วันเสาร์ ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2568 02:23 น.

อื่นๆ » คอลัมน์

บ้านเมืองพระเครื่อง

อ. วันชัย : วันเสาร์ ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2565, 18.31 น.

“ต้า เชียงใหม่” เซียนเครื่องราง อีกหนึ่งคนที่น่าจับตามอง

 

       

 

♦♦♦  “นฤเบศร์ ศรีวิชัย ชื่อในวงการพระเครื่องรู้จักกันในนาม ต้า เชียงใหม่หนึ่งในเซียนเครื่องรางของภาคเหนือที่ชื่นชอบเครื่องรางเป็นชีวิตจิตใจ และสนใจใฝ่หาความรู้ตั้งแต่อายุ 18 ปี สมัยเรียนอยู่วิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่  เริ่มเรียนรู้จากคุณพ่อที่ชื่นชอบพระเครื่อง แต่ตนมุ่งมั่นและอยากศึกษาด้านเครื่องรางเพราะชื่นชอบในศิลปะ ซึ่งมีเอกลักษณ์รูปลักษณะแตกต่างออกไปหลายๆมุมเครื่องรางบางชิ้นนั้นบางทีอาจมีเพียง 1 ชิ้นในโลก

        

 

♦♦♦ “จุดเปลี่ยนในชีวิต ต้า เชียงใหม่ ช่วงเรียนจบ ปวส.จากวิทยาลัยเทคนิคเชียงใหม่ ได้ฝึกงานอยู่อู่ซ่อมมอเตอร์ 1 ปี ในช่วงฝึกงาน ได้ย้ายไปทำงาน ตรอ.เอกชนที่อำเภอสันป่าตอง  เงินเดือน 9,000 บาท ถือว่าดีที่สุดสำหรับนักศึกษาจบใหม่  หลังเลิกงานมีรับจ้างซื้อ-ขายรถจักรยานยนต์มือสอง ที่มีคุณตาทำเป็นทุนเดิม มีรายได้จากคุณตาให้พิเศษครั้งละ 300-500 บาทถือว่าพอกินพออยู่แม้จะแทบไม่เหลือเก็บเพราะมีภาระเยอะพอสมควร ทำงานไปด้วยศึกษาเช่าหาพระเครื่อง เครื่องรางจากหลักร้อยค่อยๆขยับ ขายหลังเลิกงานกับพี่ในวงการพระบ้านๆ ทำงานกินเงินเดือนมา 4 ปี

 

♦♦♦ จุดเปลี่ยนที่แท้จริงมีอยู่ว่า หลังเลิกงานทุกวันต้องไปถ่ายเอกสารให้เจ้านาย ร้านถ่ายเอกสารนั้นมีเจ้าของร้านชื่อ พี่ดล วงการพระเครื่องเรียก ดล วาดตะวันคนนี้แหละที่ชักชวนผมมาเล่นเครื่องรางแบบเต็มตัว  เรียกว่าเป็นอาจารย์คนแรกของผม ทุกเย็นจะมีการซื้อขายพระเครื่อง เครื่องรางที่หน้าร้านพี่ดล ผมเริ่มศึกษาจากวัตถุมงคล อาจารย์เณร วิเศษณ์สิงห์คำ วัดป่าสัก ซึ่งเป็นพระในเขตอำเภอสันป่าตอง และได้รับความนิยมมากในตอนนั้น เริ่มจากเอาเงินเก็บหลักพันมาซื้อกุมารทอง-วัวธนู อาจารย์เณร ซื้อขายกับพี่ๆ จนพี่ๆหลายคนเรียกผมว่า ต้า กุมาร จากนั้นผมได้มีโอกาสจากพี่ดลชักชวนให้เข้าร่วม ชมรมเครื่องรางล้านนา โดยมีพ่อครูวิลักษณ์ ศรีป่าซาง เป็นที่ปรึกษา พี่เชน เชียงใหม่เป็นประธาน มีสมาชิก 8-9 คน

 

 

