วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 20:21 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันอาทิตย์ ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2563, 11.31 น.

พระเด่นคนดังบ้านเมือง (11ต.ค.63)

“เหรียญที่ระลึกเฉลิมพระชนพรรษา 3 รอบ พ.ศ.2506”

 

 

เหรียญที่ระลึกเฉลิมพระชนมพรรษา 3 รอบรัชกาลที่ 9 เนื้อทองคำ หรือ “เหรียญอนุสรณ์มหาราช”  จัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นที่ระลึกในพระราชพิธีเฉลิมพระชนพรรษาครบ 3 รอบ (36 พรรษา) รัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ.2506 เป็นเหรียญเสมา  ด้านหน้าเหรียญเป็นพระบรมรูปครึ่งพระองค์ ผินพระพักตร์เบื้องซ้าย ทรงเครื่องทหารมหาดเล็กเต็มยศ ใต้พระบรมรูปเป็นพระปรมาภิไธย พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ริมขอบด้านซ้ายมีอักษรภาษาอังกฤษ Royal Mint ด้านหลังเหรียญเป็นตราพระบรมราชจักรีวงศ์ ข้อความด้านบน “อนุสรณ์มหาราช” ด้านล่างมีข้อความว่า เฉลิมพระชนมพรรษาครบ 3 รอบ 5 ธันวาคม 2506 เหรียญนี้สมเด็จย่าทรงนำไปพระราชทานแก่ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน กำนันผู้ใหญ่บ้าน เป็นขวัญกำลังใจที่อุทิศตนเสียสละเพื่อชาติบ้านเมือง จึงเป็นเหรียญที่ระลึกที่ทรงคุณค่ายิ่งผู้มีหน้าที่ปกป้องชาติบ้านเมืองมักจะต้องมีไว้ครอบครองเฉกเช่นพระสมเด็จจิตรลดา เหรียญนี้อยู่ในความครองครองของ Aod Ratchada


 

“พระรอด กรุวัดมหาวัน จังหวัดลำพูน”

 

 

พระรอดเป็นพระกรุพบที่วัดมหาวัน จังหวัดลำพูนแห่งเดียวเท่านั้น ได้รับความนิยมสูงสุดในบรรดาพระเครื่องจังหวัดลำพูน ด้วยเหตุจากอายุการสร้างของพระรอดมีความเก่าที่สุดในบรรดาพระชุดเบญจภาคี และงดงามด้วยพุทธศิลป์ของฝีมือช่างในยุคพระนางจามเทวี องค์ปฐมกษัตริย์แห่งนครหริภุญชัยสร้างไว้ในราวปี พ.ศ.1223 นับถึงปัจจุบันกว่า 1,300 ปีแล้ว  พระรอดพิมพ์เล็กองค์นี้สวยแชมป์และเป็นพระที่ใครเห็นเป็นต้องชมว่าดูง่ายครับ ของ Benz Aswin ร้านอัศวินพระเครื่องเมืองเพชรบุรีโทร. 091-7064989


         

“พระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 6 ชั้นนิยม”

 

 

พระสมเด็จวัดเกศไชโย พิมพ์ 6 ชั้นอกตลอด จังหวัดอ่างทองเป็นพระเครื่องที่เชื่อกันว่าสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านจัดสร้างบรรจุไว้ที่วัดนี้นานกว่า 100 ปีแล้วเมื่อครั้งที่มีการสร้างพระองค์ใหญ่ที่เรียกว่า พระมหาพุทธพิมพ์ หรือหลวงพ่อโต   สร้างจำนวน 84,000 องค์ บรรจุในองค์หลวงพ่อโต เท่าที่พบเห็นมีหลายพิมพ์เช่น พิมพ์ 7 ชั้นนิยม พิมพ์ 6 ชั้น พิมพ์ 5 ชั้น และพิมพ์ 3 ชั้น พระสมเด็จวัดเกศไชโยพิมพ์ 6 ชั้น อกตลอด องค์นี้อยู่ในความครอบครองของ คุณชัยวัฒน์ เขียวศรี


 

“เหรียญไอ้ไข่ วัดเจดีย์รุ่นแรก”

 

 

