วันศุกร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2567 00:44 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

แม่ลิ้นจี่พาชิม

แม่ลิ้นจี่ : วันจันทร์ ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2565, 15.54 น.

เที่ยวชมสวนเกษตรอินทรีย์..ที่ “ไร่จอมยุทธ์” อิ่มอร่อยกับ “พิซซ่าเตาฟืน” สไตล์..โฮมเมด

วันนี้ “แม่ลิ้นจี่” จะขออาสาพาทุกท่านไปเที่ยวชมสวนเกษตรผสมผสานที่ปลูกพืชแบบ ออร์แกนิค 100% พร้อมอิ่มเอมกับ “พิซซ่าเตาฟืน” เครื่องแน่นๆ และ “ไข่กระทะหน้าชีส” ที่ไร่จอมยุทธ์ ตำบลทุ่งคอก อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี อยู่ห่างจากกรุงเทพมหานครเพียง 120 กิโลเมตรเท่านั้นเอง

 

จากการที่ได้พูดคุยกับ “คุณยุทธพงษ์ กอบกาญจนา” ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่น KU 45 ทายาทเจ้าของธุรกิจโต๊ะจีนชื่อดังของเมืองสุพรรณ “ก.อาหาร” แห่งตำบลทุ่งคอก หลังจบการศึกษาก็ได้ช่วยกิจการของครอบครัว จนเมื่อปี 2559 เขาได้เริ่มผันชีวิตการทำงานเข้าสู่วิถีการเกษตรตามที่ร่ำเรียนมาอย่างจริงจัง

 

 

ด้วยการปรับปรุงพื้นที่ว่างเปล่าของตนเองที่มีอยู่ 28 ไร่มาเป็นสวนเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสาน อีกทั้งยังแบ่งพื้นที่เข้าร่วมเป็น “โคกหนองนาโมเดล” ปลูกอ้อยและคั้นทำน้ำตาลที่เป็นออร์กานิค ด้วยการมุ่งมั่นค้นคว้าเทคนิคใหม่ๆ จนมีความชำนาญและได้รับเป็นวิทยากรรับเชิญไปให้ความรู้เรื่องราวของการทำเกษตรอีกด้วย

 

นอกจากนี้ที่ไร่จอมยุทธ์ยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ให้กับผู้ที่สนใจในเรื่องการทำเกษตรอินทรีย์แบบผสมผสานอีกด้วย ที่บอกกันแต่แรกว่าเป็นสวนเกษตรแบบผสมผสานนั้นก็เพราะว่าที่นี่เขาจะแบ่งพื้นที่ออกเป็นสัดส่วนไม่ว่าจะเป็นสวนป่า สวนผัก ผลไม้ นาข้าว เลี้ยงปลา เลี้ยงเป็ดไข่ และปลูกอ้อย อีกทั้งยังมีสระน้ำไว้ใช้เพื่อการเกษตรเพื่อใช้บริโภคภายในไร่แบบครบวงจร

 

ที่นี่ค่าไฟฟ้า 0 บาท เพราะใช้กำลังไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลเพื่อการสูบน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าโดยไม่ต้องอาศัยไฟหลวงแบบพึ่งพาตนเอง
คุณยุทธพงษ์ได้บอกเล่าต่อไปว่า ตนเองและภรรยาแบ่งเวลาจากการทำงานกิจการของครอบครัวมาช่วยกันพัฒนาทุ่งนาว่างเปล่าจนกลายเป็นสวนเกษตรที่สวยงามร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด และได้นำรถ 6 ล้อเก่าที่เคยใช้วิ่งรับงานโต๊ะจีนมาปรับปรุงเป็นบ้านที่พักอยู่กลางไร่ และโครงการที่กำลังทำอยู่ก็คือปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นลานกางเต๊นท์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบสัมผัสกับบรรยากาศแบบใกล้ชิดธรรมชาติกันอีกด้วย

 

และจากที่บ้านมีธุรกิจรับจัดโต๊ะจีนนี่เองจึงรู้ว่าถ้าจะขายอาหารต้องเตรียมวัตถุดิบมากมาย จึงอยากทำเมนูง่ายๆ ด้วยอุปกรณ์ที่มีอยู่ในไร่และสามารถช่วยกันปรุงเองได้ ตนเองและภรรยาพร้อมกับลูกสาวจึงคิดเมนูอาหารในสไตล์แบบโฮมเมดให้ผู้ที่มาเยือนได้ลิ้มลอง

 

 

