แม่ทัพใหญ่..ขุนอินทประมูล

แม่ทัพใหญ่..ขุนอินทประมูล

 

“สืบสาน พระสมเด็จ” บ้านเมืองออนไลน์

โดย..เจษ เมืองนนท์

 

 

วัดขุนอินทประมูล จังหวัดอ่างทอง เป็นวัดเก่าแก่ สร้างในสมัยพระยาเลอไท พระราชโอรสของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อคราวเสด็จทางชลมาร์คเพื่อดูทุกข์สุขของราษฎร โดยได้ทรงสร้างพระนอนองค์ใหญ่ความยาว 50 เมตร พระพักตร์ยิ้มละไม สงบร่มเย็นแล้วตั้งชื่อว่า “พระเลอไทนฤมิต”

ต่อมาเมื่อสุโขทัยอ่อนแอลง อยุธยามีอำนาจมากขึ้น จึงได้มีการบูรณะขึ้นใหม่ในรัชสมัยพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โดยขุนอินทประมูลเป็นแม่งาน ซึ่งแม้จะถูกคำครหา แต่ขุนอินท์ก็บูรณะจนสำเร็จสวยงาม และได้รับการเปลี่ยนชื่อเป็น “วัดขุนอินทประมูล”ตราบจนทุกวันนี้

จุดที่เกี่ยวข้องกับวงการพระเครื่องเริ่มต้นในปี พศ.2550 เมื่อทางวัดขุนอินทประมูลได้ประกาศว่ามีการค้นพบพระสมเด็จที่บรรจุในพระนอนซึ่งสร้างความฮือฮาให้กับวงการอย่างยิ่ง ท่ามกลางความกังขาว่า พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนี้ ทันยุคสมเด็จโตหรือไม่? โดยมีบรรดาผู้มีชื่อเสียงต่างออกมาให้ความเห็นที่หลากหลาย

 คุณพยัพ คำพันธ์ นายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทยกล่าวว่า “ทางสมาคมฯยังไม่มีการรับรองพระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลว่าทันยุคสมเด็จโตหรือไม่ เพราะยังมีประวัติที่ไม่ชัดเจน”

 คุณพิศาล เตชะวิภาคย์ หรือ ต้อย เมืองนนท์ อุปนายกสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย กล่าวว่า “พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลนั้น แม้จะเป็นพระทรงสมเด็จเหมือนกัน แต่ก็ต้องพิจารณาถึงพิมพ์ทรง เนื้อหา และธรรมชาติความเก่า จึงจะชี้ได้ว่าสร้างทันยุคหรือไม่”

 อีกท่านหนึ่งคือ อาจารย์ รังสรรค์ ต่อสุวรรณ ผู้ชำนาญการพระสมเด็จในแนวหน้าของเมืองไทย กล่าวว่า “หากพิจารณารูปทรงแล้ว มีความใกล้เคียงกับสมเด็จวัดระฆังอย่างมาก โดยมีส่วนต่างบ้างในบางจุด แต่ยังอยู่ในแนวทางเดียวกัน ในขณะที่หากดูเนื้อหาแล้ว จะพบว่ามีทั้งมวลสารเม็ดเล็กใหญ่ เม็ดพระธาตุ ปูไต่ หนอนด้น ซึ่งเป็นสูตรเดียวกับการสร้างสมเด็จวัดระฆังของสมเด็จพระพุฒาจารย์ พรหมรังสีทุกประการ”

นั่นคือความเห็นที่หลากหลายของครูบาอาจารย์ที่มีทั้งคัดค้านและสนับสนุน แต่กระนั้น ก็ยังหาข้อสรุป และยังหาหลักฐานใดๆมาสนับสนุนความเห็นของทั้งสองฝ่ายได้

 ท่ามกลางความสับสนและรอคอยอย่างเคว้งคว้างนั้น ก็เกิดแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์กับการก้าวเข้ามาของปลัด เสฎฐวุฒิ นาคทั่ง นายกสมาคมพระยอดนิยมแห่งสยาม

ในฐานะนายกสมาคมฯคนหนุ่มที่เปี่ยมด้วยพลังสร้างสรรค์นั้น ปลัด เสฎฐวุฒิ ใช้เวลากว่า 30 ปีศึกษาพระสมเด็จอย่างมุ่งมั่น ทั้งวัดระฆัง บางขุนพรหม เกศไชโย ซึ่งเป็น 3 วัดหลัก จากนั้นก็ได้ขยายวงเพื่อศึกษาสมเด็จวัดอื่นๆ อาทิเช่น พระสมเด็จกรุวัดสะตือที่มีประวัติบ่งชี้ชัดเจน และล่าสุดคือการศึกษาเรื่องพระสมเด็จกรุวัดขุนอินทประมูลที่ยังเป็นปัญหาและสับสนกันอยู่ทุกวันนี้

 ท่ามกลางการทุ่มเทสืบค้นจนเกิดการตกผลึกในข้อมูลแล้วนั้น ทางปลัด เสฎฐวุฒิ จึงคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะเปิดเผยหลักฐานประวัติที่มาของสมเด็จกรุขุนอินทประมูล โดยจะจัดอบรมเผยแพร่ข้อมูลต่างๆให้กับผู้ที่สนใจในวันเสาร์ที่ 20,27 มกราคม และวันเสาร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ 2567 ณ.ศูนย์โตโยต้าธุรกิจชุมชนพัฒน์ ต.โคกสว่าง อ.เมือง สระบุรี ตั้งแต่เวลา 10.00-16.00 น.เป็นต้นไป ใครสนใจก็ติดต่อได้ที่โทร.089 901 7799 ครับ

นานหลายปีทีเดียวกับการสับสนเคว้งคว้างของสมเด็จกรุขุนอินทประมูล แต่วันนี้ ถึงเวลาแล้วกับการเปิดเผยข้อมูลหลักฐานต่างๆให้กระจ่างชัดขึ้นด้วยการชูธงของปลัด เสฎฐวุฒิ นาคทั่ง นายกสมาคมพระยอดนิยมแห่งสยาม “แม่ทัพ..ขุนอินทประมูล”คนสำคัญ เพื่อหาคำตอบว่า “พระสมเด็จกรุขุนอินทประมูลทันยุคหรือไม่?”

เป็นความเคลื่อนไหวในแง่สร้างสรรค์ที่น่าจับตามองอย่างยิ่งทีเดียว...!!!