สังคมพระเครื่องบ้านเมือง (1 ส.ค.64)

สายธารน้ำใจ-ภัยโควิด 19

ป๋าพยัพ คำพันธุ์ –ไข่ มาลีฮวนน่า

 

       

 

♦♦♦ คุณพยัพ คำพันธุ์ นายกสมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย และ อ.ไข่  มาลีฮวนน่า แถลงร่วมกันที่สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย ว่า ไม่ใช่บ้านเราที่ประสบภัยจากโรคโควิด 19 ทั่วประเทศและทั่วโลก ทุกคนเดือดร้อนลำบากทุกคนเข้าสู่ภาวะวิกฤต ผม และ อ.ไข่ มาลีฮวนน่าตัวแทนพี่น้องวงการเพลง ได้เห็นภาครัฐช่วยเหลืออยู่ส่วนหนึ่งแล้ว เราเป็นคนของแผ่นดินอะไรช่วยกันได้ก็ต้องช่วยกัน  โดยเฉพาะบางวัดบริการเผาศพโควิด 19 ฟรีกระทั่งเตาเผาระเบิดก็มีหลายๆวัด น้ำมันที่เผาศพก็ไม่มีวัดก็ต้องจัดหาเอง บุคคลากรที่ช่วยขนย้ายผู้เสียชีวิตจากโควิด 19 ต้องเสี่ยงต่อการติดเชื้อขาดอุปกรณ์ป้องกัน จึงร่วมกันจัดโครงการ “ธารน้ำใจ –ภัยโควิด 19” #อย่าสิ้นหวังยังมีเรา #มนต์พระและเสียงเพลงเราจะเยียวยาช่วยเหลือกัน

 

 

 

♦♦♦ วัตถุประสงค์ชัดเจน 4 ประการ (1) ช่วยเหลือเยียวยาผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 ทั้งวงการพระมรดกไทยและวงการเพลง (2) ซื้อน้ำมันถวายวัดสำหรับเผาศพโรคโควิด 19 (3) ซื้อถุงซิปบรรจุศพ และชุด PPE ให้อาสาสมัครกู้ภัย (4) จัดหาเตาเผาสำรองให้ทางวัดสำหรับศพที่เสียชีวิตด้วยโรคโควิด ต้องฝากขอบคุณไปยังวงการพระและวงการเพลงทั่วประเทศทุกภาคที่หลั่งไหลสายธารศรัทธาบริจาคเข้ามา ให้รู้ว่าวงการพระและวงการเพลงแสดงออกอย่างไร ผมยืนยันว่าเงินที่บริจาคมาทุกบาททุกสตางค์ไม่มีตกหล่นสูญหายแม้แต่บาทเดียว  ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น เป็นงานชัดเจนครับ ป๋าพยัพ ยังปิดท้ายด้วยว่าถ้ามีใครไปแอบอ้างว่าเราไปซื้อเตาเผาศพให้วัดโน้นวัดนี้ยังไม่มีนะครับเราเพิ่งประชุมสรุปโครงการกันครับ “ส่วนหนึ่ง สารจากพยัพ คำพันธุ์” ถึงคนวงการพระเครื่องและวงการเพลง

---

 

แสดงความเสียใจกับครอบครัวเสี่ยแก้ ราชบุรี

 

 

 

 

 

