วันเสาร์ ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2567 03:04 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันเสาร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2563, 11.59 น.

นักสะสมพระดังบางบัวทอง “ภูดิศ นนทพิมลชัย” ชีวิตดีเพราะมี “พระพรหมประทานพร”

♦♦♦ พระพรหม หรือท้าวมหาพรหม  เป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่หนึ่งในสาม “ตรีมูรติ” ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดู อันประกอบไปด้วย พระศิวะ พระนารายณ์ และพระพรหม ซึ่งเป็นที่เคารพศรัทธาสืบต่อจากศาสนา พราหม์ผสมผสานเข้ากับศาสนาพุทธอย่างกลมกลืนมาแสนนาน  พระพรหมเป็นมหาเทพผู้สร้าง ผู้ลิขิตความเป็นไปของทุกสรรพชีวิต เป็นผู้กำหนดชะตาชีวิตของมนุษย์ทุกผู้ เป็นผู้รู้ความเคลื่อนไหวของสรรพชีวิต ท่านจะปกป้องคุ้มครองผู้ที่ทำความดี ประพฤติตนดี ผู้บูชาพระพรหม จะได้รับพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ

        

♦♦♦ เชื่อกันว่าผู้ที่บูชาขอพรพระพรหมด้วยจิตที่บริสุทธิ์ มักประสบความสำเร็จอย่างไม่คาดคิด ซึ่งผู้ที่ยืนยันในเรื่องนี้ได้เป็นอย่างดีท่านหนึ่งก็คือ คุณภูดิศ นนทพิมลชัย นักสะสมพระเครื่องชื่อดังแห่ง อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งนอกจากสะสมพระเครื่องพระบูชาเพราะศรัทธาในพุทธคุณแล้ว ก็ยังเชื่อมั่นในปาฏิหาริย์ของการบูชาองค์มหาเทพต่างๆ อีกด้วย  และหนึ่งในองค์มหาเทพที่นับถือประจำใจก็คือ องค์ท้าวมหาพรหมนั่นเอง

 

 

♦♦♦ เมื่อไม่นานมานี้ คุณภูดิศ ได้รับพระพรหมไม้สักแกะสลักขนาดใหญ่เท่าคนจริงมาครอบครองด้วยความบังเอิญ ซึ่งก็เป็นเรื่องแปลก เพราะตั้งแต่ได้อัญเชิญองค์พระพรหมเข้ามาบูชา รู้สึกชีวิตเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ มีแต่เรื่องดีๆ เกิดขึ้นกับตัวตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องโชคลาภเงินทองนั้นมีเข้ามาไม่ได้ขาด และไม่ว่าจะกระทำการสิ่งใดก็ประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายแทบไม่มีอุปสรรค จึงเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีของพระพรหมท่านบันดาลประทานพรให้มาอย่างแน่นอน

 

♦♦♦ คุณภูดิศได้เล่าถึงที่มาว่า ตัวเขาเองได้พระพรหมไม้แกะสลักองค์นี้มาอย่างไม่คาดคิดมาก่อน เริ่มจากเมื่อราวปี 2557 ได้เข้าไปมีส่วนช่วยประสานงานให้กับผู้ใหญ่ที่นับถือท่านหนึ่ง ซึ่งท่านมีจิตศรัทธาเป็นเจ้าภาพจัดสร้างพระพรหมไม้แกะสลักขนาดบูชา (ประมาณ 12 นิ้ว) เพื่อถวายวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดนนทบุรี คุณภูดิศจึงได้ติดต่อว่าจ้างช่างแกะสลักฝีมือดีจากจังหวัดลำปางให้เป็นผู้ดำเนินการ แต่ระหว่างดำเนินการช่างแกะสลักท่านนี้ ก็มีเหตุเจ็บป่วยเข้าโรงพยาบาลอยู่เนืองๆ ไม่สามารถแกะสลักได้สำเร็จ จนต้องล้มเลิกไปในที่สุด แต่ด้วยความรับผิดชอบช่างคนแรกจึงได้มอบหมายงานให้กับช่างแกะสลักอีกท่านหนึ่งที่เป็นครูบาอาจารย์ของท่านเป็นผู้รับช่วงแกะสลักต่อ พร้อมทั้งได้มอบท่อนไม้สักโบราณขนาดใหญ่ที่เก็บรักษาไว้ให้ไปดำเนินการด้วย

 

 