ปัจจุบันคนไทยทั่วประเทศศรัทธาและนับถือต่อวิญญาณเด็กที่ได้ชื่อว่า “เด็กวัด” เป็นศิษย์ติดตามหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาแต่สมัยอยุธยา ต่อมามีนิมิตให้ทำรูปเพื่อวิญญาณจะเข้าไปอาศัยร่างอยู่ได้ ไอ้ไข่กุมารหรือกุมารไข่ ตายไปตั้งแต่อายุได้ 9-11 ขวบ และโด่งดังด้วยเหตุที่ผู้คนบนบานกุมารไข่ ต่างประสบความสำเร็จตามที่ปรารถนาทั่วหน้ากันไม่ว่าเรื่องเสียงโชค เรื่องการงาน เรื่องการค้าขายถูกหวยร่ำรวยไปตามๆกันตลอดมา เรียกว่าขอได้ไหว้รับ เหรียญนี้เป็นรุนแรกสร้างตั้งแต่ปี พ.ศ.2526 จำนวน 1,000 เหรียญเท่านั้นจึงหายาก สวยๆผิวเดิมไม่ผ่านการใช้ซื้อขายกันกว่าล้านแล้ว เหรียญนี้ของคุณกิติวัฒน์ ไทยธีรเสถียร หรือตี๋ หน้าแดง เจ้าของกิจการโต๊ะจีนดังเมืองชลบุรี


 

“เหรียญหลวงปู่ชู วัดนาคปรก กรุงเทพ”

 

 

เหรียญหลวงปู่ วัดนาคปรก ถนนเทิดไทย  กรุงเทพ เหรียญหล่อรุ่นแรกหลวงปูชู วัดนาคปรก พิมพ์หลวงพ่อโต หลังยันต์นูนเนื้อสัมฤทธิ์นิยม สร้างในปี พ.ศ.2470  โดยหลวงพ่อชู คงชูนาม อดีตเจ้าอาวาสวัดนาคปรกจัดสร้างเหรียญด้วยวิธีเททองหล่อ  หลวงปู่ชูเคยอธิษฐานไว้ว่า  ผู้ใดได้กราบไหว้หรือมีพระพุทธรูปพุทธซ้อนให้แคล้วคลาดปลอดภัยป้องกันศาสตราวุธ คงกระพันธ์ชาตรี ในปี 2516 วัดรื้อถอนเรือสำเภาปูนออกทำถนนจึงได้พบพระเครื่องหลากหลายพิมพ์  องค์นี้เป็นพระพิมพ์หลวงพ่อโตเนื้อสำริดหลวงปู่ชุวัดนาคปรกจัดสร้างและปลุกเสก อยู่ในความครอบครองของโบ้ท พระประแดง องค์ล้มแชมป์ติดที่ 1 หลายงานเช่นงานทหารอากาศ ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ปี 61 งานนิตยสารพระท่าพระจันทร์  สามพรานปี 62 มีใบรับรองพระแท้จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย


         

“พระหลวงปู่ศุข พิมพ์แจกแม่ครัวใหญ่”

 

 

พระหลวงปู่ศุขวัดปากคลองมะขามเฒ่ารูปสามเหลี่ยมเนื้อผงคลุกรัก พิมพ์แจกแม่ครัว ท่านได้นำมาแจกผู้ที่ไปช่วยงานครัวที่วัดปากคลองมะขามเฒ่า มีทั้งพิมพ์แจกแม่ครัวใหญ่ และพิมพ์แจกแม่ครัวเล็ก  ผู้รู้กล่าวว่าเนื้อพระเป็นผงพุทธคุณคลุกรัก มีสีน้ำตาลอมดำ หรือสีน้ำตาลเข้ม  เนื้อเดียวกับพระปิดตาพิมพ์พุงป่อง อาจจะสร้างในช่วงเดียวกัน ด้านหลังมีทั้งแบนและนูน องค์นี้ มีใบรับรองพระแท้จากสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยออกให้ 15 ตุลาคม 62  สอบถามขอแบ่งไปใช้ได้เลยใครอยู่ภาคใต้ไปหาได้ที่ ร้านพระเครื่อง “หนึ่งสมุย” โทร.084-6583155


          

“พระปางซ่อนหา หลวงพ่อทับวัดอนงค์

 

 

หลวงพ่อทับ วัดอนงคารามเจ้าตำรับพระเนื้อเมฆสิทธิ์ สมัยก่อนคนมีปัญหาเรื่องดวงตกมักพกพาพระปางซ่อนหาเสริมดวงเรื่องร้ายกลายเป็นดีได้ ปัจจุบันหาพระเกจิที่สร้างพระเนื้อเมฆสิทธิ์ยาก พระปางซ่อนหา คนโบราณเรียกปางปราบท้าวผกาพรหม เคยมาท้าพระพุทธเจ้ารองอิทธิฤทธิ์ ให้ฝ่ายหนึ่งซ่อนฝ่ายหนึ่งหา ท้าวผกาพรหมแปลงกายเป็นเม็ดทราย พระพุทธเจ้าใช้ฌานตรวจพบจึงยอมแพ้ พระปางซ่อนหาเนื้อเมฆสิทธิ์หลวงพ่อทับวัดอนงค์องค์นี้ จัดเป็นเหรียญหล่อโบราณตัวจริง โปรดศึกษาจดจำกันไว้ใครได้ไปนับว่าโชคดี ปัจจุบันอยู่กับเซียนดังภาคตะวันออก “นะ ระยอง” มีบัตรรับรองพระแท้สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทยให้ไว้เพื่อความอุ่นใจ โทร.ได้ 24 ชั่วโมง 091-7391999 ถ้าไม่รับก็คือไม่อยู่