♦♦♦ ขอแสดงความเสียใจกับ เสี่ยแก้ว ราชบุรี หรือ คุณ ยรรยง งามศุภกร ต้องสูญเสียภรรยา คุณ กิมจั่ว แซ่โต่น (งามศุภกร) ไปโดยกะทันหันที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เกาะสมุย ตั้งศพสวดพระอภิธรรม 5 คืน และทำการฌาปนกิจศพเรียบร้อยไปแล้วเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ.2564 ที่วัดสว่างอารมณ์ เกาะสมุย เสี่ยแก้ว ราชบุรี ขออภัยที่ไม่ได้บอกกล่าวให้ท่านที่รู้จักมักคุ้นและเพื่อนพ้องน้องพี่วงการพระเครื่องได้ทราบเพราะภรรยาล้มป่วยเข้ารักษาตัวอยู่โรงพยาบาลกรุงเทพที่เกาะสมุยอยู่แล้ว ได้จากไปอย่างกะทันหันด้วยหัวใจล้มเหลวฉับพลัน  เสี่ยแก้ว ราชบุรีและ คุณฐานิตา งามศุภกร บุตรสาว ขอขอบพระคุณท่านผู้มีเกียรติหลายๆท่านที่รู้ข่าวแสดงความเสียใจและไปร่วมงานศพภรรยาเสี่ยแก้ว ราชบุรีไว้ ณ ที่นี้ด้วย

---

 

 

เสี่ยกุ่ยประมูลพระให้โรงพยาบาลสงฆ์กว่า 2.6 ล้าน

        

 

♦♦♦ เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2564 เวลา 19.00 น. เสี่ยกุ่ย รัชดา  เจ้าของศูนย์พระรัชดา เจ้าของรังพระทองคำที่รู้กันว่าสะสมไว้มากที่สุดในประเทศไทย ได้นำพระสมเด็จที่สะสมไว้และตรวจสอบจากเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่ามีมวลสาร ตนเชื่อว่าเป็นพระสมเด็จวัดระฆัง และได้นำออกมาประมูลนำรายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆมอบให้เป็นการกุศล เป็นครั้งที่ 2 

 

 

♦♦♦ เสี่ยกุ่ยบอก ครั้งแรกประมูลพระสมเด็จวัดระฆัง 10 องค์ กับเหรียญหลวงพ่อทวด รุ่น 3 ปี 04 เนื้อทองคำเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 รายได้มอบให้โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ได้เงินไปทั้งสิ้น 955,000 บาท ผู้ประมูลได้นำเงินไปบริจาคให้โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าครบทุกราย ได้รับพระไปครบทุกคนแล้ว  ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ประมูลพระสมเด็จ 10 องค์ แหนบหลวงปู่ทวดทองคำ ปี 2503 และพระสมเด็จองค์นิวลุงพุฒ เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2564

 

 

♦♦♦ รายได้ไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้โรงพยาบาลสงฆ์ เริ่มประมูลทางเพจเฟสบุ๊ค ศูนย์พระรัชดา เวลา 19.00 น. ตั้งราคาประมูลตั้งต้นพระสมเด็จองค์ละ 50,000 แหนบหลวงปู่ทวดทองคำ  ราคาตั้งต้น 300,000 บาท และ พระสมเด็จองค์นิวลุงพุฒ ราคาตั้งต้น 200,000 บาท ผลออกมามีผู้ประมูลพระสมเด็จครบทั้ง 10 องค์ เป็นเงิน 776,111 บาท แหนบทองคำหลวงปู่ทวดได้ 860,000 บาท พระสมเด็จองค์นิวลุงพุฒ ได้ 990,000 บาท

 

 

♦♦♦ รวมรายได้ประมูลพระทำบุญบริจาคให้โรงพยาบาลสงฆ์ เป็นเงิน ทั้งสิ้น 2,626,111 บาท(สองล้านหกแสนสองหมื่นหกพันหนึ่งร้อยสิบเอ็ดบาท) ผู้ประมูลได้นำใบเสร็จจากการบริจาคเงินให้โรงพยาบาลสงฆ์มารับพระสมเด็จที่ประมูลได้ที่ศูนย์พระรัชดาทุกวัน เสี่ยกุ่ย รัชดายืนยันจะประมูลพระต่อไปจนกว่าสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด 19 จะดีขึ้นซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยผู้เดือดร้อนเจ็บป่วยด้วยโรคโควิด 19 โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใดๆเลย พระเครื่องที่ตนนำมาประมูลก็มอบให้ด้วยใจตอบแทนที่สังคมให้ครอบครัวอยู่สุขสบายทุกวันนี้