าใช้มาก เนื้อหามวลสารมีเอกลักษณ์ที่เลียนแบบยากมาก นอกจากพระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์แล้วหลวงพ่อทับวัดอนงค์ยังสร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์ไว้อีก มีพิมพ์ปางซ่อนหา และพิมพ์พระพุทธชินราช ปัจจุบันก็หายากเช่นกัน พระปิดตาเนื้อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับวัดอนงค์องค์นี้ของ พีท เมืองกาญจน์  ร้านไทยศิลป์ พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วาน โทร.089 -8367551


    

 

 

♦♦♦  เขี้ยวเสือหลวงพ่อปาน วัดบางเหี้ย” ชื่อเสียงของหลวงพ่อปาน และเขี้ยวเสือที่ท่านสร้าง โด่งดังมาแต่ครั้งรัชกาลที่ 5 ราวปี พ.ศ. 2451 กล่าวถึงหลวงพ่อปานและเขี้ยวเสือของท่านมีอานุภาพร่ำลือกันว่าเสือนั้นเวลาจะปลุกเสกต้องใช้เนื้อหมูเสกเป่า เสือกระโดดได้จริง ท่านจึงเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวบ้านบางเหี้ย และพระสงฆ์ที่เชี่ยวชาญด้านสมาธิ เสือของท่านแกะด้วยเขี้ยวเสือเป็นฝีมือชาวบ้านแกะนำมาให้ท่านปลุกเสก มีทั้งตัวใหญ่ กลางเล็ก อ้าปาก หุบปาก  และช่างมีฝีมือก็ช่วยแกะไปถวายหลวงพ่อปาน สาเหตุที่เสือหลวงพ่อปานมีเอกลักษณ์เดียวกันสันนิฐานว่าเป็นช่างในหมู่บ้านเดียวกัน แกะออกมาคล้ายคลึงกัน คือ ตาเป็นลูกเต๋า  หูดูคล้ายหนู  มีจารยันต์กอหญ้า เสือหน้าคล้ายแมว เรือกว่าเสือหน้าแมว เขี้ยวเสือแกะตัวนี้ของ หรั่ง เมืองนนท์ กว่าจะมาเป็นเซียนพระสายตรงเครื่องรางโดนไป 4-5 ล้าน