         

พระร่วงหน้าพระธาตุ พนัสนิคมชลบุรี”

 

 

พระร่วงหน้าพระธาตุ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เป็นพระเครื่องยุคสมัยทวารวดี – ลพบุรี อายุกว่า 700-800 ปี จัดเป็นพระยอดนิยมเนื้อชินที่ได้รับความนิยมมากในจังหวัดชลบุรี ที่พบมีทั้งชินเงิน ชินเขียว มีทั้งพิมพ์ชายจีวรแผ่กว้างและพิมพ์ชายจีวรหุบ พุทธศิลป์เข้าขลังน่าเกรงขามสมกับเป็นราชันย์ล้ำค่าของจังหวัดชลบุรี  พุทธคุณดีด้านแคล้วคลาด มหาอุตม์ องค์นี้เนื้อชินสนิมไขและสนิมแดง เอกลักษณ์พระพิมพ์นี้อยู่ที่สายประคตที่สะเอว 3 เส้น และตรงกลางปั้นเหน่งเป็นวงรี  สอบถามได้ที่ โต๊ะเซ้ง ชลบุรี คุณชำนาญ ศรีพัชรเอก นายกสมาคมอนุรักษ์พระเครื่อง พระบูชา จ.ชลบุรี


           

พระปรุหนังเนื้อชินเงินสมัยอยุธยาตอนต้น”

 

 

พระปรุหนังพบที่วัดมหาธาตุและวัดพุทไธศวรรย์ จ.อยุธยา ซึ่งเป็นวัดสร้างในสมัยอยุธยาตอนต้น  เป็นพระยอดขุนพลเนื้อชินเงิน ชินตะกั่วมีทั้งพิมพ์บัวเบ็ดและพิมพ์บัวก้างปลา สันนิษฐานว่าสร้างประมาณปี พ.ศ.1915 ตรงกับสมัยอยุธยาตอนต้น พุทธลักษณะพระนั่งปางมารวิชัยบนฐานสองขั้นแต่ละชั้นมีลายโค้งงอแบบเบ็ดตกปลาเรียงโค้งงอสลับตรงข้ามกันไปมา จึงมีนามว่า พิมพ์บัวเบ็ด สองข้างมีพระสาวกยืนพนมมือมีลวดลายรอบเศียรสวยงามเท่าที่พบเห็นมีทั้งแบบฉลุและไม่ฉลุและเป็นพระเนื้อชินเงิน ชินตะกั่ว มีความอ่อนตัวบิดงอหักง่ายทั้งสิ้น พุทธคุณด้านแคล้วคลาด คงกระพันชาตรีสมัยอยุธยายังต้องรบทับจับศึกกันอยู่ องค์นี้ของคุณยรรยง คูเกษมกิจ อดีตสมาชิกสภา กทม.


        

พระสมเด็จวัดระฆัง พิมพ์ใหญ่”

 

 

พระวัดระฆังพิมพ์ใหญ่องค์ครูของวัช ณ สะพาน องค์นี้เจ้าของกล่าวว่าสะสมพระด้วยใจรัก จัดว่าสวยแชมป์เป็นองค์ครูก็ว่าได้ สุดยอดมาตรฐาน เก่าเดิมด้านหลังรอยใช้มาก่อนจากเจ้าของเดิม หากส่องด้วยแว่นขยายจะเห็นมวลสาร เม็ดพระธาตุ เม็ดเปลือกหอยทางทะเล เม็ดกรวดหินทราย ก้านธูป ก้านมะลิ เนื้อพระซุ้มกอ และผงพุทธคุณอยู่ตามองค์พระ ด้านหลังมีรอยปูไต่เกิดจากการแห้งหดตัว จึงเห็นเนื้อพระสมเด็จเป็นธรรมชาติด้วยความเก่าอายุกว่า 100ปี ซึ่งในอนาคตจะเป็นพระองค์ดาราต่อไป


 

พระสมเด็จพิมพ์ฐานแซม”

 

 

