“เสริฐ เต่านิลจา” ตามรอยพ่อภาพแบงค์พัน บารมีหลวงปู่หลิวสู่เศรษฐกิจพอเพียง

 

 

 

♦♦♦ “เสริฐ เต่านิลจา”  หรือ นายปรม มหาโชติ เซียนพระชื่อดังไม่เป็นสองรองใครหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรี ผู้สร้าง “สถานีเต่านิลจาชิงช้ายักษ์” ติดวัดไร่แตงทองมองเห็นสง่างาม สวนเกษตรผสมผสานตามรอยพ่อ เศรษฐกิจพอเพียงในยุคโควิดเศรษฐกิจซบเซานานกว่า 2 ปี แนวคิดติดตามาจากภาพในแบงค์พัน เกิดไอเดียซื้อที่นาหลังวัดไร่แตงทอง 3.2 ไร่ ด้วยสมองของตนเองทำสวนเกษตรผสมผสานผู้คนแวะเวียนมาพักเที่ยวชมสวนเกษตร จิบกาแฟท่ามกลางบรรยากาศ สัตว์เลี้ยงหลายชนิดที่เป็นมิตรกับนักท่องเที่ยว

 

 

 

♦♦♦  “หลวงปู่หลิว ปณฺณโก” พระเกจิดังภาคตะวันตก ท่านโด่งดังจากวัดสนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรีท่านจำพรรษาอยู่ที่นี่นานถึง 36 ปี วัตถุมงคลรุ่นแรกของท่านก็สร้างจากวัดนี้ เสริฐ เต่านิลจา เป็นคนพื้นที่สนามแย้ ท่ามะกา จึงมีความผูกพันกับวัดนี้มาตั้งแต่เกิด ตามบิดามารดาไปทำบุญที่วัดสนามแย้ตั้งแต่อายุ 11 ขวบได้ยินได้ฟังคนเฒ่าคนแก่เล่าประสบการณ์ยิ่งมีศรัทธาอยากได้วัตถุมงคลไว้ติดตัว พออายุ 16-17 ปีจึงศึกษาหาความรู้เต่าหลวงปู่หลิวควบคู่กับการเลี้ยงวัวนมและขายปุ๋ยอยู่นานกว่า 10 ปี จึงไม่สงสัยทำไมจึงมีความรู้วัตถุมงคลหลวงปู่หลิวอย่างแตกฉานชัดเจนตามมาตรฐานสากลนิยม

 

 

♦♦♦ เสริฐ เต่านิลจา เล่าให้ฟังว่าช่วงวัยรุ่นติดการพนัน ได้เงินจากขายปุ๋ยขายวัตถุมงคลเต่าหลวงปู่หลิวก็หมด สุดท้ายไปรู้จักกับป้ารัตน์ ลุงแดง แผงพระที่นครปฐม เป็นคนใจดีให้พระมาขายก่อนทำให้มีลูกค้ามากขึ้นพอมีเงินหมุนบ้าง อยู่มาวันหนึ่งเหมือนสวรรค์ลิขิตชีวิตใหม่จึงกลับตัวกลับใจไปหาหลวงปู่ที่วัดกราบรูปเหมือนหลวงปู่หลิวแล้วกล่าวว่า “ขอให้ผมกลับไปมีชีวิตที่ดีผมจะเลิกเล่นการพนัน” หลังจากนั้นยืมเงินเพื่อนมา 600 บาทเช่าเต่าหลวงปู่หลิวได้หลายองค์ไปขายได้กำไรต่อยอดสะสมมีกำไรเป็นแสนจึงเลิกเล่นการพนันตั้งใจทำมาหากินยึดอาชีพขายปุ๋ยเช่าหาเต่าหลวงปู่ไปขายให้ลูกค้าที่ท่าเรือกำไรดี

 

 

 

 

♦♦♦ ปี พ.ศ.2561 เสริฐ เต่านิลจา อายุ 30 ปี ได้สร้างหลวงปู่หลิวองค์ใหญ่ให้ประชาชนได้กราบไหว้บูชาที่วัดเขาถ้ำชะอางค์ ต.หนองไผ่ อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี พร้อมวิหารแก้วครอบองค์พระ เพื่อเชิดชูหลวงปู่หลิวและรำลึกถึงพระคุณของหลวงปู่ที่ได้เมตตาให้ได้เกิดและมีชีวิตใหม่มาถึงปัจจุบันนี้ ด้วยบุญบารมีของหลวงปู่หลิว ปณฺณโก ทำให้ เสริฐ เต่านิลจา ได้เห็นแสงสว่างทางการประกอบอาชีพในช่วงโควิดเศรษฐกิจซบเซา ทำให้ได้เห็นภาพที่ปรากฏในแบงค์ 1,000 บาท รัชกาลที่ ๙ มีหลากหลายในด้านเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่ง เสริฐ เต่านิลจาและครอบครัวมีพื้นเพทางเกษตรกรรมอยู่แล้วจึงตัดสินใจซื้อที่ดินหลังวัดไร่แตงทอง 3.2 ไร่ช่วงนั้นราคา 2 ล้านบาท พลิกแผ่นดินรกร้างให้เป็นสวนเกษตรผสมผสาน ชื่อ “สถานีเต่านิลจาชิงช้ายักษ์” เปิดเป็นร้านกาแฟสด เลี้ยงแกะ ทำฟาร์มไก่ชน เพาะพันธ์ไก่ชนพื้นเมืองขายเป็นอาชีพเพิ่มรายได้ด้วยครับ ไก่ชนมีราคาตั้งแต่ตัวละ 500 บาทถึง 10,000 บาทขึ้นไป เลี้ยงนกกระทาขายไข่ ปลูกหญ้าเนเปีย เป็นหญ้าอาหารสัตว์ที่นิยมปลูกกันมาก ลำต้นและใบมีขนาดใหญ่มีมูลค่าทางอาหารสัตว์สูงและเติมโตเร็วทำรายได้ขายนักท่องเที่ยวให้เดือนละหลายหมื่นถึงแสนทีเดียว

 

 

♦♦♦ จึงเชิญชวนนักสะสมพระเครื่อง เซียนพระ และผู้ที่ศรัทธาไปกราบไหว้ขอพรหลวงปู่หลิวที่วัดไร่แตงทอง ได้แวะมาเยี่ยมเยือนพักผ่อนที่ฟาร์มสวนเกษตรผสมผสานแบบชีวิตพอเพียงตามรอยในหลวงรัชกาลที่ ๙  “สถานีเต้านิลจาชิงช้ายักษ์” หลังวัดไร่แตงทอง ท่านจะได้บรรยากาศในมุมของความเพลิดเพลินกับแกะฝูงใหญ่ที่ชอบคลุกคลีกับคนให้อาหาร และได้รสชาติของกาแฟสดที่หอมกรุ่นชวนจิบช่วงพักผ่อนอิริยาบถหลังไหว้พระขอพรหลวงปู่หลิว สอบถาม โทร.080-6766185, 085-7046400