♦♦♦ ท่อนไม้สักโบราณที่ช่างคนแรกมอบให้มานั้น มีขนาดใหญ่โตมาก ช่างที่รับงานท่านต่อมาจึงได้ขอปรับรูปแบบตามขนาดของไม้ นั่นคือแกะสลักเป็นองค์พระพรหมสี่พักตร์ แปดกร ประทับนั่งบนบัลลังก์ในท่าลลิตาสนะ (ประทับนั่งห้อยพระบาทลงข้างหนึ่ง) ขนาดใหญ่เท่าคนจริง ( 42 นิ้ว) งดงามด้วยศิลปะและฝีมือช่างเป็นอย่างยิ่ง

 

♦♦♦  จนถึงปี 2559 เมื่องานแกะสลักสำเร็จลุล่วงและกำลังจะมีการส่งมอบงาน ก็มีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เมื่อท่านเจ้าภาพที่เป็นผู้ว่าจ้างเกิดมีเหตุขัดข้องบางประการที่ไม่สามารถรับงานแกะสลักครั้งนี้ไว้ได้ คุณภูดิศในฐานะผู้ติดต่อประสานงานจึงต้องรับผิดชอบ ด้วยการรับองค์พระพรหมมาเก็บรักษาบูชาไว้ที่บ้านเสียเอง รวมถึงรับผิดชอบค่าว่าจ้างในการแกะสลักที่เพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัวจากการเปลี่ยนขนาดขององค์ท่านอีกด้วย

 

 

♦♦♦ วันที่อัญเชิญท่านมาจากลำปาง มีพิธีบวงสรวงก่อนอัญเชิญขึ้นรถบรรทุก ซึ่งต้องใช้คนยกกันถึง 6 คนจึงยกท่านขึ้นรถมาได้ และขณะเดินทางปรากฏว่าราบรื่นตลอดทาง และเมื่อมาถึงบางบัวทอง เมื่อเห็นขนาดท่านแล้วตัวคุณภูดิศรู้สึกตกใจมากเพราะไม่นึกว่าจะใหญ่มหึมาขนาดนี้ น่าจะใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเลยก็ว่าได้สำหรับพระพรหมที่แกะสลักจากไม้สัก  ตอนนั้นคิดว่าผู้ที่สามารถครอบครองได้ต้องเป็นผู้มีบารมีสูงส่ง อยู่ในหลักในธรรม จึงไม่กล้าที่จะรับไว้ในตอนแรก  อีกสาเหตุหนึ่งก็เพราะไม่มีที่เก็บรักษา ไม่มีที่ประดิษฐานให้สมฐานะมหาเทพที่ตนนับถือ จึงรู้สึกกังวลใจมาก แต่ดูเหมือนว่าท่านเลือกที่จะมาอยู่กับคุณภูดิศโดยตรง เพราะพยายามติดต่อหาผู้ที่เหมาะสมให้รับไป ก็ไม่มีใครต้องการ จึงจำใจต้องนำท่านมาเก็บรักษาไว้ที่บ้านที่อยู่อาศัยกันในปัจจุบัน ซึ่งตั้งอยู่ที่ชุมชนตลาดเก่าบางบัวทอง ริมคลองพระพิมลราชานั่นเอง แต่ปัญหาและอุปสรรคก็ยังไม่หมดไปเพราะบ้านที่พักอาศัยนั้นคับแคบมากไม่สามารถตั้งประดิษฐานไว้ได้ ญาติพี่น้องจึงแนะนำให้นำท่านไปเก็บรักษาไว้ที่บ้านเช่า ซึ่งเป็นอาคารเก่าอยู่ในบริเวณใกล้เคียงกันนั้นเอง

          

♦♦♦ อาคารดังกล่าว เป็นอาคารพาณิชย์ปลูกให้เช่าทําการค้ามาตั้งแต่ปี 2512 ตัวอาคารเป็นตึก 2 ชั้นปลูกสร้างอยู่ริมคลองพระพิมลราชา ครอบครัวของ คุณภูดิศ ได้เช่าตึกนี้ทําการค้าขายมากว่า 30 ปี ขณะนี้หมดสัญญาเช่าแล้ว แต่ครอบครัวได้ขอเช่าต่อมาอีก 7-8 ปี เพื่อใช้เป็นโกดังเก็บสินค้าและเป็นโรงจอดรถ เมื่ออัญเชิญท่านมาไว้ที่นี่ก็รู้สึกว่ายิ่งไม่เหมาะสมเข้าไปใหญ่เพราะเป็นโกดังและโรงรถเก่าๆ สกปรก แต่ก็ต้องจำยอม จึงจุดธูปอธิษฐานบอกท่านว่าให้อยู่ตรงนี้ เป็นบ้านน้อยคอยใจไปก่อน ถ้าชีวิตดีขึ้นจะเปลี่ยนแปลงให้ดีขึ้น