มาตรฐานของพระวัดระฆังพิมพ์ฐานแซมผู้รู้แยกไว้ถึง 4 แม่พิมพ์ แต่คงเอกลักษณ์ของพิมพ์ฐานแซมไว้ที่ ด้านบนองค์พระจะกว้างกว่าด้านล่าง เส้นขอบบังคับพิมพ์ด้านบนขวามือเราจะเบนออกด้านนอก จึงทำให้พื้นด้านบนใหญ่กว่าด้านล่าง เส้นแซมใต้ฐานอ่อนพลิ้ว พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์ฐานแซมองค์นี้แม้จะผ่านการใช้บูชาติดตัวมาแล้วแต่ไม่มากจึงเห็นเส้นสายคม เห็นมวลสารเนื้อของพระสมเด็จได้อย่างถ่องแท้หนึกนุ่มแก่ผงปูนมวลสารและริ้วรอยผิวยังปรากฎให้เห็นเป็นธรรมชาติ นายแพทย์สมสิทธิ์ ใช้ติดตัวมาแต่ยังเรียนหนังสือถือได้ว่าเป็นพระประจำตระกูลประจำกายเป็นกำลังใจในการทำงานกระทั่งทุกวันนี้


           

“พระท่ากระดานไม่ตัดปีก”

 

 

เมืองท่ากระดาน มีวัดสำคัญอยู่ 3 แห่งคือวัดเหนือหรือวัดบน วัดกลางหรือวัดท่ากระดานและวัดล่าง เจ้าของพระท่ากระดาน อ.ศรีสวัสด์ องค์นี้กล่าวว่ายุคก่อนมีการพบพระพิมพ์เนื้อตะกั่วสนิมแดงที่วัดทั้งสามแห่งและยังพบอีกหลายวัดในเมืองกาญจนบุรีเช่นที่วัดต้นโพธิ์  วัดหนองบัว และวัดท่าเสา เป็นพระสมัยอู่ทองสกุลช่างอยุธยา ยุคก่อนนั้นอยุธยาเป็นหัวเมืองเคียงคู่กับเมืองกาญจนบุรี ไทรโยค  พระท่ากระดานที่พบจึงเป็นพระยอดขุนพลที่ได้รบความนิยมรุ่นสู่รุ่น องค์นี้ คุณธัลดล บุนนาค เก็บรักษาไว้กว่า 40 ปีเป็นพระไม่ตัดปีกองค์เดียวองค์แรกที่ผู้เขียนเห็นมาพบจึงขอนำมาให้ชมกัน


           

“พระสมเด็จวัดระฆังพิมพ์พระประธาน”

 

 

พระสมเด็จวัดระฆังองค์นี้ของนายกเทศมนตรีวิชิต บุตรชา นายกองค์การบริหารตำบลไก่คำ อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ แจ้งว่าเป็นพิมพ์ใหญ่ดูแล้วเหมือนจะลงรักน้ำเกลี้ยงปิดทองมาแต่เดิมและถูกล้างออกแล้วบางส่วนจึงมองเห็นองค์พระเนื้อหาสง่างามขึ้น มีร่องลอยการใช้มาบ้างแต่โบราณ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ทรงอกวี องค์พระมีหน้าอกกว้างด้านบนและสอบแคบลงที่ช่วงล่าง ดูคล้ายตัววีในภาษาอังกฤษ เอกลักษณ์ของพิมพ์นี้มีหน้าตักเอนราบอย่างสวยงามเห็นขาซ้ายคมชัดซ้อนพาดหน้าตักได้อย่างชัดเจน ฉะนั้นจึงมองด้วยตาเปล่าเห็นมวลสารไม่เด่นชัดต้องส่องด้วยแว่นขยายจะเห็นเม็ดพระธาตุ ก้านธูป ก้านมะลิ และเศษดินพระซุ้มกอ เม็ดหินกรวดทรายได้ชัดเจน ขอบคุณท่านเจ้าของพระที่ส่งมาโชว์ในคอลัมน์นี้


           

“พระยอดธง ทองคำ สมัยอยุธยา”

 

 

พระยอดธงเมืองกรุงเก่าจัดว่าเป็นพระเครื่องสำคัญอีกองค์หนึ่งเชื่อกันว่าผู้ครอบครองจะมีชัยชนะทุกประการ พระยอดธงอยุธยาสร้างไว้หลายเนื้อด้วยกัน ทองคำ นาค เงิน สัมฤทธิ์ และเนื้อชิน เป็นพระลอยองค์มีก้านยื่นออกมาเป็นเอกลักษณ์ของพระยอดธง สมัยอยุธยาต่างยังฮึกเหิมแก่กล้าด้วยอาคมผ่านสงครามมาอย่างโชกโชน พระเครื่องจึงผ่านการปลุกเสกอย่างเข้มข้นมีพลังอาคมขลังจริง ถึงขนาดใช้พระเครื่องเสียบยอดธงนำทัพ องค์นี้เนื้อทองคำ ของเล็ก โรงไม้ เซียนดังจังหวัดอยุธยา