วันศุกร์ ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2567 06:34 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันเสาร์ ที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2564, 14.41 น.

“เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว” ได้เพื่อนดีมีผู้ใหญ่หนุน พ่อค้าเสื้อเด็กสกรีนสู่ “ชีวิตเซียนพระ”

♦♦♦  สรเดช  วิเศษสุวรรณ หรือ เบ๊นซ์ กิ่งแก้วคนพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ บ้านเกิดอยู่ อำเภอบางพลี บิดาเป็นคนที่ชอบสะสมพระเครื่องเหมือนคนโบราณทั่วๆไปที่ได้พระเครื่องมาก็จะเก็บบูชาไว้ที่หิ้งพระหรือเก็บไว้ในตู้วัตถุมงคล ที่บ้านจึงมีพระเครื่องทั้งใหม่และเก่ารวมกับพระเครื่องในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ เช่น หลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว หลวงพ่อโตวัดบางพลี ที่ซึ่งคุณพ่อเก็บสะสมไว้และใช้ติดตัวตลอดมา ตนเองได้เห็นจึงสนใจพระเครื่องมาแต่เด็กๆ

 

 

♦♦♦ “เบ๊นซ์ กิ่งแก้วสนใจพระเครื่องมากขึ้นช่วงเรียนชั้นมัธยมที่โรงเรียน พูลเจริญวิทยาคมอำเภอบางพลี ได้เห็นเพื่อนๆนำพระเครื่องมาอวดกัน บางคนก็แลกเปลี่ยนกัน บางคนก็ให้กันไปฟรีๆหรือมีบ้างที่ขายให้กันในราคาแบ่งปันเป็นค่าขนม เป็นการซื้อขายพระเครื่องในกลุ่มนักเรียนที่ชอบพระเครื่องนั่นแหละ ซึ่งยุคนั้นพระเครื่องยังไม่มีราคาหรือมีมูลค่าอย่างปัจจุบันและพระเครื่องส่วนใหญ่ยังไม่มีของปลอม เบ๊นซ์ ยังนำเอาพระวัดปากน้ำรุ่น 4 ที่ตนเองมีอยู่ไปแลกกับภารโรงของโรงเรียนแลกกับเหรียญหลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว ทั้งที่ไม่รู้ว่ารุ่นไหน และได้นำไปถามคุณพ่อท่านบอกว่าเป็นเหรียญหลวงปู่เผือกวัดกิ่งแก้ว เนื้อฝาบาตร รุ่น 2 บล็อกนิยม ปี 2496 ตนเองได้นำไปเลี่ยมพลาสติกใช้ห้อยคอตลอดมา

 

 

♦♦♦ “เหรียญหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้ว จุดประกายให้เบ๊นซ์  มีความภูมิใจมากที่ได้พระเครื่องที่ตนอยากได้มานานแล้วและทำให้ตนเองชื่นชอบพระเครื่องมากขึ้น สนใจที่จะสะสมพระเครื่อง สนใจที่จะศึกษาหาความรู้ เมื่อได้หนังสือรวมวัตถุมงคลหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้วจากคุณพ่อให้มา จึงได้อ่านได้ศึกษาทำให้รู้ว่าเป็นรุ่นไหน เนื้ออะไร สร้างปีไหนพอแยกแยะได้บ้าง จากนั้นได้ไปตามบ้านเพื่อนและได้พระหลวงปู่เผือก วัดกิ่งแก้วแท้ๆในราคาไม่แพง เบ๊นซ์นำมาขายให้ร้านเลี่ยมพระย่านเคหะบางพลีมารู้ภายหลังว่าราคาต่ำกว่าท้องตลาด

 

 

♦♦♦ “เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว บอกด้วยว่า หลังเลิกเรียนและวันหยุดตนเองจะไปนั่งอยู่ที่ร้านเลี่ยมพระเคหะบางพลี ที่นั่นจะมีคนนำพระหลวงปู่เผือกมาเลี่ยมจึงมีโอกาสได้เห็นได้ดูพระเกือบทุกองค์ทำให้ได้ความรู้จดจำตำหนิและพิมพ์พอที่จะดูพระหลวงปู่เผือกเป็น ตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมแล้ว  หลังจากเรียนจบมัธยมได้ไปเรียนต่อที่โรงเรียนอรรถวิทย์ พาณิชยการ มีเพื่อนๆที่สนใจพระเครื่องพูคุยแลกเปลี่ยนความรู้กันนำพระมาส่องดูกัน ทำให้เพื่อนๆกระทั่งครูบาอาจารย์ในโรงเรียนรู้ว่า เบ๊นซ์มีความรู้ดูพระเป็นต่างก็นำพระที่เก็บไว้มาให้ดูอยู่เสมอ ในช่วงที่เรียนพาณิชยการ ได้ตั้งใจเรียนจะได้จบโดยเร็วจึงสนใจเรื่องพระเครื่องน้อยลงไปบ้าง