 

       

 

♦♦♦ จะเป็นด้วยคำอธิษฐานและความศักดิ์สิทธิ์ของท่านหรือยังไงไม่ทราบ หลังจากนั้นมาไม่ถึงหนึ่งเดือน เจ้าของที่ก็มาประกาศขายตึกที่เช่าอยู่ในราคาที่พอซื้อได้ ตอนแรกทางครอบครัวตั้งใจจะซื้อไว้เพียงแค่ 2 ห้อง แต่คุณภูดิศนั้นมองการณ์ไกล อยากได้ไว้ทั้งหมดเลยเพื่อพัฒนาอาคารให้เกิดประโยชน์ในอนาคต จึงได้บนบานอธิษฐานกับองค์พระพรหมว่าขอให้ซื้อขายอาคารได้ทั้งหมด หากสำเร็จจะปิดทองให้ท่าน ซึ่งไม่น่าเชื่อ อยู่มาไม่นานเจ้าของอาคารก็มาบอกว่าให้เหมาไปหมดเลย อาคารทั้งแถบจำนวน 14 ห้อง ซึ่งตรงกับที่เราอธิษฐานไว้ จุดนี้เองที่ทำให้รู้สึกว่าท่านมีอะไรพิเศษกับเราแน่นอน แม้กระทั้งเวลาที่รีโนเวทตัวอาคารก็ยังมีเรื่องที่ไม่คาดคิดหลายๆ อย่างเกิดขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นเรื่องที่ดีงามทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องช่างสาขาต่างๆ เรื่องวัสดุอุปกรณ์การก่อสร้าง ฯลฯ ที่ระยะแรกดูเหมือนจะมีปัญหา แต่ก็สามารถคลี่คลายได้ในที่สุด เหมือนท่านช่วยดลบันดาลประทานพร จนทำให้สามารถเนรมิตตึกเก่าให้กลับมาสวยงามได้ภายในเวลา 1 ปีครึ่งเท่านั้น

 

 

♦♦♦ ด้วยความที่คุณภูดิศ มีความผูกพันกับอาคารริมคลองแห่งนี้มาตั้งแต่เด็ก ตั้งใจซื้ออาคารหลังนี้ไว้ทั้งหมดก็เพื่อต้องการทําเป็นอาคารที่พักอาศัย  พร้อมทั้งอยากอนุรักษ์บรรยากาศชุมชนตลาดเก่าบางบัวทองเอาไว้ จึงปรับปรุงอาคารทั้งหมดให้มั่นคงแข็งแรงโดยที่ยังคงรูปแบบอาคารโบราณบ้านดั้งเดิมให้มากที่สุด พร้อมทั้งตกแต่งภายในสไตล์วินเทจ ด้วยสิ่งของเครื่องใช้ยุคเก่าโบราณแทบทั้งสิ้น เพื่อสร้างบรรยากาศย้อนยุคให้ดูอบอุ่นและคลาสสิก นับเป็นศิลปะที่แสดงคุณค่าและความงดงามเหนือกาลเวลา จึงทำให้เป็นที่สนใจของกองถ่ายละครและกองถ่ายโฆษณา ติดต่อขอใช้พื้นที่ในการถ่ายทำหลายเจ้าด้วยกัน ทำให้พอมีรายได้เข้ามาตลอด

 

 

♦♦♦ จาก บ้านน้อยคอยใจ ในวันวาน สู่อาคาร นนทพิมลชัยที่สวยงามในวันนี้  ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้ในแบบที่ไม่น่าจะเป็นไปได้  คุณภูดิศ จึงเชื่ออย่างสนิทใจว่า เป็นเพราะบารมีของท่านพระพรหมแน่นอนเลยที่ช่วยดลบันดาลให้มีสิ่งดีๆ เกิดขึ้นมาในวันนี้ สำหรับในอนาคต เมื่อมีความพร้อม ก็อาจหาสถานที่ที่เหมาะสมสร้างเทวาลัยให้ท่านพร้อมให้คนทั่วไปมากราบไหว้ขอพรกันต่อไป.