♦♦♦ “ต้า เชียงใหม่ศึกษาเครื่องราง จากพี่ๆในกลุ่มเรื่อยมา ถือว่าผมโชคดีที่ได้ครูดี อย่างพี่ๆชมรมเครื่องรางล้านนา  บอกได้เลยว่าถ้าเรารักและศรัทธาในสิ่งที่เราทำ ทุกวันที่ทำมันมักมีความสุขเสมอ  เครื่องรางของขลังเป็นที่สิ่งที่ผมชื่นชอบมาก” เพราะแต่ละชิ้นกว่าครูบาอาจารย์ท่านสร้างมามันมีศิลปะผสมผสานอย่างลงตัว เช่น อิ่นหินแกะ ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องมืออะไรมากเริ่มจากการนำหินมาแกะ โดยใช้มีดค่อยๆฝนให้มีรูปลักษณ์คนกอดกันตามจินตนาการของผู้สร้าง บางตัวออกมาสวยงาม บางตัวออกมาเด๋อๆ หรือที่เรียกว่า ศิลปะ โฟล์คอาร์ต  ตามจินตนาการจึงเรียกว่าชิ้นเดียวในโลก เพราะไม่มีแบบไม่มีบล็อกบังคับให้เหมือนกันทั้งหมด  เครื่องรางนั้นจึงเรียกว่าศิลปะที่แตกต่างกันไป นั่นแหละคือเสน่ห์ของเครื่องราง

 

 

♦♦♦ มุมมองของอาชีพเซียนพระ ส่วนตัว ต้า เชียงใหม่ มองว่า ความถูกต้อง ความซื่อสัตย์  ความรับผิดชอบ ต้องมาก่อนเสมอ  บวกกับนิสัยอ่อนน้อมให้เกียรติซึ่งกันและกัน มีน้ำใจต่อเพื่อนพี่น้องร่วมอาชีพ ขยันหมั่นหาความรู้ศึกษาอยู่ตลอดเวลา ใช้โซเชียลค้นคว้าหาความรู้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ที่สำคัญต้องรับผิดชอบต่อลูกค้า แท้มาตรฐานสากล ราคาแบ่งปันมิตรภาพ เพราะลูกค้าคือผู้มีพระคุณ และสิ่งที่ผมทำเสมอคือหมั่นทำบุญ เงินที่ได้บางส่วนจากการซื้อขายเครื่องรางร่วมทำบุญตามโอกาส บุญที่ทำผมหวังจะส่งผลให้ถึงลูกค้าที่ซื้อขายพระเครื่อง เครื่องราง

 

 

♦♦♦ “ต้า เชียงใหม่” มองว่าทุกวันนี้วงการพระไปไกลมากคนรุ่นใหม่หันมาเล่นพระเครื่อง เครื่องราง กันอย่างมาก ทั้งตลาดพระและเทคโนโลยีที่กว้างไกล ทำให้การซื้อขายง่ายขึ้น เป็นเรื่องดีมากครับ วงการพระสามารถสร้างอาชีพได้ทุกเพศวัย แม้ต่างชาติให้ความสนใจพระเครื่อง เครื่องรางบ้านเรามากขึ้น  ผ่านทางโซเชียลอย่าง Facebook และทางเว็บไซต์ ต่างๆ โดยเฉพาะประเทศในแถบเอเชียที่นับถือศาสนาพุทธ  พระเครื่อง และเครื่องรางบ้านเราแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีเสมอมาและจะดีขึ้นไปเรื่อยๆ

 

♦♦♦ สุดท้ายนี้ ผม ต้า เชียงใหม่ ฝากร้านตลาดทิพเนตร ซอย 6 เชียงใหม่ และฝากติดตาม  Facebook: Ta Chiang-mai ไว้ด้วยนะครับและกราบขอบคุณทุกๆท่านที่เมตตาอุดหนุน ต้า เชียงใหม่ ด้วยดีเสมอมา ถ้าไม่มีท่านเมตตาก็คงไม่มี ต้า เชียงใหม่ในวันนี้