 

 

♦♦♦ จบจากโรงเรียนอรรถวิทย์ พาณิชยการได้ไปประกอบอาชีพตามที่ตนเองเล่าเรียนมา ค้าขายเสื้อผ้าเด็ก มีแบรนด์ของตนเอง เบ๊นซ์เสื้อเด็กสกรีน เผยแพร่ขายทาง Facebook และขายประจำในตลาดเสริมสุข บางบ่อ สมุทรปราการ ขายอยู่นานถึง 10 ปี เจ้าของตลาดได้ประกาศเชิญให้ เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว ไปดูพระให้อยู่บ่อยครั้งทำให้พ่อค้าแม่ค้าในตลาดเสริมสุขรู้กันทุกคน  กระทั่งเพื่อนๆที่ชอบสะสมพระเครื่องชวนไปเข้ากลุ่มเฟสบุ๊กชมรมหลวงปู่เผือก ทำให้มีคนรู้จักมีการซื้อขายพระหลวงปู่เผือกได้มากขึ้นและรู้จักเซียนพระสายตรงหลวงปู่เผือกอีกหลายคน  อ๊อด สมุทรปราการ เห็นว่าเบ๊นซ์ กิ่งแก้ว เป็นพ่อค้าเป็นคนมีอัธยาศัยดีพูดจาไพเราะเป็นคนพูดเก่งและมีความรู้ด้านพระเครื่อง ได้ให้พระหลวงปู่เผือกพิมพ์ขุดสระเล็กไปขายเอากำไร ขอทุนแค่ 2 แสน เบ๊นซ์ไปขายทางเฟสบุ๊คได้ภายในวันเดียว 2.4 แสน ได้กำไร 4 หมื่น นำไปลงทุนซื้อพระหลวงปู่เผือกขายชาวต่างชาติเป็นชาวฮ่องกงไปถึง 11 องค์

 

 

♦♦♦ “เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว” กล่าวว่าตนเองมีผู้ใหญ่ที่มีพระคุณให้ความรู้ดูแลสนับสนุนแนะนำให้กำลังใจตลอดมาจึงทำให้มีชีวิตอยู่ในวงการนี้อย่างมีความสุขมีทุกสิ่งทุกอย่างก็ด้วยท่านเหล่านี้ ท่านแรก อาจารย์ตี๋ สุวรรณภูมิ ประธานชมรมพระเครื่องสุวรรณภูมิ แนะนำให้มีชื่อมีฉายาในวงการพระแล้วจะโด่งดังในอนาคต เปลี่ยนจาก เบ๊นซ์เสื้อเด็กสกรีน เป็น เบ๊นซ์ กิ่งแก้วอีกท่านหนึ่งคืออาจารย์เปี๊ยก ช่างซ่อมพระเป็นผู้ที่ให้ความรู้สอนให้ดูพระหลวงปู่เผือก และท่านนี้ที่สำคัญยิ่งท่านเป็นผู้ใหญ่ใจดีมีเมตตาช่วยเหลือตลอดมา คือ คุณใหม่ กลิ่นพวง หรือเสี่ยใหม่ฟาร์มปลา

 

♦♦♦ ปัจจุบันเป็นแอดมินกลุ่มประมูลพระแท้ หลวงปู่เผือก หลวงพ่อโตวัดบางพลี และแอดมินชมรมคนรักรูปถ่ายหลวงปู่เผือก หลวงพ่อโตวัดบางพลี ติดตามผลงานเบ๊นซ์ กิ่งแก้วได้ ทาง (1)ไลฟ์สดเฟสบุ๊ค  “เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว”  (2) เพจร้านพระเครื่อง “เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว” (3) Facebook : เบ๊นซ์ กิ่งแก้ว หรือ โทร. 090-2879446