เมนูแนะนำนั่นก็คือ “พิซซ่า” ที่มีอยู่สารพัดหน้าให้เลือกชิม เช่น พิซซ่าฮาวายเอี้ยน หน้าไส้กรอกชีส หน้าปูอัดชีส และพิซซ่าหน้ารวม จุดเด่นก็คือจะเป็นพิซซ่าที่อบในเตาดินที่ทำขึ้นเอง โดยใช้ไม้ฟืนจากต้นก้ามปูที่หาได้ในสวนป่ามาเป็นต้นกำเนิดของความร้อน อบนานกว่า 10 นาทีจนแป้งบางกรอบกรุบสุกได้ที่หอมกลิ่นควันไม้ ตัดผ่าเป็นชิ้นๆ เสิร์ฟมาร้อนๆ ในถาดไม้ทรงกลม ใช้มือหยิบเห็นชีสยืดย้วยเป็นเส้นยาวใส่เข้าปากเคี้ยวกินได้อร่อยล้ำเกินคำบรรยาย

 

ความอร่อยอยู่ที่แป้งพิซซ่าที่มีความบางแต่ไม่แข็งคล้ายกับกินขนมปัง ถ้าอยากให้รสชาติจัดจ้านขึ้นมาอีกนิดก็เหยาะซอสมะเขือเทศ โรยพริกไทยและออริกาโนลงไปอีกนิดรับรองจะติดใจ ในราคาถาดละ 199 บาท

 

ไข่กระทะ..เป็นเมนูอาหารเช้าแต่ถ้าจะสั่งกินกันตอนเที่ยงก็คงจะไม่แปลก เขาจะนำไข่เป็ดสองฟองจากแม่เป็ดที่เลี้ยงเองด้วยข้าวออร์แกนิคที่ปลูกในไร่มาตอกใส่กระทะอลูมิเนียมโรยหน้าด้วยเบคอน ไส้กรอก ปูอัด ชีส ตั้งบนเตาไฟจนไข่ขาวสุกกำลังดีไข่แดงสุกเล็กน้อย ชีสหนาหนึบสุกเยิ้มๆ เสิร์ฟมาในกระทะร้อนหอมกรุ่น กินกับซอสมะเขือเทศ โรยพริกไทยลงไปหน่อยอร่อยจนลืมอิ่ม ถ้าใครสนใจจะท็อปปิ้งด้วยใบกัญชาทางร้านก็ยินดีจัดให้ได้ ในราคาแค่ 59 บาท

 

น้ำอ้อยคั้นสด..เครื่องดื่มแก้วนี้ไม่ควรพลาด เขาจะใช้อ้อยที่ปลูกเองพันธุ์สุพรรณบุรี 1  มาคั้นสดๆ วันต่อวันโดยไม่เจือปนส่วนผสมอื่นใด จะได้น้ำอ้อยที่มีสีเหลืองอมเขียวเสิร์ฟใส่แก้วมาพร้อมน้ำแข็งเย็นฉ่ำชื่นใจยามได้ลิ้มลอง รสชาติหวานหอมกำลังดี ในราคาแก้วละ 30 บาท

 

จากที่เคยทานพิซซ่าในห้างสรรพสินค้ากันมามากแล้วลองเปลี่ยนบรรยากาศมาทานพิซซ่ากลางไร่กลางสวนกันดูบ้าง “พิซซ่าเตาฟืน” ของที่นี่เขาจะเปิดบริการกันเฉพาะวันเสาร์และวันอาทิตย์เท่านั้น โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกันได้ที่ 081-009-1177 หรือที่ Facebook..ยุทธ์ ไร่จอมยุทธ์
ส่วนสถานที่ใกล้เคียงที่เหมาะจะแวะไปท่องเที่ยวและเยี่ยมชมหลังอิ่มอร่อยกันแล้วก็มีวัดทับกระดาน (ศาลพุ่มพวง ดวงจันทร์) เลยจากที่นี่ไปอีกนิดประมาณ 25 ก.ม. ก็จะถึงพุทธมณฑลสุพรรณบุรี อ.อู่ทอง ที่ประดิษฐานของพระปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ พระพุทธรูปแกะสลักจากหินหน้าผาใหญ่เป็นอันดับสามของโลก..สะดวกกันเมื่อไรขอเชิญแวะมาเที่ยวชมกันได้ มาพบกันใหม่กับแม่ลิ้นจี่ได้ใหม่ จะพาไปแวะชิมอาหารที่ไหน ติดตามกันได้ค่ะ